วันอังคารที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

Review: Bond No.9 - The Scent of Peace for Him

Bond No.9 - The Scent of Peace for Him 

หลังจากที่เล่ากลิ่นอาย The Scent of Peace for Her ของ Bond No.9 ที่ขวดสีม่วงมีนกพิราบอยู่ด้านหน้าสวยงามกับกลิ่นอายที่หอมสดชื่นติดผลไม้กำลังดีแบบมาน้อยๆ ผู้ดีๆ ที่หลายๆ คนได้ดมก็ฟินได้ไม่ยากและอยากได้มาครอบครองได้เลยในทันที เช่นนั้นก็ได้เวลาของรุ่นผู้ชายบ้างว่ากลิ่นอายแห่งความสงบสุขดังชื่อรุ่นจะออกมาในลักษณะไหน 

The Scent of Peace for Him เปิด Top Notes กันด้วยความเป็นโทน Citrus Fruity กันก่อนเลยกับกลิ่นอายของสับปะรดที่มีความเขียวติดเปรี้ยวเจืออยู่เนื้อกลิ่นจากมะกรูดฝรั่ง (Bergamot) และมีความซ่าๆ ในกลิ่นบางๆ ให้พอสัมผัสได้ ซึ่งสาย Citrus ติดซ่าเขียวจะทำให้กลิ่นสับปะรดไม่ได้ไปสายแน่นนัวเกินไปนัก มีความกึ่งใสกึ่งนัวกำลังดีเรียกว่าคนที่ชอบกลิ่นอายของสับปะรดจะฟินได้ไม่ยาก แม้ว่าเมื่อเข้า Middle Notes กลิ่นอายของสับปะรดก็ยังไม่หนีไปไหนยังคงอยู่เป็นตัวเด่นอยู่ เพียงแต่ในเนื้อกลิ่นจะเริ่มมีความคมเสริมเข้ามาหน่อยๆ ออกทางเขียว แต่ก็จะมีความเป็นไม้หอมที่เนียนๆ เข้ามาทำให้กลิ่นมีความครีมมี่บางๆ รองพื่้นด้านหลัง ในช่วงนี้จะมีโทนแมนๆ ออกทางสมุนไพรติดเครื่องเทศโทนโปร่งให้พอรู้สึกได้เสียด้วย เลยทำให้ได้อารมณ์ของความเป็นน้ำหอมสุภาพบุรุษแมนๆ และมีความคุ้นเคยบางอย่างกับกลิ่นที่มีน้ำหอมบางตัวที่กลิ่นใกล้เคียงพอสมควร แต่ยังไม่กล้าฟันธงมากนัก ซึ่งเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้นเมื่อเข้า Base Notes เพราะกลิ่นอายของหญ้าแฝกที่มาแบบไม้หอมแห้งๆ เข้ามาเสริมโทนของไม้ซีดาร์ ซึ่งกลิ่นโทนไม้หอมจะกลายเป็นตัวนำเด่นแทนในช่วงนี้ โดยกลิ่นอายสับปะรดจะลดโทนลงไปเป็นสายสนับสนุนที่เหลือเพียงกลิ่นออกทางผลไม้บางๆ ทำให้กลิ่นมีความหวานเจือๆ และจะมีกลิ่นอายอบอุ่นติดเค็มบางๆ คล้ายผิวกายที่ติดเค็มนิดๆ เสริมรองพื้นให้กลิ่นบางๆ แบบไม่เด่นมาก ให้ความรู้สึกอบอุ่นกำลังดีในเนื้อกลิ่นเสียด้วย ทำให้กลิ่นช่วงท้ายมีลักษณะที่ได้ความเป็น Dior Sauvage ตอกย้ำความรู้สึกแบบที่เหมือนเคยเจอกลิ่นแบบนี้มาจากที่ไหน เพียงแต่ไม่ได้คมมากเท่า และเน้นความเป็นโทนไม้หอมที่มีระดับให้เด่นมากกว่า กลิ่นเลยได้ความเป็นสุภาพบุรุษแมนๆ ที่ลงตัวกำลังดีไปตลอดนั่นเอง 

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไปก็ใช้งานตัวนี้ได้สบายๆ กลิ่นเข้าถึงได้ง่ายแต่ก็ยังมีระดับมากพอในการใช้งาน ซึ่งใส่ได้ในแทบทุกสถานการณ์ยามกลางวันไม่ว่าจะทางการ ออกงาน หรือทั่วๆ ไป เพราะกลิ่นครอบจักรวาลพอสมควร เพียงแต่ว่ากลิ่นไม่เหมาะกับการใช้ยามออกกำลังกายนัก ไม่ได้เอื้อไปทางสายนั้น แต่ถ้ารอช่วงๆท้ายๆ หรือว่าใส่มาแล้วตั้งแต่เช้าแล้วไปออกกำลังกายต่อตอนเย็นแบบไม่ได้เติมสเปรย์ก็ได้สบายมาก ส่วนยามค่ำคืน เหมาะมากกับการใส่ออกงาน เพราะกลิ่นมีระดับพอสมควร หรือถ้าจะใส่ไปท่องราตรีแบบจิบเบาๆ สบายๆ ไม่ใช่เต้นเด้งเอวพลิ้วอะไรแบบหนักหน่วงนัก ก็สามารถอยู่ 

ความทน - ลงตัวที่ราวๆ 8 ชม. สบายๆ และมากกว่านั้นได้สบาย อิงตามจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีดเป้นสำคัญ โดยส่วนตัวเจอไปที่ 12 ชม. สบายๆ กลิ่นยังอยู่ให้รับรู้ได้เรื่อยๆ 

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้นและค่อนข้างคงตัวการกระจายที่ดีไปตลอด จนพอผ่านไปซัก 4 ชม. กลิ่นจะเริ่มลดลงมากระจายกลางๆ กำลังดี จนเมื่อผ่านไปซัก 6 - 8 ชม. กลิ่นเริ่มจะเป็นออร่ารอบๆ กายแบบยาวไป 

ทิ้งท้าย - แม้ว่าจะเป็นกลิ่นสับปะรดเด่นอาจจะทำให้คนนึกถึงว่าควรจะเป็น Team Aventus แต่เพราะว่าในเนื้อกลิ่นมันมีลักษณะแบบ Dior Sauvage อยู่เสียมาก เลยอยู่ระหว่างกึ่งกลางของทั้ง 2 รุ่นกำลังดี เสริมความมีระดับในเนื้อกลิ่นจากไม้หอมได้น่าสนใจ ซึ่งถ้าใครอยากได้ลูกผสมของ 2 กลิ่นที่อ้างถึงแบบไม่เกี่ยงราคา ตัวนี้ก็เป็นตัวเลือกที่ดีไม้น้อยเลย แต่กลิ่นจะให้ความรู้สึกว่าสงบสุขไหม อันนี้ก็ตัวใครตัวเผือกแล้วกันเนาะ ไม่มีความเห็นในเรื่องนี้เพราะไม่ได้รู้สึกแบบชื่อรุ่นเท่าไหร่ 55555 

หมายเหตุ: 

1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ

Photo Credit - thttps://item1.tradesy.com/images/bond-no-9-the-scent-of-peace-mens-cologne-33-oz-100-ml-eau-de-parfum-spray-brand-new-12232870-1-0.jpg?width=720&height=960

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น