Zoologist - Moth
Moth เป็นถือเป็นแมลงประเภทหนึ่งที่เรามักรู้จักกันในนามของผีเสื้อกลางคืน (ซึ่งแตกต่างกับผีเสื้อสวยๆ บินตอนกลางวันหรือ Butterfly) กลุ่มผีเสื้อกลางคืนจะเรียกว่าเป็นเผ่าพันธุ์ส่วนใหญ่ของผีเสื้อเลยก็ว่าได้ เพราะมีจำนวนมากกว่าผีเสื้อกลางวัน ซึ่งเราจะสังเกตุได้ไม่ยากเลยว่าผีเสื้อพวกนี้จะมีขนปกคลุมตามปีก และลวดลายไม่ได้สวยเท่าผีเสื้อกลางวัน รวมถึงมีรูปลักษณ์ที่แตกต่างจากผีเสื้อกลางวันชัดเจน บางทีแอบดูน่ากลัวเสียด้วยซ้ำไป
ซึ่งแน่นอนแมลงประเภทนี้มีเอกลักษณ์ที่น่าสนใจมาก เช่นนั้น หนึ่งในแบรนด์ที่เอาความเป็นสัตว์ประเภทต่างๆ มาถ่ายทอดสู่การเป็นน้ำหอมอย่าง Zoologist จึงได้นำเอาความเป็น Moth มาถ่ายทอดสู่การเป็นน้ำหอม โดยมี Story ที่บอกเล่าการสร้างสรรค์กลิ่นถึงวงจรชีวิตของผีเสื้อยามค่ำคืน รูปลักษณ์ และความลึกลับน่าค้นหา เช่นนั้น ได้เวลาของการแปลงร่างเป็นผีเสื้อราตรีกันหน่อย ซึ่งกลิ่นจะออกมาในรูปแบบใดว่ากันตามนี้เลย
Moth เปิดตัวด้วยลักษณะกลิ่นที่เป็นโทนเครื่องเทศแต่มีโทนรองพื้นด้วยแป้งเจือความหวานลึกเนียนๆ อยู่ ซึ่งกลิ่นเครื่องเทศจะมีความหนาปนหวานกำลังดีและไม่ได้ไปสายอบอุ่นมากนัก กลิ่นที่เด่นออกมาเลยคือ อบเชยที่จะให้ความอวลหวาน เจือกลิ่นติดหวานปนเหงื่อนิดๆ ของยี่หร่า และมีความหวานปนขมลึกๆ น่าค้นหาของหญ้าฝรั่นที่ไม่ได้ทำให้กลิ่นมีความเป็นสายอาระเบียน ซึ่งโดนกล่อมกลิ่นให้มีความปร่าเผ็ดหน่อยๆ เข้าร่วมด้วยของกานพลูและเม็ดจันทน์หอมที่มาเกลาไม่ให้เผ็ดคมปร่าพุ่งเกินไป ตามด้วยความเผ็ดนวลรองพื้นของพริกไทย เคล้ากับโทนแป้งติดอับจืดเจือหวานนวล โดยทั้งหมดทั้งมวลต้องยกให้เลยว่ากลินเปิดคุมความสมดุลย์ของความเป็นเครื่องเทศได้ดีมาก เพราะมีลูกเล่นที่หวาน อวล น่าค้นหา เย้าลึก ปร่าดึงดูด และโทนกลิ่นไม่ได้ไปสายอบอุ่น แต่มีโทนเย็นๆ เนียนๆ แฝงอยู่ตลอด ได้อารมณ์ความเป็นกลางคืนเข้ามาร่วมด้วย
เพียงไม่นานกลิ่นโทนแป้งเจือนวลทึบปนกลิ่นดอกไม้เริ่มเข้ามาเทคโอเวอร์ กลิ่นจะเริ่มมีลูกเล่นความเป็นโทนแป้งเจือเครื่องเทศแบบที่มีความลึก เย้า ดาร์ก และลึก และแอบสร้างความหลอนนิดๆ ซึ่งกลิ่นที่มาแบบชัดเจนเลยคือไอริสที่ให้ความเป็นแป้งเจืออับอ่อนๆ ซ้อนกับกลิ่นแป้งเจือนวลค่อนทางอัลมอนด์ของดอกเฮลิโอโทรเป้ แต่สิ่งที่มาสอดรับความหวานของเครื่องเทศในตอนต้นที่ลดระดับมาผสมผสานกับโทนแป้งช่วงกลางเลยคือกลิ่น ดอกกระถินเทศ (Mimosa) ที่จะให้ความหวานเจือเขียวโปร่งแทรกเคล้าไปกับกลิ่นเครื่องเทศติดหวานเย้าลึก และแอบจับได้ว่ามีกุหลาบนวลๆ อยู่ในเนื้อกลิ่นด้วยมาสอดรับสร้างความน่าค้นหาเข้าไปอีก 1 สเต็ป ซึ่งกลิ่นจะมีความดาร์กและเย็นๆ ที่ลึกลับไม่น้อยเลย เรียกว่าคุมโทนการสร้างอารมณ์กลิ่นยามกลางคืนได้อย่างดีมาก ที่สำคัญจะมีกลิ่นออกทางน้ำผึ้งที่เริ่มจากใสๆ แบบเป็นกลิ่นที่ต่อเนื่องจาก Mimosa ค่อยๆ เปิดตัวออกมาทีละหน่อยๆ เสียด้วย
แต่แล้วก็จะเริ่มเปลี่ยนชัดเจนมากขึ้นไปอีก เพราะว่าเริ่มจะมีกลิ่นอายสาย Animalic ปน Woody ที่แหวกโทนกลิ่นในช่วงกลางออกมาอย่างชัดเจน เปลี่ยนช่วงในการเข้าสู่ช่วงท้ายแบบเต็มๆ และกลายเป็นโทนกลิ่นหลักชัดเจนมาก โดยโทนน้ำผึ้งจะเข้มขึ้นมีลักษณะกลิ่นแบบหวานแต่มีสาบ Animalic ติดเครื่องเทศเจือเนียนๆ ในเนื้อกลิ่นที่กลายเป็นกลิ่นหลักครอบโทนอื่นๆ ชัดเจนมากเวลากระจายออกมา โดยเมื่อดมเข้าไปใกล้ๆ จะจับได้ถึงความเป็นโทนไม้หอมเจือควัน Smoky ปนกลิ่น Oud ติดไม้แห้งแนวหญ้าแฝกที่เป็นเลเยอร์ชั้นกลางให้ความเป็นกลิ่นไม้หอมลึกอวลมีพลังและลึกลับแบบติด Vintage ในเนื้อกลิ่นหน่อยๆ เพราะมีโทนแป้งจากช่วงกลางตามมาเลยติดลึกลับปนหลอนสาบเร้ากึ่งกรุยกรายเดินทางสายดาร์กอย่างชัดเจน และเมื่อดมเข้าไปใกล้ผิวจะมี Musk ที่ติดโทนดิบหน่อยๆ เคล้ากลิ่นสารหอมอย่าง Ambroxan ที่สร้างกลิ่นอายผิวกายติดเค็มอวลมีโทนไม้หอมอบอุ่นหน่อยเชื่อมโทนกับเลเยอร์ไม้หอมดาร์กอวลลึกที่เป้นเลเยอร์ตรงกลาง ทำให้กลิ่นช่วงนี้จะให้อารมณ์สาบเร้าเย้าดิบเคล้าหวานแต่ติดกรุยกรายลึกลับและมีความซ่อนลึกแบบมีออร่าแบบซ่อนคมและมีความซับซ้อนแบบสายดาร์กดิบในเนื้อกลิ่นได้แบบชัดเจนและยาวไปจนกว่าน้ำหอมจะพอใจ
เหมาะสำหรับ - Unisex ก็จริง แต่มีลักษณะค่อนไปทางผู้หญิงมากกว่าหน่อยเพราะกลิ่นให้ความกรุยกรายเนียนๆ ในช่วงท้าย แต่ยังไงผู้ชายก็ใช้ได้สบายมาก ซึ่งกลิ่นนี้อาจจะต้องผ่านน้ำหอมเชิงซับซ้อนและเป็นโทนน้ำผึ้งติด Animalic ปน Vintage มาพอสมควร เพราะกลิ่นไม่ได้ใช้ง่ายเท่าไหร่ แถมยังซับซ้อนเล่นโทนกลิ่นสภาพแวดล้อมเคล้าอารมณ์ลึกลับมีพลังปนหลอนหน่อยๆ อารมณ์แบบมีสายตาที่มีพลังบางอย่างมองผ่านความมืดยามค่ำคืนแบบที่เราไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใครอะไรประมาณนั้น ซึ่งกลิ่นนี้ใช้ยามกลางวันได้อยู่ แต่เบามือหน่อย เพราะเข้มข้นมาก เลี่ยงยามทางการและการใส่เพื่อกิจกรรมออกกำลังกายต่างๆ ออกไปได้เลย แต่ถ้าใส่ทั่วๆ ไปสร้างความลึกลับน่าค้นหาแบบติดนิ่งลึกมีพลังแผ่ออกอันนี้ได้เลย ส่วนยามค่ำคืนอันนี้ใส่ได้สบายมากกลิ่นมาสายนี้และเน้นความลึกลับ เร้าเย้าหลอนล่อลวง แบบที่สร้างออร่าความดาร์กและลึกลับได้ดีมาก แต่พิจารณาดูแล้วกันว่าจะใส่กับสถานการณ์แบบไหน เพราะกลิ่นนี้เน้นการสร้างคาแรคเตอร์เสียมากกว่าที่จะสอดรับในเรื่องสถานการณ์
ความทน - มากกกกก เป็น Extrait de Parfum หรือ Pure Parfum ที่ความเข้มข้นสูง ความทนและการมีพลังจึงมาครบและเต็มเหนี่ยว กับสิ่งที่เจอคือ 18 ชม. กลิ่นยังอยู่ อาบน้ำแล้วกลิ่นยังติดผิวจางๆ อยู่เลย เพียงแค่ใช้งานที่ 3 สเปรย์เท่านั้นเอง
การกระจาย - กลิ่นกระจายดีช่วงต้น แล้วลดลงมาปานกลางที่เสถียรในเรื่องการกระจายพอสมควรแบบยาวๆ ไป จนเมื่อผ่านไปซัก 8 - 10 ชม. กลิ่นจะเป็นออร่ารอบๆ ตัวที่ให้ความสาบเร้ามีพลังปนดาร์กลึกลับที่คงตัวกันยาวไป
สรุป - กลิ่นสร้างภาพในหัวเวลาใช้งานได้ทั้งแบบสภาพแวดล้อมกลิ่นอายยามค่ำคืนแบบที่ผีเสื้อกลางคืนพวกนี้ใช้ชีวิต รวมถึงการมีพลังที่ลึกลับและสร้างความไม่น่าวางใจในความรู้สึกได้ดีมาก ตลอดจนจะมองอีกมุมให้แทนเป็นคาแรคเตอร์ของบุคคลก็จะได้อารมณ์เหมือนเห็นผู้หญิง (ที่เราไม่เห็นหน้าตา) ในชุดกรุยกรายสไตล์โกธิคสีดำแต่จับได้ว่ากำลังมองลงมาที่เราจากบ้านใหญ่ๆ สไตล์ยุโรปกึ่งปราสาทยามค่ำคืนที่มีความลึกลับ ดาร์ก และมีความหลอนเร้าสร้างทั้งความอยากรู้อยากเห็นและความน่ากลัวเนียนๆ ไปพร้อมๆ กัน เรียกว่า เออ ทำกลิ่นได้มีคาแรคเตอร์ชัดเจนมากจริงๆ
หมายเหตุ:
1.
บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล
ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”
Photo Credit - https://www.zoologistperfumes.com/products/zoologist-moth-deluxe-bottle
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น