วันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

Review: Jo Malone - Violet & Amber Absolu

Jo Malone - Violet & Amber Absolu

เรื่องราว 1001 Nights หรือ 1001 ราตรี ที่นอกจากจะเป็นนิทานที่ยอดเยี่ยมแล้ว ในโลกของน้ำหอมก็ถือเป็นแรงบันดาลใจให้เแบรนด์ต่างๆ สร้างสรรค์กลิ่นอายโดยดึงเอาช่วงเวลานั้นๆ ในเรื่องราว สภาพแวดล้อม หรือความเป็นตัวละครมาต่อยอดในการสร้างสรรค์กลิ่นก็มาก ยิ่งทางฝั่งแบรนด์ตะวันออกกลางถือว่ามีให้เลือกมากมาย และก็ลามมาถึงฝั่งแบรนด์ตะวันตกด้วยที่เอามาประยุกต์ให้เข้ากับบริบททางกลิ่นที่เป็น Mix & Macth ก็มีไม่น้อย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มี Jo Malone รวมอยู่ด้วย 

แต่การจะสื่อสารถึงกลิ่นอายแบบตะวันออกกลางที่มีความ Mix & Match กับสไตล์ของแบรนด์ จะคงเดิมที่การเป็น Cologne หรือ Cologne Intense คงไม่ได้สื่อสารชัดเจนมากนัก เช่นนั้นการมาเป็น Cologne Absolu น่าจะมีความชัดเจนที่สุดที่จะมาเล่าเรื่องราวอาหรับราตรี โดยการจับคู่กับกลิ่นอายน่าค้นหาของไวโอเล็ตกับการเป็นโทนแอมเบอร์ที่ให้ความอบอุ่นอยากมีเอกลักษณ์แทน เช่นนั้นมาว่ากันที่เรื่องราวกลิ่นซักหน่อยว่าจะออกมาในรูปแบบไหน

Violet & Amber Absolu เปิดต้นกลิ่นใน 10 วินาทีแรกจะมีความประดังประเดกันในระดับหนึ่งก่อน เพราะเราจะจับจับต้อง Note กลิ่นต่างๆ ได้เยอะมากในการผสมผสานกันออกมาแบบอวลๆ มีความหนาในเนื้อกลิ่นแบบที่เป็นสไตล์ทันสมัย แต่ + กลิ่นแนว Amber แกม Oud อยู่ ทำให้ได้อารมณ์กันในวูบแรกแบบอวลๆ นัวๆ กันนิดนึง ก่อนที่จะหลีกทางให้ตัวเปิดสำคัญอย่างไวโอเล็ตที่จะมาทั้งดอกที่ให้อารมณ์โทนแป้งโปร่งๆ ติดหวานแกมเขียว และใบไวโอเล็ตที่ให้อารมณ์เขียวติดชื้นๆ กึ่งแตงกวากึ่งใบบัวบก ที่จะมาทักทายก่อนแบบลดทอนความอวลที่มาทักทายตอนแรกไปหมด เหลือเพียงกลิ่นสนับสนุนที่ให้ความ Earthy ดินๆ ชื้นๆ ดาร์กหน่อยๆ ที่ทำให้ช่วงนี้แม้จะมีความสดชื่นแบบเย็นๆ ชื้นเขียวๆ ก็จริง แต่มันออกแนวดาร์กๆ เสียมากกว่า ซึ่งได้อารมณ์แบบอากาศชื้นๆ ยามค่ำคืนได้เลย ถือว่าเปิดมาได้น่าสนใจมาก

เมื่อความสดชื่นแบบชื้นๆ เริ่มลดทอนลงมาจะเริ่มแตะความรู้สึกถึงความเป็นแป้งที่ชัดเจนมากขึ้นจากดอกไวโอเล็ตที่ยังเป็นตัวหลักของช่วงกลางเคล้าความเป็นพิมเสนดาร์กแห้งหน่อยๆ เพียงแต่เนื้อกลิ่นจะมีลูกผสม 3 โทนที่นอกจากความเป็นแป้งคือ

1. กลิ่นโทนอบอุ่นอวลๆ ที่มาจากโทนแอมเบอร์แต่ไม่ใช่แอมเบอร์แบบลักษณะกึ่งวานิลลากึ่งยางไม้ แต่เป็น Labdanum ที่ให้โทนแอมเบอร์ลึกๆ มีความหวานหน่อยแกมหนัง ที่มาสร้างความอวลๆ อุ่นๆ ในแป้งไวโอเล็ต

2. กลิ่น Musk ที่ออกแห้งๆ ที่มีลูกผสมกลิ่นโทนดอกไม้หน่อยๆ ให้โทนรองพื้นที่สะอาดกำลังดี และสอดรับกับโทนแป้งไวโอเล็ตกำลังงาม

3. กลิ่นโทน Oud ที่จะมาแบบอวลแบบแห้งๆ ไม่หนักเกินไป และไม่ได้อวลลึกแบบตะวันออกกลางเกินไป สร้างความน่าค้นหาเย้ายวนในเนื้อกลิ่นแบบมีมิติ

ซึ่งทั้งหมดจะทำให้กลิ่นโทนแป้งมีมิติที่อบอวลอุ่นกำลังดี มีความเย้ายวน และมีความละมุนแบบที่ให้ความพอดีระหว่างการเป็นโทนตะวันตกที่มีเสน่ห์ความเป็นโทนแบบอาระเบียนมาเสริมได้พอเหมาะ

เมื่อโทนแป้งไวโอเล็ตเลยจางลงไปเรื่อยๆ เหลือเพียงปลายกลิ่นหน่อยๆ ปล่อยให้กลิ่นโทนแอมเบอร์อวลๆ ที่มีลูกเอื้อนของวานิลลากึ่งยางไม้แบบโทนแอมเบอร์จริงๆ เปิดตัวมาเป็นตัวหลักโดยยังมี Labdanum เสริมอยู่ ก็จะเป็นการเข้าช่วงท้ายเต็มตัว ซึ่งช่วงนี้จะเป็น Amber Woody Musky ชัดเจนและมีความเป็นลักษณะกลิ่นแบบ Modern Arabian ที่มีความเป็นสากลมากกว่าจะเป็นโทนแนว Oud จ๋า ชั้นมาแล้วจ้ะ แบบน้ำหอมตะวันออกกลางแบบแท้ๆ กลิ่นเลยจะได้อารมณ์อบอุ่นอวลๆ ที่มีพื้นกลิ่นสะอาด และมีกลิ่น Oud คลอแบบประปรายอยู่รายล้อมอ่อนๆ อวลอยู่รอบกายไปเรื่อยๆ เป็นการปิดท้าย  

เหมาะสำหรับ - Unisex แบบที่เพศไหนก็ใช้งานได้ กลิ่นไม่ได้ใช้ยาก ออกจะทันสมัย แต่อย่างน้อยถ้าผ่านน้ำหอมสายลูกครึ่งตะวันออกกลางกับตะวันตกมาบ้าง ก็จะเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ซึ่งเข้าได้กับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันไม่ว่าจะเป็นทางการหรือทั่วไป จะมีก็แต่ก็แต่การใส่ออกกำลังกายที่ไม่เข้าทางเลย นอกนั้นตามสะดวก ส่วนยามค่ำคืนบอกเลยว่าจัดไป เนื้อกลิ่นเข้าทางใส่ออกงานหรือว่าท่องราตรีแบบหรูๆ ได้ดีมาก แถมมีเสน่ห์ดึงดูดแบบเรียบหรูอีกด้วย

ความทน - 8 ชม. คือค่าเฉลี่ย แต่สามารถไปต่อได้อีกถ้าเคมีได้และจำนวนสเปรย์เหมาะสม โดยส่วนตัวเจอไปที่ 12 - 15 ชม. เป็นประจำในการใช้งาน

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมากในตอนต้น เรียกว่าแอบตกใจในความอวลเลย แม้ว่าจะไม่ได้จัดหนักเท่ากลุ่มสายอาระเบียนแท้ๆ หรือกลุ่ม Power House แบบ Montale แต่ก็ถือว่าอวลกว่า Jo Malone ปกติไปมาก ก่อนที่จะลดลงมากระจายดีไปประมาณ 1 - 2 ชม. ถึงลงมาคงที่ที่ปานกลางไปจนถึงชั่วโมงที่ 4 แล้วผ่อนลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัวยาวไป จนเมื่อผ่านไป 8 ชม. จะค่อยๆ เป็น Skin Scent ตามลำดับ   

สรุป - เป็นอีกกลิ่นที่เอาความเป็นสไตล์แบบ Jo Malone มาเจอกับกลิ่นแนวอาระเบียนแบบ Modern ที่ทำกลิ่นออกมาอบอวลกำลังดีไม่หนักไปไปปล่อยพลังจัดจ้านมากไป จนทำให้เนื้อกลิ่นมีความเรียบหรูมากขึ้น ถ้าจะให้ตีความกลิ่นอาจจะไม่ได้รู้สึกถึงความเป็นอาหรับราตรีมากเท่าไหร่ มีแค่ช่วงแรกที่ให้ความรู้สึกเป็นกลิ่นยามค่ำคืนเท่านั้น แต่เนื้อกลิ่นได้อารมณ์ลูกครึ่งตะวันตกและตะวันออกกลางที่มีเสน่ห์น่าค้นหามาก ก็ต้องยอมเขาในเรื่องนี้เลย เพราะรักษาสมดุลย์ได้ดีจริงๆ

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล สามารถเป็นได้ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่เขียน เพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นได้ทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.jomalone.co.uk/product/25946/63484/colognes/violet-amber-absolu

 

1 ความคิดเห็น: