Jo Malone - Fig & Lotus Flower
จากแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์กลิ่นที่มาจากสวนลอยบาบิโลน สู่การออก Collection ใหม่ในปี 2020 อย่าง Lost in Wonder สู่การนำเอากลิ่นอายที่น่าสนใจต่างๆ ในสวนนั้นมาต่อยอด ไม่ว่าจะเป็นดอกบัว สนไซเปรส และมะเดื่อ (Fig) มาแยกออกเป็น 2 กลิ่นจับคู่กัน คือ Cologne Intense ขวดดำ ที่เอาสนไซเปรสไปจับคู่กับองุ่นแทน และจับคู่การเป็นมะเดื่อกับดอกบัวในการเป็น Cologne ปกติ ขวดใส
เช่นนั้นจึงเป็นเวลาในการตามเก็บในครบทั้ง Collection ซะทีหลังจากสัมผัสความทันสมัยและ Trendy ในการเป็น Cypress & Grapvine ที่อบอวลและผ่านการเล่ากลิ่นไปแล้ว ก็มาถึง Fig & Lotus Flower ซึ่งจะสื่อสารกลิ่นอายโทนสว่างออกมาในลักษณะไหน สิ่งที่ได้ก็ออกมาเป็นแบบนี้เลย
สิ่งแรกที่มาทักทายเลยคือการเป็นโทน Citrus Green ที่จะเป็นลูกผสมระหว่างการเป็นโทนเปรี้ยวสดชื่นที่น่าจะมีทั้งเกรปฟรุตเพราะมีความเปรี้ยวแปร่งสว่างๆ เลมอนที่ให้ความเป็นโทนฉ่ำๆ ในสไตล์ Cologne และมีกลิ่นติดขมเปรี้ยวหน่อยๆ สร้างบรรยากาศของมะกรูดฝรั่ง (Bergamot) รวมเข้ามาอยู่ด้วย + กลิ่นออกทางเขียวต้นไม้ใบหญ้าวูบมาก่อนเพื่อนเลย แต่เพียงไม่ถึง 30 วินาทีก็จะจับต้องได้ถึงกลิ่นเขียวขมกึ่งมิลค์กี้ที่ติดทึบในลักษณะของใบ Fig ที่มาเสริมให้จับต้องได้ว่านอกจากโทน Citrus และโทนเขียวที่สร้างบรรยากาศแล้ว ต้องไม่ลืม Fig ผู้นี้ด้วย ซึ่งทำให้ภาพรวมช่วงเปิดคือการเป็นโทนบรรยากาศสดชื่นที่มีความเป็นธรรมชาติของโทน Citrus ที่เสริมด้วยความเขียวได้ลงตัวมาก
การเปลี่ยนแปลงจะเริ่มเข้ามาเสริมให้การเป็น Fig & Lotus Flower มีความชัดเจนมากขึ้น เพราะกลิ่นโทนดอกบัวที่ให้ความหวานแกมฉ่ำ Aquatic เบาๆ จะเข้ามาสร้างให้กลิ่นมีความฉ่ำประปรายให้รู้สึกได้ และมีลูกเอื้อนความหวานมากขึ้น ซึ่งทำให้ช่วงกลางเนื้อกลิ่นจะมีโทน Citrus Green อยู่เช่นเดิม แต่กลิ่นใบ Fig จะเด่นขึ้นมามากขึ้น โดยที่มีกลิ่นดอกบัวเอื้อนปลายฉ่ำแกมหวานสร้างความชุ่มชื้นในเนื้อกลิ่น โดยที่โทน Citrus ทั้งหลายจะลดทอนลงเป็นเป็นตัวเสริมความสดชื่น แต่ไม่ใช่แค่นี้ เพราะในความเป็น Citrus จะมีโทนดอกส้มที่สกัดด้วยไอน้ำ (Neroli) เป็นตัวให้ความเขียวติดเปรี้ยวหอมที่นุ่มนวลให้โทน Citrus มากขึ้น และเชื่อมความเป็นดอกไม้กับดอกบัวร่วมด้วย สร้างความสะอาดแกมสดชื่นในเนื้อกลิ่นได้พอดีและลงตัว ทำให้ช่วงกลางจะมีความชัดเจนมากใน 4 + 1 โทนผสมผสานกันเป็นเนื้อเดียวเลยนั่นคือ ความเขียวของใบ Fig ที่ให้ความเขียวติดทึบมีความมิลค์กี้อ่อนๆ แกมกลิ่นเขียวใบไม้ใบหญ้า ความสดชื่นของโทน Citrus ที่ให้ความสว่าง ความฉ่ำ Aquatic อ่อนๆ ติดหวานปลายกลิ่นของดอกบัว และสุดท้ายความนวลเบาๆ ของดอกส้มที่คลอกลิ่นอยู่ ส่วนอีก +1 คือโทนไม้หอมโปร่งๆ ที่สัมผัสได้ว่าค่อยๆ แทรกตัวเข้ามาเป็นตัวเชื่อมต่อไปยังช่วงท้าย
ช่วงท้าย จะโดนปูทางก่อนเลยโดยกลิ่นโทนไม้หอมโปร่งๆ แกมแห้งๆ ซึ่งชัดเจนว่ามี ISO E Super อยู่ด้วยในการสร้างโทนไม้หอมโปร่งๆ สว่างๆ ในสไตล์ของไม้ซีดาร์ โดยจะมีกลิ่นหญ้าแฝกที่ให้ความ Earthy แกมไม้หอมแห้งๆ เสริมแต่ไม่หนักหน่วงเกินไป โดยที่มีความอบอุ่นของกลิ่นแบบกำลังดีแบบหยอดเอาแอมเบอร์เข้ามาผสมผสานด้วย และแน่นอนว่าพลาดไม่ได้ต้องมีกลิ่น Musk มาให้ความนุ่มสะอาดเนียนๆ เป็นพื้นกลิ่น เพียงแต่ว่ากลิ่นจากช่วงกลางจะตามมาพอสมควรด้วยเพราะจะได้กลิ่นใบ Fig อ่อนๆ แกมกลิ่นนุ่มนวลติดหวานปลายกลิ่นของดอกบัวผสมดอกส้มอยู่ด้วยที่ให้ความรื่นรมย์แกมสดชื่นปลายๆ กลิ่น และแอบได้กลิ่นแบบองุ่นเขียวหน่อยๆ มาสร้างกิมมิคที่ให้โทนติดผลไม้นิดๆ เลยทำให้เลเยอร์ของกลิ่นมีความน่าสนใจมาก เพราะจะมีความหอมเขียวติดหวานเบาๆ ตามด้วยกลิ่นติดผลไม้บางๆ และตามด้วยไม้หอมที่สะอาดและสว่างๆ มีระดับ ซึ่งทั้งหมดคุมโทนได้ดีในลักษณะกลิ่นแบบ Cologne ที่ให้ความสดชื่น และความมินิมัลแกมเรียบหรูในการเป็นสไตล์ของ Jo Malone ได้ครบถ้วน
เหมาะสำหรับ - Unisex เลยเข้าได้หมด ถ้าต้องการความสดชื่นและมีเสน่ห์ของกลิ่นใบ Fig หน่อยๆ เรียกว่าตอบโจทย์ เพราะกลิ่นไม่ได้ Fig จ๋าจนเกินไปออกมาทางผ่อนคลายสดชื่นจากบรรยากาศเสียมาก จึงแตะการใช้งานแบบครบวงจรในยามกลางวัน ไม่ว่าจะเป็นทางการหรือทั่วๆ ไป ส่วนยามค่ำคืนเน้นวันอากาศร้อนๆ ใส่ออกงาน หรือว่าใส่แบบชิลล์ๆ จะดีกว่า เพราะกลิ่นไม่ได้ไปสายจอมพลังอยู่แล้ว
ความทน - อันนี้คือเกินคาด เพราะตอนแรกคิดว่าน่าจะเทไว แต่เอาจริงๆ แตะ 8 ชม. ได้สบายมาก ถือว่าเกินค่าเฉลี่ยของ Jo Malone ในสาย Cologne ปกติได้ดีเลย ซึ่งถ้าเทียบค่าเฉลี่ยตามสภาพผิวก็อยู่ที่ 6 ชม. ได้อยู่
การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น แล้วจะลดลงมาปานกลางไปราวๆ 2 ชม. ก่อนที่จะคงที่กับการเป็นออร่ารอบๆ ตัวยาวไปจนแตะชั่วโมงที่ 5 - 6 ก็จะเริ่มติดผิว
สรุป - เป็นอีกหนึ่งกลิ่นใบ Fig ที่ไม่ได้มาหนักหน่วงหรือเขียวปั๊ดทึบๆ แบบน้ำหอม Fig ที่เป็นตัว Top จากหลากหลายแบรนด์ แต่ให้ความผ่อนคลาย สดชื่น และรื่นรมย์ ได้ดีในการใช้งานแบบไม่ต้องเยอะสิ่งได้สบายมาก ที่สำคัญคุมโทนการเป็นกลิ่นสไตล์ Cologne ได้ดีมาเสมอ และถ้าใครต้องการที่จะเริ่มเรียนรู้กลิ่น Fig กลิ่นนี้ก็ตอบโจทย์ได้ดีเลยทีเดียว
หมายเหตุ:
1.
บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล
สามารถเป็นได้ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่เขียน เพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นได้ทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”
Photo
Credit -
https://www.jomalone.co.th/product/25946/79589/colognes/fig-lotus-flower-cologne
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น