Review: Guerlain – Vol de Nuit
Guerlain – Vol de Nuit
สิ่งที่น้ำหอมมักทำให้เราได้ทึ่งเสมอคือการเล่าเรื่องผ่านกลิ่น
ยิ่งถ้าน้ำหอมใดก็ตามที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องราวจริงๆ หรือนิยาย มักจะมีความลุ่มลึกที่บ่งบอกอารมณ์ของในแต่ละช่วงโทนได้งดงามและอ้างอิงกับเนื้อเรื่องได้น่าสนใจมาก ซึ่งหนึ่งในแบรนด์ที่เล่าเรื่องราวผ่านกลิ่นได้งดงามโดยเฉพาะในแง่ของโทนคลาสสิคอย่าง Guerlain เองก็ได้ปล่อยของมาไม่น้อยและหนึ่งในนั้นคือรุ่น Vol de Nuit นั่นเอง
Vol de Nuit เป็นน้ำหอมที่ได้แรงบันดาลใจมากจากนิยายเรื่อง Night Flight หรือชื่อเดียวกันกับรุ่นน้ำหอมที่บอกเล่าถึงเรื่องราวทั้งการต่อสู้กับจิตใจของตนเองกับภาระหน้าที่และเรื่องราวความรักของนักบินชายผู้หนึ่งที่มีต่อภรรยาของตัวเองด้วยการแต่งของอังตวน
เดอ แซงแต็กซูเปรี (ที่รู้จักกันดีในนามของผู้แต่งเรื่อง “เจ้าชายน้อย”) ซึ่งน้ำหอมรุ่นนี้เปิดตัวตั้งแต่ปี
1933 ซึ่งเนื้อกลิ่นจะเริ่มต้น Top Notes ที่ความสว่างและคมในแบบน้ำหอมโทนคลาสสิคกันก่อนเลยกับกลิ่นของยางไม้ที่เรียกว่า
Galbanum กลิ่นจะมีความเป็นซิตรัสเขียวคมพุ่งฟุ้งทะลุกันไปข้าง
เพียงแต่ว่าใน Vol de Nuit กลิ่นอายของยางไม้ประเภทนี้จะมาแบบสว่างพุ่งก็จริง
แต่โดนกลิ่นโทนแป้งและ Aldehydes ที่เป็นสบู่โปร่งคมมาดึงโทนเอาไว้
โดยที่มีกลิ่นอายดอกไม้ที่เขียวติดหวานกับกลิ่นซิตรัสที่มาแบบติดขมนิดๆ
มาผสมผสาน ทำให้กลิ่นในช่วงนี้จะออกทางเขียวสว่างและสดชื่นกลิ่นอายแบบฝรั่งเศสคลาสสิคกันอย่างชัดเจน
โดยกลิ่นจะเริ่มเบาลงโดยคงความเขียวเอาไว้และมีความติดสากหน่อยๆ ใน Middle
Notes ที่จะมีกลิ่นอายโทนแป้งติดไม้หอมนวลๆ ติดสบู่เสริมเข้ามา
เคล้ากับกลิ่นอายมะลิที่นวลอ้อยอิ่งล้อมเอาไว้ กลิ่นในช่วงนี้ถือเป็นช่วงที่บ่งบอกถึงความนุ่มและของโทนแป้งแบบครีมมี่ติดกลิ่นเขียวๆ
นิ่งๆ ติดโทนอมหวานของเครื่องเทศและดอกไม้เบาๆ และจะมีความเป็นไม้หอมติดวานิลลาเสริมเข้ามาเรื่อยๆ
จนเมื่อผ่านไปถึง Base Notes กลิ่นนุ่มนวลของไม้หอมวานิลลาจะตีขึ้นคู่กับโทนแป้งนวลๆ
ของไอริส ซึ่งในเนื้อกลิ่นจะมีกลิ่นอายติดเขียวของ Oak Moss แทรกซึมลงไปด้วย กลายเป็นการผสมผสานแบบนุ่มนวลมีระดับ
มีความคลาสสิคแบบไม่ได้ฉูดฉาด โดยที่มีความนิ่งงันไปตลอดนั่นเอง
เหมาะสำหรับ – เป็นน้ำหอมของผู้หญิงก็จริง แต่มีความเป็น Unisex
ที่ผู้ชายใส่ตัวนี้ได้สบายๆ เลย เพราะเนื้อกลิ่นเด่นที่โทนไม้หอมครีมมี่ติดคลาสสิคลงตัวมาก
โดยสามารถใส่ได้ในแทบทุกสถานการณ์ยามกลางวัน ไม่ว่าจะทางการหรือทั่วๆ
ไปได้สบาย ใส่ออกกลางแจ้งก็ได้ แต่กลิ่นไม่ได้มาสายเหมาะกับการใส่เพื่อออกกำลังกายนัก ส่วนยามค่ำคืนกลิ่นนี้สามารถใช้ได้แบบเรียบหรูนิ่งๆ
มีระดับ ไม่ได้เหมาะกับการปล่อยของชวนคลุกวงใน แต่บอกถึงความมีคลาสเสียมากของผู้สวมใส่นั่นเอง
ความทน – กลิ่นนี้เรียกว่าไม่ได้มาสายหนักหน่วง
ความทนเลยจะอยู่ราวๆ 6 ชม. บวกลบราวๆ 2 ชม. ตามจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีดเป็นสำคัญ
การกระจาย – กลิ่นนี้กระจายดีในตอนต้น
ก่อนจะลดลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัว แบบลากยาวไปเรื่อยๆ และเป็น Skin Scent ในช่วงท้ายที่ยามขยับเนื้อตัวกลิ่นจะลอยมาเบาๆ ให้รู้สึกได้
ทิ้งท้าย -
ซึ่งส่วนตัวแม้ไม่เคยอ่านนิยายเรื่องนี้นอกจากอ่าน Plot และสปอยเนื้อหาจนหมดแล้วก็จริง
แต่สัมผัสได้ถึงในแต่ละช่วงว่าในความเรียบนิ่งหรูหราและคลาสสิคของน้ำหอมตัวนี้
มีความดราม่าที่สัมผัสได้ถึงการไล่เรียงแรกเปิดท้องฟ้ายามค่ำคืนสู่ความหวานนวลนิ่ง
และปิดด้วยการรำลึกที่ไม่ฟูมฟายว่ามีใครบางคนได้จากไปเสียแล้วแต่เขายังอยู่ในความทรงจำ
สมแล้วที่เป็นอีกหนึ่งในน้ำหอมคลาสสิคตลอดกาลของแบรนด์นี้
หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว
ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ
ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ”
Credit ภาพ
- http://farm2.static.guerlain.com/sites/default/files/styles/image_main/public/sku/025785/images/025785.png?itok=dhpYZHOa
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น