“ในยามเด็กฉันกับน้องสาวชอบไปเล่นที่ตู้ไม้ที่สลักรูปสิงโตของพ่อมาก ซึ่งในตู้นั้นมีไว้เก็บหมวดของพ่อ เก็บสิ่งของที่พ่อชอบจนไม้ได้ดูดซับเอากลิ่นต่างๆ เข้าไป ไม่ว่าจะเป็นมินต์ กาแฟ ลาเวนเดอร์ เกรปฟรุต และอื่นๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่อยู่ในความทรงจำเสมอมา จนวันหนึ่งที่พ่อของฉันเสียไปและทิ้งตู้นี้เอาไว้ เวลาที่พวกเรากลับไปที่บ้าน น้องสาวฉันมักจะเปิดตู้แล้วมุดเข้าไป เพื่อสูดเอากลิ่นที่เปรียบเสมือนเป็นอ้อมกอดของพ่อและระลึกถึงท่านเสมอ และเมื่อทำความสะอาดตู้ กลิ่นเหล่านี้ก็ได้หายไป และเมื่อฉันได้เริ่มทำน้ำหอม เพื่อที่จะถ่ายทอดเอาช่วงเวลาที่มีความสุขของผู้คน น้องสาวฉันก็ได้มองและบอกกับฉันว่า -ทำกลิ่นตู้ไม้รูปสิงโตให้ฉันที-”
ซึ่งนี่แหละคือแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์กลิ่นของสุคนธกรอย่าง Sarah McCartney ในการดึงเอาความทรงจำกลิ่นอายต่างๆ ที่ตราตรึงในอดีตมาสู่ขวดและกลิ่นนี้ก็ไม่ใช่แค่จะอยู่กับครอบครัวเธอเท่านั้น และเป็นการแผ่เอาความสุขจากกลิ่นมาถึงคนอื่นๆ อีกด้วย เช่นนั้นมาสัมผัสกันว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง
กลิ่นเปิดบอกความรู้สึกได้อย่างหมดจดจริงๆ กับอารมณ์กลิ่นเหมือนเปิดตู้เก็บสิ่งของต่างๆ ที่มีทั้งกลิ่นไม้หอมอวลๆ กลิ่นสมุนไพรต่างๆ กลิ่นมินท์ กลิ่นติดเครื่องเทศเผ็ดโปร่งหวานของเมล็ดเทียนสัตตบุษย์ (Anise) กลิ่นปร่าแบบเหล้าจิน กลิ่นลาเวนเดอร์ค่อนไปทางโทนแห้ง และกลิ่นหอมสดชื่นติดสว่างๆ มีความเปรี้ยวหน่อยๆ ของเกรปฟรุต ซึ่งต้องยอมใจให้เลยว่าอารมณ์กลิ่นมีความซับซ้อนและซ้อนกันเป็นเลเยอร์กลิ่นอยู่ในโทนไม้หอม ได้อารมณ์แบบเปิดตู้ไม้เก่าๆ ที่ยังใช้งานได้ดีแล้วมีสิ่งของเหล่านี้วางอยู่แล้วกลิ่นผสมผสานกันฟุ้งออกมาให้รู้สึกได้ สร้างเสน่ห์ทางกลิ่นที่ยอดเยี่ยมในความรู้สึกที่ดึงเอาประสบการณ์แบบที่เราเคยเปิดตู้ไม้เก่าได้ดีมาก และเป็นการเชื้อเชิญให้เราดูต่อเลยว่าในตู้ไม้นี้มีอะไรให้เราดูบ้าง และได้ความรู้สึกแบบที่เราตื่นเต้นกับมันได้เลย
เนื้อกลิ่นจะมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย โดยจะเป็นการสลับความเด่นให้กลิ่นที่ฟุ้งกระจายจับต้องความรู้สึกที่หลากหลายในช่วงต้นแบบแผ่วลงไปเหมือนเราชินกับมันแล้วจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของกลิ่นที่เป็นสายสนับสนุน ก็จะเป็นการเข้าสู่ช่วงกลางที่โดดเด่นกับกลิ่นโทนไม้หอมแห้งๆ ที่จับต้องได้ชัดว่าเป็นไม้ซีดาร์และหญ้าแฝกแห้งติดโทนเก่าๆ ซึ่งได้อารมณ์แบบตู้ไม้เก่า โดยจะเป็นตู้ไม้ที่ยังมีลูกผสมกลิ่นต่างๆ ในช่วงต้นอยู่ครบถ้วนแบบที่ไม่ได้จัดจ้านเหมือนช่วงแรกแล้ว แต่เพิ่มเติมเอาความเผ็ดนวลของพริกไทยมาเสริมให้กลิ่นไม้หอมเข้มชัดขึ้นมีความปร่านวลกำลังดี และมีกลิ่นหอมติดหวานหน่อยๆ เข้าทางโทนดอกไม้มาปรับจมูกให้รับรู้กลิ่นแบบที่กลมกล่อมขึ้น ได้อารมณ์ตู้ไม้เก่าๆ ที่เก็บสิ่งของต่างๆ ผสมผสานกันมาเป็นอย่างดี โดยที่กลิ่นไม้จะเป็น Lead ในการนำพาทุกอย่างเข้าสู่การรับรู้แล้วประมวลผลในความรู้สึก ซึ่งอารมณ์แบบเรายืนสูดกลิ่นตู้ที่เราเปิดแล้วซึมซับทุกอย่างที่เป็นอะโรม่าในความทรงจำมาเต็มๆ
จนเวลาดำเนินไปแล้วเราเริ่มชินกับกลิ่นตู้ไม้นี้แล้ว ซึ่งเนื้อกลิ่นโทนไม้แห้งๆ ก็จะเบาลงไป เราจะได้กลิ่นสิ่งของที่เก็บเอาไว้ในกล่องหรือตลับบางอย่างที่ปิดเอาไว้จากการเปิดออกมา ซึ่งอย่างแรกที่ชัดเจนเลยคือ ยาสูบที่ให้อารมณ์อะโรม่าติดหวานโปร่งแห้งๆ ที่จะมาพร้อมกับกลิ่นโกโก้ที่เป็นโทนติดผงโกโก้ที่สร้างความรู้สึกหอมอวลกำลังดีและสร้างโทนสีน้ำตาลในความรู้สึกได้เลย และจะมีกลิ่นโทยอบอุ่นของวานิลลาที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายสบายๆ เข้ามาร่วมด้วย โดยที่ทุกอย่างยังยืนพื้นที่กลิ่นอายไม้หอมแห้งๆ ที่ยังมีอยู่ประปรายให้จับต้องได้อารมณ์ชินกับกลิ่นแบบที่เกริ่นไปในช่วงต้นย่อหน้านี้ เป็นการปิดท้ายกลิ่นที่สร้างความรื่นรมย์ติดอวลปนกลิ่นไม้หอมได้สมดุลย์ มีความเรียบง่าย แต่ไม่ธรรมดาในทุกอารมณ์ที่กลิ่นสื่อสารออกมาสร้างประสบการณ์ในการจับต้องกลิ่นที่มีความเฉพาะตัวได้อย่างยอดเยี่ยมมาก
เหมาะสำหรับ - Unisex เลย ซึ่งกลิ่นจะเป็นการถอดเอาสภาพแวดล้อมและความรู้สึกจากการเปิดตู้ไล่เรียงออกมาเป็นฉากๆ ได้ยอดเยี่ยมมาก ซึ่งมันแตะและดึงเอาประสบการณ์ในความรู้สึกของแต่ละคนที่ก็ต้องเคยเปิดตู้เก่าๆ มาก่อนกันบ้างแหละ แบบที่ไม่ว่าเพศไหนก็จับต้องได้และอินกับมันไม่ยาก ซึ่งกลิ่นจะเข้ากับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันหรือกลางคืนแบบใส่ทางการหรือทั่วๆ ไป ที่เน้นสร้างอะโรม่าให้นึกถึงความสุขที่ผ่านมาในอดีตแล้วทำให้เรายิ้มกับมัน แต่ไม่เข้ากับการใส่ออกกิจกรรมลุยๆ กลางแจ้งหรือออกกำลังกายเท่าไหร่ รวมถึงการใส่ไปท่องราตรีแน่นอน
ความทน - ลงตัวที่ราวๆ 8 ชม. เป็นสำคัญ แต่จะไปมากกว่านี้ได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับสภาพผิวกายและจำนวนสเปรย์ด้วยส่วนหนึ่ง ซึ่งส่วนตัวเจอไปที่ 8 - 10 ชม. ราวๆ นี้เสมอกับ 6 สเปรย์ในการใช้งาน
การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้นให้อารมณ์เปิดตู้ไม้เก่าที่มีของวางอยู่ชัดเจน แล้วจะลดลงมาปานกลางกำลังดีในช่วงกลางแบบเราชินกับกลิ่นแล้ว ก่อนที่จะลดลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัวสร้างความอะโรม่าติดหวานหน่อยๆ ของสายยาสูบและโทน Oriental ต่างๆ ไล่เรียงกันอย่างพอดีๆ จนเมื่อผ่านไปราว 6 - 8 ชม. ก็จะเป็น Skin Scent
สรุป - ต้องบอกเลยว่าน้ำหอมกลิ่นนี้สร้างภาพเป็นฉากๆ แบบที่เราเปิดตู้ไม้เก่าๆ ที่ข้างในยังเก็บของต่างๆ อยู่ ซึ่งมีทั้งความรู้สึกต่างๆ ที่อบอวลอยู่ข้างในจากผู้ที่เคยใช้งานและความอะโรม่าแบบที่ไม่สามารถหาได้จากที่ไหนง่ายๆ เพราะมันจะมีความเฉพาะตัวในการเก็บสิ่งของของแต่ละคน ซึ่งอันนี้ต้องยกนิ้วให้ความยอดเยี่ยมกับสุคนธกรเลย เพราะถ่ายทอดกลิ่นออกมาได้เหมือนเขาเอาตู้ของพ่อเขามาให้เราเปิดแล้วสำรวจจนรับรู้อารมณ์กลิ่นในทุกๆ ช่วงได้อย่างงดงามในความเรียบง่ายที่เฉพาะตัวจริงๆ
หมายเหตุ:
1.
บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล
ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”
Photo
Credit - https://www.basenotes.net/ID26138214.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น