วันเสาร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

Review: L’Artisan Parfumeur – Explosions d'Emotions: Haute Voltige

L’Artisan Parfumeur – Explosions d'Emotions: Haute Voltige

จากที่เคยเล่ากลิ่นของหนึ่งในไลน์พิเศษ Explosions d’Emotion ไปแล้วอย่างตัวเซ็กซี่ขาดใจพ่อยกแม่ยกเนื้อแนบเนื้อสุดๆ อย่าง Skin on Skin ก็ถึงเวลาของตัวที่ 2 ที่ได้มีโอกาสมาเจอกันเสียทีหลังจากที่ได้เห็นประโยคสื่อสารของรุ่นนี้ว่า An Explosion of Joy เช่นนั้นไม่พลาด ต้องจัดและผลที่ออกมากับรุ่น Haute Voltige นี้คือ

กลิ่นแปลกมากและเก๋กว่าที่คิด เพราะมีความคาบเกี่ยวกันระหว่าง 2 อารมณ์อย่างชัดเจน ซึ่งสามารถทำให้คนที่ได้รับกลิ่นแบ่งออกเป็น 2 โซนด้วยเช่นกันคือ เกลียด และ ชอบ เพราะว่า Top Notes มากับการเป็นกลิ่นโทนเมทัลลิคโลหะกลั้วความเป็นผลไม้ ซึ่งเป็นอิทธิพลที่มาเต็มๆ เลยของลูกทับทิม เพราะผลไม้ชนิดนี้กลิ่นจะมาในโทนสดชื่นแบบผลไม้ก็จริงแต่ติดกลิ่นโลหะผสมผสานแบบที่ไม่ทำให้เรายี้ โดยกลิ่นจะมีตัวสนับสนุนให้รู้สึกได้ถึงความสะอาดอย่างพริกไทยเสริมเข้ามา กลิ่นเปิดเลยจะได้อารมณ์แบบที่เป็นกลิ่นผลไม้ที่ไม่ฉ่ำ มีความเป็นโลหะแบบเหล็กเจือปน แต่ก็ได้อารมณ์ความสะอาดสดชื่นด้วย ซึ่งกลิ่นทับทิมถือว่าเป็นตัวเด่นจริงอะไรจริง และไม่ได้ออกทางหวานแบบน้ำคั้นเข็นขายตามข้างทาง แล้วกลิ่นจะดำเนินเข้าสู่ Middle Notes ที่จะมีกลิ่นอายดอกไม้ใสๆ เข้ามาเสริมอย่าง Peony หรือดอกโบตั๋น โดยจะมาในโทนสดชื่นของหอมนวลคล้ายกุหลาบแบบสว่างๆ โดยจะมีกลิ่นของผลไม้ที่มาเสริมทัพอีกอย่างคือ จูนิเปอร์เบอร์รี่ กับกลิ่นอายที่ให้ความเป็นกลิ่นอายแบบคมๆ เย็นสะอาดๆ กลิ่นจะไม่ได้มาทางสายแบบฉ่ำๆ นัก มีความแห้งที่คงตัวไปตลอดแต่มันสดชื่น ซึ่งกลิ่นยังคงความแปลกและเก๋อยู่กับการเป็นโทนที่ดูธรรมดาอย่าง Floral Fruity แต่ไม่ธรรมดาที่มีกลิ่นออกทางโลหะแปร่งๆ กับกลิ่นสดชื่นแบบติดฝาดแต่มีความเป็นไม้หอมเจือประปรายไปตลอด จนเมื่อเข้าช่วง Base Notes กลิ่นไม้หอมเริ่มชัดเจนมากขึ้นกับกลิ่นอายของสน Fir ที่จะมาแบบไม้หอมสดชื่นเด่นขึ้นมา แต่ไม่ทำให้กลิ่นผลไม้กลั้วดอกโบตั๋นที่ตามมาจากช่วงกลางนั้นโดนกลบไป เพราะผสมผสานกันออกมาเป็นกลิ่นอายแบบหอมสดชื่นดอกดอกไม้นวลๆ โดยจะมีกลิ่นติดเขียวสากๆ ของ Oak Moss เสริมให้กลิ่นมีความแน่นที่ทำให้กลิ่นไม้หอมมีความดิบจางๆ ตามธรรมชาติ ซึ่งทั้งหมดมันเลยเป็นความแปลกและเก๋ในเวลาเดียวกัน และมีความหอมแบบไม่เหมือนใครนั่นเอง

เหมาะสำหรับ เขาลงไว้ว่าเป็น Unisex แต่เอาเข้าจริงมีความเป็นฝั่งสาวๆ ถึง 65% ได้เลย เพราะกลิ่นอายของทับทิมกับดอกโบตั๋นที่เด่นนี่แหละ ซึ่งกลิ่นนี้สามารถใส่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวัน แม้ว่าจะใส่ออกงานทางการได้ก็จริง แต่ให้เลือกสถานการณ์จะดีกว่า เพราะกลิ่นมันมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวพอสมควร นอกนั้นใส่แบบทั่วๆ ไปสามารถได้หมด ออกกำลังกายไว้ช่วงท้ายๆ จะดีกว่า ส่วนยามค่ำคืนกลิ่นถือว่าจัดได้อยู่ในแง่ของการบอกถึงความเป็นตัวตนที่เก๋ๆ ซึ่งสามารถเรียกร้องความสนใจได้อยู่ถ้าจำนวนสเปรย์ลงตัว

ความทน กลิ่นทนเกินคาด กับ 8 ชม. สบายๆ แล้วกลิ่นยังอยู่ให้รับรู้ได้ ซึ่งกลิ่นนี้จะอิงกับจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีด รวมถึงเคมีด้วยเป็นสำคัญ ซึ่งส่วนตัวกับจำนวนสเปรย์ 5 สเปรย์ จัดไปที่ 12 ชม. กลิ่นยังตีขึ้นอยู่

การกระจาย กลิ่นกระจายปานกลางในช่วงแรก และคงตัวการกระจายที่เสมอต้นเสมอปลายไปตลอด ไม่เน้นกระจายหนักหน่วง เน้นแบบออร่ารอบๆ ตัวแบบมีระดับเก๋ๆ ให้ความรู้สึกเป็นเอกลักษณ์ จนปลายๆ ช่วงท้ายที่เป็น Skin Scent ชัดเจน

ทิ้งท้าย จะบอกไงดี คือ ไม่สามารถบอกได้ว่าชอบ หรือเกลียด แต่บอกได้ถึงความรู้สึกที่ว่า “มันแปลกเก๋” มีเอกลักษณ์ และได้ความรู้สึกแบบชวนยิ้มได้ไม่ยาก ก็ถือว่าเข้า Concept – An Explosion of Joy ได้อยู่นะครับ

หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ถ้าผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ รบกวนติดต่อเพื่อขอเป็นลายลักษณ์อักษรและผมต้องอนุญาตก่อน ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้แบบไม่ได้ขอกันก่อนดีๆ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น