Calvin Klein - CK One Reflections
เป็นอีกหนึ่งไลน์ของน้ำหอมที่อยู่ยงคงกระพันออกลูกออกหลานแตกสายไปโน่นนี่ แต่ต้นตระกูลก็ยังคงที่ในความนิยมมาอย่างยาวนานและถือเป็นตำนานที่เป็น Iconic ของน้ำหอมมาตั้งแต่ปี 1994 จนถึงปัจจุบัน และไปต่อไม่รอแล้วนะอีกยาวๆ แน่นอน ซึ่งนี่ก็คือ CK One ของ Calvin Klein
และในปี 2023 ก็ได้เวลาของลูกสายตรงอีกหนึ่งที่เปิดตัวออกมาอีกหนึ่งอย่าง CK One Reflections กับ Concept การสร้างสรรค์กลิ่นที่ง่ายๆ กับอารมณ์ไปเที่ยวกับเพื่อน ลั่นล้าแฮปปี้กลางแจ้งสายน้ำแสงแดด ที่มาตอกย้ำความสำเร็จว่ายังไงน้ำหอมกลิ่นสดชื่น ไม่ว่าจะเปลี่ยนยุคเปลี่ยนสมัยไปแค่ไหนก็ยังเอาอยู่เสมอ และสามารถที่จะใส่ความนิยมจากองค์ประกอบกลิ่นที่ตอบโจทย์การใช้งานในยุคนั้นๆ ได้ด้วย เช่นนั้น กลิ่นนี้จะผนวกโทนออกมาแบบไหน ว่ากันได้ตามนี้
เปิดมาก็สดชื่นกันเลยกับโทนกลิ่นที่มีอารมณ์กลิ่นอายไอเย็นๆ วูบขึ้นมาพร้อมกับความเป็นกลิ่นขิงผสมเลมอน อารมณ์สดชื่นมีความใสๆ และมีความเป็นโทนกึ่งๆ Watery น้ำหน่อยๆ แฝง เพียงแต่ในความสดชื่นที่จับต้องได้มันจะมีโทนเขียวใสๆ สบายๆ ของชาเขียวแทรกอยู่ และก็มีกลิ่นออกทางอวลๆ กึ่งแอมเบอร์กึ่งไม้หอมอบอุ่นเนียนๆ ที่เป็นเสมือนพื้นกลิ่นทำให้กลิ่นมีน้ำหนักมากขึ้น ซึ่งช่วงนี้เรียกว่าปล่อยความสดชื่นแหล่ะ แต่ก็มีภาพรวมกลิ่นที่มีความทันสมัยในสไตล์อวลๆ ตามยุค 2020 แฝงเข้ามาให้รู้สึกได้ด้วย
เพียงไม่นานก็ได้เวลาของชาเขียวที่คราวนี้กลายเป็นตัวเด่นนำทีมในช่วงกลาง โดยจะมีกลิ่นของขิงและเลมอนที่เสริมอยู่ เพียงแต่โทนออกทางไอเย็นๆ แกมน้ำ Watery จะเด่นขับความเปฺ็นชาเขียวใสๆ ให้ชัดขึ้น ซึ่งนี่คือ Part ของความสดชื่นที่กระจายตัวออกมา แต่มีสิ่งหนึ่งที่จับต้องได้คือความหานกึ่งแป้งติดเขียวหน่อยๆ ของไวโอเล็ตที่ทำให้เมื่อดมใกล้ๆ จะขับต้องได้ถึงโทนแป้งที่เนียนอยู่ และมีความเป็นโทนหัวเหง้าออริสที่ให้อารมณ์แป้งติดทีบอ่อนๆ แนวๆ แป้งเครื่องสำอางค์ที่แทรกตัวเข้ามาร่วมด้วย ซึ่งช่วงนี้อารมณ์กลิ่นจะคล้ายกับเอาความเป็น CK Everyone EDT มาเจอกับ CK One ปกติ แต่ใส่โทนเย็นๆ เข้ามา และมีความเป็นโทนแป้งแกมเขียวมีความหวานใสฉาบหน้ามาเนียนๆ ที่เป็นตัวแปรสำคัญในการปรับทิศทางของเนื้อกลิ่นพอสมควร
เมื่อกลิ่นโทนไม้หอมติดอบอุ่นกึ่งแอมเบอร์ที่เป็น Trendy มากๆ ในปัจจุบันเริ่มเข้ามาเทคโอเวอร์ เนื้อกลิ่นช่วงท้ายจะลดทอนความสดชื่นลงไปจนเหลือเพียงอ่อนๆ ฉาบหน้า โดยที่ยังมีกลิ่นโทนเขียวใสอยู่ให้จับต้องได้อยู่บ้าง แต่หลักๆ เลยคือ กลิ่นโทน Musky Woody ที่มีความเป็นโทนแป้งแฝงเนียนๆ อยู่ตลอด กลิ่นจะมีความอวลกึ่งอบอุ่นแบบกำลังดี ไม่ได้อุ่นจนดูฮอตฉ่าเกินไป แต่ให้ความอบอุ่นเรื่อยๆ กลางๆ กำลังดี มีความ Mass เข้าถึงง่าย มีเสน่ห์แบบไม่ต้องอัดหนักและทันสมัย ใครๆ ก็ใช้ได้นั่นแล
เหมาะสำหรับ - Unisex ก็ Concept ของ CK One มาแบบนี้อยู่แล้ว ซึ่งก็ไม่หนี Concept ใช้ได้ทุกเพศตั้งแต่วัยเรียน ม.ปลาย เป็นต้นไป จริงๆ น้อง ม.ต้น ก็ใช้ได้ แต่เพราะกลิ่นช่วงท้ายมันอวลๆ อาจจะเน้นใช้ตอนไปเที่ยวชิลล์ๆ น่าจะดีกว่าใส่ไปเรียนตามที่มาที่ไปในการสร้างสรรค์น้ำหอม ซึ่งได้หมดทั้งกลางวันและกลางคืนในการใช้งาน เพราะช่วงท้ายมันเป็นโทนอวลๆ มีเสน่ห์ตามสไตล์น้ำหอมในกระแสอยู่แล้ว
ความทน - แตะที่ 6 - 8 ชั่วโมง และสามารถไปต่อได้อีกถ้าจำนวนสเปรย์เหมาะสม ส่วนตัวเจอไปที่ 8 - 12 ชม. กับการใช้งานที่ 6 สเปรย์ เรียกว่าเรื่องนี้ทำได้ดีเกินคาดในการเป็นหนึ่งในเครือ CK One
การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในช่วงต้น แล้วจะลดลงมาปานกลางกันยาวๆ พอถึงช่วงท้ายก็จะเป็นออร่าอวลๆ รอบตัว ไปเรื่อยๆ ก่อนที่จะเริ่มติดผิวจากผ่าน 6 ชั่วโมงไปแล้ว
สรุป - ใช้ง่าย สดชื่น รื่นจมูก อวลอุ่น และทันสมัย คือตรงตามการเป็นน้ำหอมที่เข้าถึงได้ง่ายมากตามสไตล์ CK One ที่อยู่ในกระแสความหอม ณ ปัจจุบัน + ผนวกความเขียวใสของ CK Everyone EDT มาเป็น Ref หน่อยๆ ซึ่งแม้ว่าอาจจะไม่ได้ดูแปลกใหม่ หวือหวา หรือว่าแสดงความเก๋และนำสมัยทางกลิ่นมากนัก แต่ก็เป็นอีกหนึ่งกลิ่นที่ยังไงก็รอดในการใช้งานได้ไม่ยาก
หมายเหตุ:
1.
บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล
สามารถเป็นได้ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่เขียน
เพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นได้ทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”
Photo
Credit -
https://www.calvinklein.us/en/ck-one-reflections-eau-de-toilette/44013359.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น