Pacifica - Cosmosis, Vanilla Stardust
สิ่งที่สะดุดใจครั้งแรกเลยเวลาที่เห็นน้ำหอมรุ่นนี้ของแบรนด์ Pacifica นั่นคือ การเอากลิ่นโทนวานิลลามาเจอกับกลิ่นขี้เถ้า ซึ่งแค่นึกภาพเราจะได้อารมณ์วานิลลาติดอับไหม้อะไรประมาณนั้น แต่เพราะการตัดสินเพียงแค่นึกอย่างเดียว มันพิสูจน์ไม่ได้ เช่นนั้นการจัดมาเพื่อให้รู้จึงบังเกิด ที่สำคัญชื่อรุ่นน่าสนใจมากอย่างคำว่า Cosmosis ที่อ้างอิงการเป้นหนึ่งเดียวกันกับจักรวาล รวมถึงมีสร้อยห้อยต่อท้ายว่า Vanilla Stardust ที่เป็นละอองดาวสีวานิลลาเข้ามาอีก
เช่นนั้น ไม่ลอง ไม่ได้แล้วล่ะ
สิ่งที่เกิดขึ้นยามแรกสเปรย์ในการใช้งานและการเทสรอบต่างๆ อย่างแรกเลยคือกลิ่นอายออกทางสดชื่นแบบอากาศเย็นจะวูบขึ้นมาก่อน ซึ่งถ้าอ้างอิงกับ Note กลิ่นที่แบรนด์นำเสนอนั่นก็คือ Ozonic Note แต่มาเพียงวูบเดียวก็จางไป เพราะตัวหลักของกลิ่นอย่างวานิลลาที่แทรกเข้ามาพร้อมกับกลิ่นอายออกทางโทนผลไม้เบอร์รี่ที่ทำให้ช่วงแรกจะมีลักษณะกลิ่นที่มีความหอมแบบวานิลผสมกลิ่นอายเบอร์รี่ต่างๆ แบบเบอร์รี่รวมที่สัดส่วนโทนผลไม้ออกทางสีม่วงจะมากกว่าและเด่นออกมาเลย และเนื้อกลิ่นจะมีความหอมหวานชัดเจนออกมา แต่ข้อดีคือ กลิ่นไม่หนักเกินไปแม้จะเป็นกลิ่นโทนค่อนไปทางขนมมากเลยก็ตาม ก็เพราะมีความปร่าอ่อนๆ ที่สร้างความ Sparkling วิบวับแบบเบาๆ ปลายกลิ่นและเป็น effect ของโทน Ozonic ที่ทิ้งลายเซ็นเอาไว้แม้ว่าจะหายไปแล้ว
การเปลี่ยนแปลงของเนื้อกลิ่นจะไม่ได้ฉีกหรือแตกต่างนัก ค่อนทางมีความทางเดียวที่ให้โทนแบบค่อยเป็นค่อยไปและปรับโทนนิดหน่อยให้มีความหอมที่มีมิติขึ้น ซึ่งก็ถือเป็นการแบ่งช่วงน้ำหอมออกเป็น 2 ช่วงจากช่วงต้นมาสู่ Dry Down เลย โดยที่กลิ่นโทนวานิลลาเบอร์รี่จะเริ่มมีอารมณ์กลิ่นออกทางหวานแหลมนิดๆ ของกลิ่นออกทางกำยาน Benzoin ที่เป็นตัวสร้างโทนกลิ่นออกทางวานิลลาติดหวานแหลมที่ฟุ้งออกมา แกมกลิ่น Smoky แบบติดทึบไหม้เนียนๆ เข้ามาเป้นสายสนับสนุนให้กลิ่นมีอะไรที่จับต้องได้มากขึ้นและเมื่อดมเข้าไปใกล้ๆ กลิ่นออกทางโทนแป้งเข้ามาร่วมด้วยแบบรองพื้นเนียนๆ อยู่ ซึ่งแน่นอนว่ามิติกลิ่นยังคงให้อารมณ์แบบกลิ่นออกทางสาย Gourmand หรือขนมหวานเด่นอยู่แต่จะมีความดารก์เนียนๆ ไม่หนักหน่วงและความอบอุ่นสบายๆ สไตล์วานิลลาติดแป้งเข้ามาเสริม ซึ่งกลิ่นจะดำเนินไปยาวพอสมควรจนเมื่อโทนผลไม้เริ่มหายไป ถึงจะเป็นวานิลลานวลๆ ค่อนไปทางแป้งติดหวานแหลมปลายกลิ่นผ่อนคลายสบายๆ เป็นการปิดท้ายไปเรื่อยๆ จนถึงเวลาที่เหมาะสม
เหมาะสำหรับ - Unisex แต่ค่อยไปทางผู้หญิงมากกว่าราว 75% ซึ่งกลิ่นจะมีความน่ารัก หอมหวาน ไม่ซับซ้อน แต่ก็ไม่ได้ไก่กา ซึ่งเข้ากับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวัน แบบจำนวนสเปรย์กำลังดีถ้าวันอากาศร้อน แต่ถ้าอากาศเย็นเพิ่มได้ตามความเหมาะสม แต่ถ้ามากไปเดี๋ยวคนฉีดจะตึ้บก่อนเอา แต่ให้ตัดการใส่กับยามทางการจ๋าๆไปได้เลย กลิ่นไม่ได้ไปสายเสริมออร่าและบุคลิกทางการเท่าไหร่ รวมถึงการใส่เพือกิจกรรมกลางแจ้งและออกกำลังกายก็ไม่ต้องนึกถึงตัวนี้ แต่ถ้าใส่ทำงาน Office หรือทั่วๆ ไป ใช้ได้สบายมาก รวมถึงยามค่ำคืนเน้นใส่แบบชิลล์ๆ โรแมนติค หรือสบายๆ ได้เลย แต่ถ้าจะใช้ไปท่องราตรีอาจจะโดนกลบเอาได้
ความทน - กลิ่นทนอยู่ที่ราวๆ 6 - 8 ชม. เป็นสำคัญและไม่เกินนี้นัก ซึ่งอาจจะมีแกว่งตามสภาพผิวผู้ใช้ด้วยส่วนหนึ่ง ซึ่งส่วนตัวประมาณ 8 ชม. กับ 6 สเปรย์ก็ถือเป็นเรื่องดีแล้ว
การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในช่วงต้นแล้วจะลดลงมาไวำอสมควรในการเป็นออร่ารอบๆ ตัวกันไวมาก และคงตัวไปเรื่อยๆ จนเมื่อผ่านไปซัก 6 ชม. ก็ Skin Scent ชัดเจน
สรุป - เนื้อกลิ่นถือว่าให้ความเป็นวานิลลาหวานแหลมแกมกลิ่นผลไม้ได้มินิมัลพอสมควรและตรงไปตรงมาในการดำเนินกลิ่นที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากจนพลิกเกม มีความทางเดียวแต่มีมิติให้รับรู้ได้เวลาพินิจพิเคราะห์กับการดม เช่นนั้น อาจจะไม่ได้รู้ว่ากลิ่นนี้จะรวมเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาลอย่างไร แต่ถ้าบอกว่าตอบโจทย์ละอองดาวสีวานิลลาไหม? ตอบเลยว่าได้เลยเต็มๆ
หมายเหตุ:
1.
บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”
Photo
Credit - https://www.pacificabeauty.com/products/natural-origins-cosmosis
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น