Review: Chloe - L'Eau de Chloe
Chloe - L'Eau de Chloe
โบว์ครีมยอดฮิตก็ผ่านไป
โบว์ดำสุดมั่นก็ผ่านไป (แถมหาในไทยได้ยากมาก) คราวนี้ก็ได้เวลาของโบว์เขียวบ้างกับน้ำหอมผู้หญิงแบรนด์ที่ฮิตที่สุดในหมู่สาวๆ
เลยก็ว่าได้ในตอนนี้กับ Chloe ซึ่งกลิ่นจะมาในลักษณะไหนนั้น ต้องพิสูจน์
โบว์เขียว หรือ L'Eau de Chloe เรียกว่าเป็นการปรับโทนของโบว์ครีมมาเป็นลักษณะของความสดชืิ่นที่มีกุหลาบเป็นตัวดำเนินรายการเจือติดกลิ่นเขียวๆ
สบายๆ ซึ่ง Top Notes มากับความรู้สึกคมๆ
ติดแปร่งเจือหน่อยๆของน้ำเลมอนหรือ Lemonade ซึ่งจะให้ความสดชื่นคมๆ
กันเต็มๆ กลั้วไปกับกลิ่นอายเขียวๆ กำลังดี เจือกลิ่นกุหลาบกำลังงาม
ได้อารมณ์แบบสนุกสนาน ยิ้มง่ายโปร่งสว่างเจือเขียวได้ดีมาก
กลิ่นในช่วงนี้เรียกว่าเปิดตัวเรียกแขกเต็มๆ เพราะสามารถทำให้ชอบได้เลยเพียงแค่ดมในช่วงนี้แล้วยอมที่จะเสียตังค์ซื้อหามาในทันที
เพียงไม่นานก็เข้าสู่ Middle Notes ซึ่งกลิ่นกุหลาบแบบติดสดชื่นคมๆ
จะเริ่มลดทอนลงมาหน่อย ให้ความเป็นกุหลาบที่ชัดเจนมากขึ้น แต่ไม่ได้มาสายเข้ม
เพราะเนื้อกลิ่นมีความใสในลักษณะติดโทนน้ำ (ซึ่งเมื่อไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติมมาถึงได้รู้ว่า
ใช้ Rose Water ที่ 22% Concentration) เลยจะได้อารมณ์แบบโปร่งสว่าง สดชื่น สบายๆ กลิ่นไม่ได้ออกทางฉ่ำ
มีความแห้งแต่สดชื่นและเจือความเป็นดอกไม้ที่ดันให้ความเป็นกุหลาบชัดขึ้นอย่างโบตั๋นและมะลิเบาๆ
ที่สำคัญกลิ่นอายมีความเขียวโปร่งโล่งสบายเจืออยู่ตลอด แล้วตัวเอกอีกหนึ่งรายจึงได้ฤกษ์เปิดตัวนั่นคือ
พิมเสน จะเข้ามาเจือกุหลาบเรื่อยๆ จนนำเข้าสู่ Base
Notes ที่กลิ่นอายจะเป็นพิมเสนนวลๆ เคล้ากับกลิ่นกุหลาบ
ให้มีความเป็นกุหลาบโปร่งสะอาดสบายๆ มีกลิ่นเขียวสากๆ เจือ กับ Musk นุ่มๆ ไม้หอมอ่อนๆ ซึ่งยังคุมโทนความสดชื่นที่มีดอกไม้อย่างกุหลาบและกลิ่นแบบสบายๆ
ของพิมเสนเป็นตัวเด่นตีคู่กันไป เรียกว่าได้อารมณ์สาวน่ารักเดินในทุ่งหญ้าได้เลย
ซึ่งมีความหอมแบบมีระดับและสดชื่นในเวลาเดียวกัน ไม่ได้มาสายลูกสาวกำนันห้าวเป้งอะไรเสียด้วยซ้ำไป
เหมาะสำหรับ -
ผู้หญิงทุกเพศวัยเรียน ม.ปลาย ก็สามารถใช้ตัวนี้ได้แล้ว กลิ่นมีความสดชื่น สว่าง
ปลอดโปร่ง ได้ความรู้สึกแบบสนุกสนาน เรียบหรู และน่ารักในเวลาเดียวกัน
แถมมีระดับมากพอที่ไม่ได้มาสายพยายามลั่นล้า พยายามจะที่น่ารักแต่ประการใด
โโยสามารถใส่ได้ในทุกสถานการณ์ยามกลางวันเลย เรียกว่ากวาดหมดทั้งทางการและทั่วๆ
ไป กลิ่นเข้ากับอากาศร้อนๆ ของบ้านเรามาก ส่วนยามค่ำคืน เน้นใส่เพื่อความสดชื่นสบายๆ
น่ารัก เดินเลนทั่วไปจะดีกว่า ที่จะใส่ไปท่องราตรีพร้อมเต้นเอวเคล็ด
แม้ว่ากลิ่นจะเย้ายวนอยู่บ้าง แต่มันมาสายสดชื่น ก็เลยไม่ได้เอื้อให้เซ็กซี่มากมายก็เท่านั้นเอง
ส่วนคุณผู้ชายใส่ตัวนี้ได้ กลิ่นมีความ Unisex
อยู่บ้าง ซึ่งยังไงก็รอด แต่อาจจะโดนผู้หญิงมองหน่อยว่า
"ใส่ Chloe มาสินะ ผู้ชายคนนี้" เท่านั้นเอง
ความทน -
อันนี้ยกนิ้วให้เลย 8 ชม.
แล้วกลิ่นยังทำหน้าที่ได้ดีอยู่ ซึ่งอิงกับเคมีด้วยส่วนหนึ่ง
รวมถึงจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีดด้วยเช่นกัน
การกระจาย -
กลิ่นนี้มาสายเดียวกับโบว์ครีมและโบว์ดำ มาสาย Sillage Scent ที่เน้นกระจายออกรอบตัวเป็นบาเรีย
ซึ่งช่วงต้นกระจายดีมาก สดชื่นกันเต็มๆ แล้วจึงลดลงมากระจายดีกึ่งปานกลางแบบยาวไป
มาช่วงท้ายที่จะเป็นกระจายปานกลางกึ่งออร่ารอบๆ ตัวอยู่
ซึ่งกลิ่นยังทำให้คนรอบตัวรับรู้ได้ยามเดินสวนกันหรือมายืนใกล้ๆ
ทิ้งท้าย -
เรียกว่ามีความฟิน เพราะจากที่ใช้มาชอบโบว์ดำที่สุดในแง่ของความเป็น Unisex ที่ผู้ชายใส่ได้ แต่พอเจอโบว์เขียว
คือมันได้ทั้งความปลอดโปร่ง ยิ้มง่าย กระปรี้กระเปร่า เรียบหรู
และน่ารักในเวลาเดียวกัน แม้ว่าจะออกสาวไปบ้าง แต่ตรงๆ เลยว่ากลิ่นนี้เป็นกลิ่นบอกถึงความสุขยามที่ได้ใส่และได้กลิ่นไม่น้อยเลยทีเดียว
หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว
ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ
ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ”
Credit ภาพ
- http://l.lnwfile.com/_/l/_raw/f6/b1/mb.jpg
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น