Carthusia - Ligea (Ligea la Sirena)
- เสียงอันไพเราะและล่อลวงของปีศาจในเทพปกรณัมกรีก
ที่ก่อให้เกิดหายนะต่อการเดินเรือมานักต่อนักอย่าง “Sirens”
กับการทดสอบว่าเสียงนั้นเป็นเช่นไรของ Ulysses ด้วยการให้ลูกเรือเอาขี้ผึ้งอุดหู
แล้วมัดตัวเองไว้กับเสาเพื่อฟังเสียงของปีศาจเหล่านี้
โดยไม่ให้หลุดไปหลงเสน่ห์จนเป็นเหยื่อ -
และนี่คือที่มาในการสร้างสรรค์น้ำหอมของ
Carthusia ในรุ่นที่ชื่อว่า Ligea
la Sirena หรือจะเรียกสั้นๆ ว่า Ligea ก็ได้
กับการถ่ายทอดผ่านกลิ่นเพื่อเล่าเรื่องราว ซึ่งจะเป็นเช่นไร
ต้องมาพิสูจน์ความล่อลวงผ่านกลิ่นกันซักหน่อยแล้ว
เรียกว่าเปิดต้นทางของกลิ่นกับ
Top Notes ได้ชัดมากกับการเป็นโทนส้มที่มีกลิ่นติดหวานปนขมหน่อยๆ กับลาเวนเดอร์นวลๆ แต่มีความปร่าซ่าชัดเจนกันตั้งแต่ช่วงนี้
และจะมีโทนของการเป็นโทนยางไม้ที่ติดหวานแทรกอยู่ในเนื้อกลิ่นตลอดเสียด้วย
ซึ่งนั่นก็คือกลิ่นโทน Opoponax ที่เป็นยางไม้โทนหวานนวลอบอุ่นติดโทนแป้งอับหน่อยๆ
เลยทำให้ช่วงนี้เป็นโทน Citrus ที่จะออกทางนวลอบอุ่นติดหวานที่เรียกแขกพอสมควรและล้อมไปด้วยความปร่าซ่าโปร่งของเครื่องเทศที่จะกลายเป็นหนึ่งในตัวเดินเรื่องสำคัญอย่างกานพลู
ซึ่งจะเป็นตัวนำเข้าสู่ Middle Notes ที่จะเป็นกลิ่นอายแบบเครื่องเทศปร่าเด่นนำ
รองพื้นด้วยความเป็นลาเวนเดอร์กับส้มหวานนวล เคล้าความเป็นโทนยางไม้หอมหวานแบบกำลังดี
ช่วงนี้จะมีกลิ่นอายวานิลลาเจือเข้ามาด้วย เลยได้ลักษณะที่เป็นโทนแป้งอบอุ่นที่มาจากวานิลลา
หวานดึงดูดจาก Opoponax ปร่าและโปร่งนวลจากกานพลูและลาเวนเดอร์กลั้ว
Citrus ทำให้กลิ่นมีความลึกล้ำและเย้ายวนชัดเจน
เพียงแต่กลิ่นไม่ได้ออกทางปล่อยของว่าชั้นมาสายยั่วยวนเซ็กซี่นะ
ออกแนวมาสายเรียบนิ่งและเอาอยู่แบบไม่โจ่งแจ้งเสียมากกว่า แล้วโทนแป้งอบอุ่นจะเริ่มเดินเข้าสู่การเป็นตัวเด่นใน
Base Notes ซึ่งกลิ่นของวานิลลาจะยังคงความอบอุ่นติดโทนแป้งอยู่
และมีความเป็นโทนยางไม้กลั้วไม้หอมเสริมให้หวานแบบกำลังดี ไม่ข้นจัด
ตัดทอนด้วยกลิ่นกานพลูที่ยังอยู่ จนได้กลิ่นที่เป็นโทนแป้งนวลติดโปร่งเครื่องเทศที่ไม่ได้หนักหน่วงมาก
แต่ปล่อยความดึงดูดเย้ายวนได้ชัดเจน กลิ่นวานิลลาในช่วงนี้แอบทำให้นึกถึงความเป็น
Shalimar ของ Guerlain ในระดับหนึ่งเพราะมาในโทนที่ใกล้เคียงกัน
เพียงแต่ไม่ปร่าซ่าเท่าซึ่งทำให้ภาพรวมของกลิ่นเป็นโทนเย้ายวนแบบที่ไม่ได้ปล่อยจริตจะก้านมากแบบชัดเจน
ยังมีการวางตัวอย่างมีระดับอยู่ โดยที่ให้กลิ่นนำทางความดึงดูดไปโดยไม่ต้องให้พฤติกรรมมันโจ่งแจ้งชัดเจนแบบว่าจะเอาให้ได้นัก
เรียกว่าชั้นเชิงดีและน่าสนใจ เหมือน Sirens ใช้เสียงที่ไพเราะดึงดูดผู้คนให้เข้ามานั่นเอง
เหมาะสำหรับ -
กลิ่นตราเอาไว้ว่า Unisex แต่เนื้อกลิ่นค่อนไปทางผู้หญิงมากกว่า
70% เพราะมันหวานเย้า แต่ผู้ชายใส่ได้ง่ายๆ
เพราะกลิ่นมันมีความอบอุ่นเป็นพื้นฐานที่กลางๆ อยู่แล้ว จึงเหมาะกับหลายๆ
สถานการณ์ยามกลางวัน จะใส่ออกกงานทางการก็ได้ แต่คุมจำนวนสเปรย์ให้เหมาะสม
เพื่อไม่ให้กระจายหนักหน่วงเกินไป ส่วนยามทั่วๆ ไป และอยู่ในห้องแอร์ทั้งวันจัดไป
กลิ่นจะหอมมีระดับลงตัวมากทีเดียว งดใส่กลิ่นนี้ออกกลางแจ้งหรือออกกำลังกาย
เพราะเจอความร้อนแล้วกระจายหนักมากจนอาจจะทำให้จุกคอหอยเอาได้
ส่วนยามค่ำคืนถ้าใส่ไปท่องราตรีแบบที่มีชั้นเชิงในการปล่อยของแบบมีระดับ
ไม่ได้เน้นเต้นรากแตก แหก 180 องศาอะไร
ถือว่าใส่ได้ขับเสน่ห์ได้น่าดูชมเลย
ความทน -
รุ่นที่ได้ลองนี้เป็น EDT ความทนเลยจะอยู่ระหว่าง
6 - 8 ชม. อาจจะมากกว่านี้ โดยอิงตามจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีดเป็นสำคัญ
ซึ่งส่วนตัวเจอไปที่ 8 ชม. สบายๆ กับ 6
สเปรย์
การกระจาย -
กลิ่นกระจายดีมากในตอนต้น ก่อนจะลดลงมากระจายปานกลางไปเรื่อยๆ
คนรอบข้างได้กลิ่นสบายๆ และถึงเป็นออร่ารอบๆ ตัวในช่วงท้ายที่จะหอมมีเอกลักษณ์จากแป้งวานิลลากานพลูและโทนยางไม้ติดหวาน
ทิ้งท้าย -
นอกจาก Shalimar แล้ว
ผมยังแอบนึกถึง Kenzo Jungle L’Elephant ในบางวูบ
แต่เนื้อกลิ่นมีความเป็นผู้ดีที่วางตัวดีกว่า นิ่งกว่าไม่โฉ่งฉ่างจัดเต็มไม่สนใจใครแบบ
Kenzo ซึ่งเรียกว่าเป็นกลิ่นที่น่าสนใจ มีจริต
และมีระดับตามสไตล์ของ Carthusia ที่ให้เราได้เห็นโทนกลิ่นที่แตกต่างจากรุ่นปกติหลายๆ
รุ่นของแบรนด์ได้ลงตัวมาก
หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!!
ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้
ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว
ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ
ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ”
Photo Credit by https://fimgs.net/images/secundar/o.8460.jpg
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น