Ulric de Varens – UdV for Men
Ulric de Varens เป็นหนึ่งในแบรนด์น้ำหอมของฝรั่งเศสที่อยู่มาอย่างยาวนานเลยทีเดียวตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อปี
1983 ซึ่งแน่นอนว่าเป็นอีกหนึ่งใน Designer Brand ที่ทำน้ำหอมได้เข้าถึงได้ง่ายในราคาที่ไม่แรงจนเกินไปนัก ก่อนจะแตกแยกไลน์ของตัวเองมาสู่การทำเครื่องประดับ
Body Care เครื่องสำอาง
รวมถึงพวกน้ำหอมในบ้านด้วยในเวลาต่อมา ในเมื่อได้เวลามาลองน้ำหอมแบรนด์นี้
ก็ต้องมาที่ตัวยอดฮิตของแบรนด์ที่อยู่มาอย่างยาวนานกันก่อนเลยเพื่อแนะนำ
นั่นคือรุ่นนี้เลย UdV for Men
เปิดต้นกลิ่นมาด้วยความเป็น Citrus กันก่อนเลยกับกลิ่นของเลมอน
โดยที่จะมีความเขียวติดสมุนไพรเด่นคู่กันอย่างชัดเจนด้วยมินท์และโกฐจุฬาลัมพา (Artemisia)
ที่จะให้ความเขียวติดขมคมๆ มีความซ่าจางๆ
ซึ่งโดยพื้นฐานจะรู้สึกได้เลยถึงกลิ่นอายเขียวสากๆ ของ Oak Moss และแฝงไปด้วยความแมนของกลิ่นด้วยหญ้าแฝกที่เป็นตัวรองพื้นอยู่
ซึ่งย้ำกันชัดเจนว่ามีความเป็น Old School ในเนื้อกลิ่นแบบที่ไม่ได้มาแบบหนักหน่วงเข้าทางร่วมสมัยอยู่ไม่น้อย
และเมื่อเข้าสู่ช่วงกลาง กลิ่นโทนเขียวติดขมออกทางโปร่งของสมุนไพรแฝงไปด้วยกลิ่นอายของ
Citrus ติดเปลือกผลจะยังคงอยู่ แต่หญ้าแฝกจะชัดเจนขึ้นมาแบบแห้งๆ
ติดไม้หอม กลิ่นไม่ได้มาสาย Smoky มากนักแต่พอรู้สึกได้อยู่
โดยกลิ่น Oak Moss จะเริ่มเด่นขึ้นมาเรื่อยๆ
ตีคู่กับหญ้าแฝกและนำไปสู่ช่วงท้ายที่จะมีความนุ่มติดสะอาดๆ ของ Musk เป็นตัวรองพื้น โดยมี Oak Moss กลั้วความเป็นไม้หอมจางๆ
ของหญ้าแฝกที่ยังตามมาอยู่ผสมผสานกับกลิ่นพิมเสนที่มาแบบนวลๆ อ้อยอิ่งเคล้าความสดชื่นของซิตรัสยังมีให้รู้สึกได้อยู่บางเบา
ซึ่งถือว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่หอมสะอาดติดเขียวและลงตัวมากเลยทีเดียว ภาพรวมของ UdV
เลยจะมาในลักษณะกลิ่นอายร่วมสมัยที่มีความเป็น Old School แฝงเข้ามา ออกแนวสุภาพบุรุษหวีผมเรียบแปล้ด้วย Pomade แต่งตัวภูมิฐานสะอาดสะอ้านนั่นเอง
เหมาะสำหรับ – ผู้ชายทุกเพศทำงานขึ้นไป
กลิ่นนี้ถือว่าเข้าทางลักษณะใช้งานในชีวิตประจำวันได้แบบเสริมความเป็นสุภาพบุรุษที่ร่วมสมัยสะอาดสะอ้านติด
Retro หน่อยๆ ซึ่งเหมาะกับงานทางการที่มีการพบปะผู้คนเน้นการสร้างความน่าเชื่อถือหรือออกงานราษฎร์งานหลวงอะไรประมาณนั้น
โดยยืนพื้นที่กลิ่นอายสดชื่นติดเขียวเท่ห์ๆ นอกนั้นในเวลาทั่วๆ ไปชิลล์ๆ ก็ใส่ได้
ส่วนออกกำลังกายรอท้ายๆ จะดีกว่า ส่วนยามค่ำคืนจัดได้สบายๆ กับการออกงานเลี้ยง
หรือเที่ยวกลางคืนก็ได้แต่ต้องอัดสเปรย์หน่อยก็เท่านั้นเอง
ความทน – อยู่ที่
8 ชม. เป็นสำคัญ
ซึ่งอิงจากจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีดด้วยเช่นกัน
การกระจาย – กลิ่นกระจายดีมากในตอนต้นมาแบบคมๆ
กันเลยทีเดียว ก่อนที่จะลดระดับลงไปที่ปานกลาง และเป็นออร่ากึ่ง Skin Scent
ในช่วงท้าย
ทิ้งท้าย – ถือว่าเป็นกลิ่นอายที่อยู่ระหว่างรอยต่อของความเป็น
Old School ก็ได้ ความร่วมสมัยติด Modern ก็ดี มาในลักษณะของน้ำหอมช่วงยุคต้นๆ 90 กันอย่างชัดเจน
ที่สำคัญราคาไม่แรงเสียด้วยนี่สิ น่าสนใจมากจริงๆ
หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล
ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้แบบไม่ได้ขอกันก่อนดีๆ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้แบบไม่ได้ขอกันก่อนดีๆ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น