Bond No.9 - The Scent of Peace for Him
หลังจากที่เล่ากลิ่นอาย The Scent of Peace for Her ของ Bond
No.9 ที่ขวดสีม่วงมีนกพิราบอยู่ด้านหน้าสวยงามกับกลิ่นอายที่หอมสดชื่นติดผลไม้กำลังดีแบบมาน้อยๆ ผู้ดีๆ ที่หลายๆ คนได้ดมก็ฟินได้ไม่ยากและอยากได้มาครอบครองได้เลยในทันที เช่นนั้นก็ได้เวลาของรุ่นผู้ชายบ้างว่ากลิ่นอายแห่งความสงบสุขดังชื่อรุ่นจะออกมาในลักษณะไหน
The Scent of Peace for
Him เปิด Top Notes กันด้วยความเป็นโทน Citrus
Fruity กันก่อนเลยกับกลิ่นอายของสับปะรดที่มีความเขียวติดเปรี้ยวเจืออยู่เนื้อกลิ่นจากมะกรูดฝรั่ง
(Bergamot) และมีความซ่าๆ ในกลิ่นบางๆ ให้พอสัมผัสได้
ซึ่งสาย Citrus ติดซ่าเขียวจะทำให้กลิ่นสับปะรดไม่ได้ไปสายแน่นนัวเกินไปนัก
มีความกึ่งใสกึ่งนัวกำลังดีเรียกว่าคนที่ชอบกลิ่นอายของสับปะรดจะฟินได้ไม่ยาก
แม้ว่าเมื่อเข้า Middle Notes กลิ่นอายของสับปะรดก็ยังไม่หนีไปไหนยังคงอยู่เป็นตัวเด่นอยู่
เพียงแต่ในเนื้อกลิ่นจะเริ่มมีความคมเสริมเข้ามาหน่อยๆ ออกทางเขียว แต่ก็จะมีความเป็นไม้หอมที่เนียนๆ
เข้ามาทำให้กลิ่นมีความครีมมี่บางๆ รองพื่้นด้านหลัง ในช่วงนี้จะมีโทนแมนๆ
ออกทางสมุนไพรติดเครื่องเทศโทนโปร่งให้พอรู้สึกได้เสียด้วย
เลยทำให้ได้อารมณ์ของความเป็นน้ำหอมสุภาพบุรุษแมนๆ และมีความคุ้นเคยบางอย่างกับกลิ่นที่มีน้ำหอมบางตัวที่กลิ่นใกล้เคียงพอสมควร
แต่ยังไม่กล้าฟันธงมากนัก ซึ่งเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้นเมื่อเข้า Base Notes เพราะกลิ่นอายของหญ้าแฝกที่มาแบบไม้หอมแห้งๆ
เข้ามาเสริมโทนของไม้ซีดาร์ ซึ่งกลิ่นโทนไม้หอมจะกลายเป็นตัวนำเด่นแทนในช่วงนี้
โดยกลิ่นอายสับปะรดจะลดโทนลงไปเป็นสายสนับสนุนที่เหลือเพียงกลิ่นออกทางผลไม้บางๆ
ทำให้กลิ่นมีความหวานเจือๆ และจะมีกลิ่นอายอบอุ่นติดเค็มบางๆ
คล้ายผิวกายที่ติดเค็มนิดๆ เสริมรองพื้นให้กลิ่นบางๆ แบบไม่เด่นมาก
ให้ความรู้สึกอบอุ่นกำลังดีในเนื้อกลิ่นเสียด้วย ทำให้กลิ่นช่วงท้ายมีลักษณะที่ได้ความเป็น
Dior Sauvage ตอกย้ำความรู้สึกแบบที่เหมือนเคยเจอกลิ่นแบบนี้มาจากที่ไหน
เพียงแต่ไม่ได้คมมากเท่า และเน้นความเป็นโทนไม้หอมที่มีระดับให้เด่นมากกว่า
กลิ่นเลยได้ความเป็นสุภาพบุรุษแมนๆ ที่ลงตัวกำลังดีไปตลอดนั่นเอง
เหมาะสำหรับ -
ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไปก็ใช้งานตัวนี้ได้สบายๆ
กลิ่นเข้าถึงได้ง่ายแต่ก็ยังมีระดับมากพอในการใช้งาน
ซึ่งใส่ได้ในแทบทุกสถานการณ์ยามกลางวันไม่ว่าจะทางการ ออกงาน หรือทั่วๆ ไป
เพราะกลิ่นครอบจักรวาลพอสมควร เพียงแต่ว่ากลิ่นไม่เหมาะกับการใช้ยามออกกำลังกายนัก
ไม่ได้เอื้อไปทางสายนั้น แต่ถ้ารอช่วงๆท้ายๆ หรือว่าใส่มาแล้วตั้งแต่เช้าแล้วไปออกกำลังกายต่อตอนเย็นแบบไม่ได้เติมสเปรย์ก็ได้สบายมาก
ส่วนยามค่ำคืน เหมาะมากกับการใส่ออกงาน เพราะกลิ่นมีระดับพอสมควร
หรือถ้าจะใส่ไปท่องราตรีแบบจิบเบาๆ สบายๆ ไม่ใช่เต้นเด้งเอวพลิ้วอะไรแบบหนักหน่วงนัก
ก็สามารถอยู่
ความทน -
ลงตัวที่ราวๆ 8 ชม. สบายๆ
และมากกว่านั้นได้สบาย อิงตามจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีดเป้นสำคัญ
โดยส่วนตัวเจอไปที่ 12 ชม. สบายๆ กลิ่นยังอยู่ให้รับรู้ได้เรื่อยๆ
การกระจาย -
กลิ่นกระจายดีในตอนต้นและค่อนข้างคงตัวการกระจายที่ดีไปตลอด
จนพอผ่านไปซัก 4 ชม.
กลิ่นจะเริ่มลดลงมากระจายกลางๆ กำลังดี จนเมื่อผ่านไปซัก 6 - 8 ชม. กลิ่นเริ่มจะเป็นออร่ารอบๆ กายแบบยาวไป
ทิ้งท้าย -
แม้ว่าจะเป็นกลิ่นสับปะรดเด่นอาจจะทำให้คนนึกถึงว่าควรจะเป็น Team Aventus แต่เพราะว่าในเนื้อกลิ่นมันมีลักษณะแบบ
Dior Sauvage อยู่เสียมาก เลยอยู่ระหว่างกึ่งกลางของทั้ง
2 รุ่นกำลังดี เสริมความมีระดับในเนื้อกลิ่นจากไม้หอมได้น่าสนใจ
ซึ่งถ้าใครอยากได้ลูกผสมของ 2 กลิ่นที่อ้างถึงแบบไม่เกี่ยงราคา
ตัวนี้ก็เป็นตัวเลือกที่ดีไม้น้อยเลย แต่กลิ่นจะให้ความรู้สึกว่าสงบสุขไหม
อันนี้ก็ตัวใครตัวเผือกแล้วกันเนาะ ไม่มีความเห็นในเรื่องนี้เพราะไม่ได้รู้สึกแบบชื่อรุ่นเท่าไหร่
55555
หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!!
ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้
ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว
ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ
ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ”
Photo Credit - thttps://item1.tradesy.com/images/bond-no-9-the-scent-of-peace-mens-cologne-33-oz-100-ml-eau-de-parfum-spray-brand-new-12232870-1-0.jpg?width=720&height=960
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น