วันพุธที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2566

Review: Trussardi - The Black Rose

Trussardi - The Black Rose

เพราะว่าแบรนด์ต่างๆ ก็ต่างมุ่งสู่การเจาะตลาดฝั่งตะวันออกกลางกันมาตั้งแต่ช่วงปี 2005 ที่ทยอยๆ ปล่อยน้ำหอมเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานในโซนนั้นที่ถือว่าเป็นกลุ่มที่ต้องมีน้ำหอมในชีวิตประจำวันกันเลยทีเดียว รวมถึงเป็นตลาดที่ใหม่ในช่วงเวลานั้นอีกด้วยสำหรับ Designer Brand ซึ่งเมื่อแต่ละแบรนด์เริ่มทำตลาดได้ดี มีหรือที่แบรนด์อื่นๆ จะไม่เข้าไปแชร์ส่วนแบ่งการตลาด และหนึ่งในนั้นก็มีแบรนด์สายยีนส์ชั่วดังอย่าง Trussardi ที่เข้าไปร่วมกับเขาด้วย

และแน่นอนว่าการปล่อยของเพื่อเจาะตลาดฝั่งนั้นจะทำแบบทั่วไปไม่ได้ จึงได้เกิด Exclusive Collection ขึ้นมา ตั้งแต่ปี 2016 จนตอนนี้หยุดที่ปี 2018 กับ 3 กลิ่น ที่มีความน่าสนใจแตกต่างกันออกไปในการชูโรง Concept เช่นนั้น เลยขอซักหน่อยกับการได้ลอง 1 ใน Collection นี้ที่มานำเสนอกลิ่นกุหลาบแบบ Unisex ให้ได้ลอง ซึ่งนั่นก็คือ The Black Rose (ส่วนกลิ่นอื่นไว้มีโอกาสค่อยว่ากัน)

กุหลาบจะเป็นศูนย์กลางของกลิ่นที่อยู่กันตั้งแต่ต้นยันจบแบบเป็นตัวเมนและตัวตึงในด้านดีกันอย่างชัดเจน ซึ่งกุหลาบที่ทำหน้าที่หลักในการนำเสนอกลิ่นนั่นก็คือ Taif Rose ที่เนื้อกลิ่นจะไม่ได้จัดจ้านในความเป็นกุหลาบจ๋าสไตล์ Classic แต่จะมาในแบบที่มีลูกเอื้อนกลิ่นคล้ายชาที่ให้ความเบาๆ เรื่อยๆ แต่มีความชัดเจนให้รู้สึกได้ว่านี่แหละกุหลาบ เพราะตัวฐานกลิ่นของ Taif Rose จะมีความเป็นออกทางแป้งติดหวานนวลๆ อยู่ ซึ่งถือว่าเป็นกุหลาบที่แตะได้ในการใช้งานในโทนกลิ่นแบบร่วมสมัยคาบเกี่ยวไปสาย Modern ได้ชัดเจนมาก ซึ่งกลิ่นเปิดจะเริ่มที่การเป็นกุหลาบกลั้วกลิ่นปร่าฝาดเผ็ดนวลของพริกไทยที่ชมพูที่ทำให้เนื้อกลิ่นมีลูกเอื้อนกึ่งเครื่องเทศกึ่งสมุนไพรอ่อนๆ ที่กำลังดี และมีความขมแกมเปรี้ยวเบาๆ ของโทน Citrus แห้งๆ เบาๆ ที่สอดรับกับกลิ่นกุหลาบได้อย่างงามๆ สร้างให้กลิ่นมีความเป็นสีชมพูอ่อนๆ แกมเผ็ดพริกไทยหน่อยๆ ได้อย่างลงตัว และไม่พอยังจับต้องได้ถึงกลิ่นที่ออกทางกึ่งไม้หอมแห้งๆ ดาร์กๆ อยู่ด้วยเป็น Background ซึ่งนี่แหละที่ทำให้นึกถึงโทนสีสลับเฉดแบบ Black & Pink กันได้เลย

ช่วงกลางเรียกว่าต้องหลีกให้ตัวตึงเขาล่ะ เพราะว่ากุหลาบเฉิดฉายจริงจังมากๆ ในการนำเสนอตัวเองแบบกลิ่นกุหลาบหวานนวลระเรื่อแกมฝาดชาที่มีความปร่าเผ็ดหน่อยๆ และมีความเป็นแป้งนวลหวานอ่อนๆ รองพื้น แน่นอนนี่คือฝั่ง Pink แต่สิ่งที่สัมผัสได้มากกว่าการเป็นตัวตึงปล่อยกลิ่น นั่นคือ โทนที่สนับสนุนอยู่คือไม้หอมติดดาร์กๆ ก็เริ่มที่จะชัดขึ้นด้วยซึ่งเนื้อกลิ่นจะมีความอบอุ่นให้จับต้องได้ในลักษณะแบบโทนแอมเบอร์ + วานิลลาเบาๆ ที่มีความความปร่าระเรื่อของพิมเสนทำให้กลิ่นมีความหอมที่แตะโทนความร่วมสมัยระหว่างกลิ่นอายแบบ Classic ก็ได้ และร่วมสมัยก็ดี ซึ่งถือว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่ยังเล่นเฉดความเป็น Black & Pink อยู่ เพียงแต่จะมีความอบอุ่นและปร่าเย้าเข้ามาทำแต้มสร้างมิติในเนื้อกลิ่นมากขึ้นในการเสริมให้กุหลาบปล่อยเสน่ห์ความโรแมนติคได้อย่างเต็มที่และสร้างการรับรู้ตามชื่อกลิ่นได้เลย เพราะได้ความเป็นกุหลาบโทนสีชมพูสลับดำได้ชัดเจนมาก โดยไม่ได้หนักหน่วงหรือเข้มข้นเกินไป 

เมื่อกุหลาบเริ่มผ่อนโทนกลิ่นลงให้เนื้อกลิ่นโทนอบอุ่นที่มีวานิลลาเป็นหลักเข้ามาร่วมด้วยช่วยเป็นตัวตึง โดยมีแอมเบอร์แกมปร่าพิมเสนเสริมโทนได้อย่างพอเหมาะ ก็เป็นการเข้าสู่ช่วงท้ายของน้ำหอมที่จะให้อารมณ์กลิ่นที่เป็นกุหลาบหอมหวานโปร่งๆ ระเรื่อๆ แกมนวลๆ ที่ตอนนี้ไม่ได้มีแค่วานิลลาแล้ว แต่มี Musk เข้ามาเสริมด้วย และที่สำคัญยังคงมีกลิ่นอายแบบไม้แห้งๆ แกมยางไม้ที่มีความดาร์กหน่อยๆ เป็นฐานกลิ่นอยู่เช่นเดิม แต่เพิ่มเติมคือกลิ่นมีความชัดเจนมากขึ้นทำให้จับต้องได้ถึงความอวลๆ แบบโทนไม้หอมแกมอบอุ่นแห้งๆ คล้ายสาย Amberwood ที่ทำให้เนื้อกลิ่นมีความทันสมัยมากขึ้น โดยภาพรวมก็ยังคุมโทนความเป็นกุหลาบแบบ Blackpink ได้อยู่ครบถ้วนและสร้างเสน่ห์ในการใช้งานทางกลิ่นและมีชั้นเชิงด้านความหรูหรามีระดับได้อย่างลงตัว

เหมาะสำหรับ - Unisex ชัดเจน แม้จะมีกลิ่นอายที่จะไพล่ไปทางผู้หญิงเพราะกุหลาบอยู่บ้าง แต่ยังไงผู้ชายก็ใส่ได้ เผลอๆ สร้างความน่าค้นหาและโรแมนติคได้ดีอีกด้วย ซึ่งเข้ากับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันทั้งทางการและทั่วไป แต่ให้ตัดการใส่แบบกิจกรรมกลางแจ้งหรือว่าออกกำลังกายไปได้เลย เพราะไม่เข้าทาง ส่วนยามค่ำคืนเหมาะมากกับการใส่ไปแนวๆ โรแมนติคหรือว่าออกงานหรู เนื้อกลิ่นมีเสน่ห์จริงๆ แถมยิ่งเข้ากับชุดสีดำที่ทำให้ลุคดูมีความเย้ายวนน่าค้นหาได้ดีอีกด้วย

ความทน - 8 - 10 ชม. เป็นเรื่องปกติพื้นฐานของกลิ่นนี้ และสามารถไปต่อได้อีกจนถึง 15 ชม. ก็เจอเป็นประจำ

การกระจาย - กลิ่นจะมาแบบกระจายดีในช่วงต้นราวๆ 20 นาที ถึงจะผ่อนลงมาที่กระจายปานกลางไปเรื่อยๆ จนถึงราวๆ ชั่วโมงที่ 4 จึงลงมาคงที่กับการเป็นออร่ารอบๆ ยาวๆ จนถึงราวๆ ชั่วโมงที่ 10 ถึงค่อยๆ ลงมาเป็น Skin Scent เรียกว่าคุมการกระจายที่เหมาะสมได้สม่ำเสมอมาก 

สรุป - Blackpink (Rose) in your area! เนื้อกลิ่นเล่นโทนสีและความหอมที่ได้ทั้งความเป็นโทนสีชมพูของกุหลาบและโทนสีดำแบบไม่ได้หนักข้นให้ความดาร์กแบบกำลังดี ดูรวมๆ แล้วมีเสน่ห์เหลือเกินได้ไม่ยากเลยกับกลิ่นนี้ และที่สำคัญเป็นกลิ่นกุหลาบผู้ชายใช้งานได้ มันเด็ดตรงนี้นี่แหละ

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล สามารถเป็นได้ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่เขียน เพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นได้ทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.fragrantica.com/news/Trussardi-The-Black-Rose-9289.html

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น