วันอาทิตย์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

Review: Au Pays de la Fleur d’Oranger - Figue Fruitee

Au Pays de la Fleur d’Oranger - Figue Fruitee

เห็นชื่อแบรนด์ Au Pays de la Fleur d’Oranger ครั้งแรก เออ ชื่อยาวดีแท้ และความหมายดูสวยงามและกลิ่นหอมลอยมาแทบจะทันทีเลยนั่นคือ “ดินแดนแห่งดอกส้มซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ Niche จากฝรั่งเศสที่เปิดตัวออกมาเมื่อช่วงปี 2005 ในเมื่อได้โอกาสจัดมาแบบ Blind Buy โดยไม่เคยได้ลองกลิ่นมาก่อน เช่นนั้นถือว่าครั้งนี้จะมาเปิดโปงกลิ่นกันซักหน่อยว่าจะออกมาในรูปแบบไหนกับรุ่นแรกของแบรนด์นี้

Figue Fruitee เปิด Top Notes กันอย่างสมชื่อรุ่นเลยทีเดียว เพราะว่าจะเป็นกลิ่นของลูก Fig (มะเดื่อฝรั่ง) ที่มีความเขียวทึบปนหวานเป็นตัวเด่น แต่ล้อมไปด้วยกลิ่นอายของผลไม้คล้ายพีชและมีกลิ่น Citrus เจือให้มีความสดชื่นติดขมเขียวปนหวาน ช่วงต้นอาจจะแปร่งๆ นิดนึง เพราะความเป็น Fig ติดเปรี้ยวผลไม้แบบนี้มันจะได้อารมณ์ติดลั่นล้ามากกว่าจะเขียวทึบหวานหรือครีมมี่ในแบบที่เคยได้กลิ่นจากน้ำหอFig เด่นๆ ทั้งหลายมาก่อน ซึ่งกลิ่น Fig นี่แหละ จะเป็นตัวเด่นลากยาวไปจนถึงช่วงท้ายเลย โดยเมื่อเข้าสู่ Middle Notes จะเริ่มมีความเขียวโปร่งปนไม้หอมมากขึ้น ความสดชื่นติดหวานผลไม้จะเริ่มจางลงไปให้ความเขียวใสติดสบายๆ ที่มีกลิ่นไม้หอมติดกลิ่นถั่วปนขมจางๆ กลิ่นจะได้ความเขียวสะอาดติดโปร่ง โดยมีพื้นของกลิ่นที่ออกทางสะอาดติดอบอุ่นกำลังดีให้พอรู้สึกได้ กลิ่นของ Fig เริ่มจะกลับมาเป้นลักษณะแบบกลิ่นอายใต้ต้น Fig ที่มีความโปร่งสบาย ไม่ได้ติดผลไม้จ๋าแบบช่วงต้น แม้ว่าความเป็นผลไม้ในช่วงต้นจะยังมีพอให้จับได้อยู่บางๆ ก็ตาม แต่กลายเป็นสายสนับสนุนไปแล้วเรียบร้อย แล้วกลิ่นจะเริ่มปรับโทนเรื่อยๆ มีความครีมมี่นวลๆ เสริมเข้ามาให้ความรื่นรมย์เรื่อยๆ แล้วก็เข้าสู่ Base Notes ที่กลิ่น Fig จะลดทอนลงไปเป็นโทนครีมมี่ติดเขียวทึบที่มีความดาร์กหน่อยๆ ซึ่งโทนไม้หอมโปร่งๆ ยังตามมาในช่วงนี้ให้มิติกลิ่นอายที่ติดขรึมสบายๆ กำลังดีโดยที่ ตัวเสริมที่ลงตัวมากอย่างโทMusk และหนังจะมาให้ความนุ่มในเนื้อกลิ่นกลั้วกับความหวานติดน้ำตาลโปร่งๆ ให้สัมผัสถึงความครีมมี่ปนหวานกำลังดีและมีความสะอาดนวลๆ ไปตลอด 

ภาพรวมถือว่า เป็นอีกหนึ่งในกลิ่นลูก Fig ที่มีลูกเล่นของโทนผลไม้ที่แตกต่าง ตามด้วยความเป็น Fig ในรูปแบบที่เข้าถึงได้ง่ายแต่มีชั้นเชิงนั่นเอง 

เหมาะสำหรับ - กลิ่นนี้ตราเอาไว้ว่าเป็นน้ำหอมผู้หญิง ซึ่งกลิ่นมีความสาวในระดับหนึ่งราวๆ 60-70% แต่ที่เหลือผู้ชายใช้ได้สบายๆ ถ้าชอบกลิ่น Fig อยู่เป็นทุนเดิม ยังไงก็ฟินอยู่แล้ว โดยสามารถใส่ได้ทุกสถานการณ์ยามกลางวันเลย กวาดหมดไม่ว่าจะทางการหรือทั่วๆ ไป ทั้งกลางแจ้งหรือว่าในห้องแอร์ ออกกำลังกายก็ใส่ได้ เพราะพื้นฐานกลิ่นเขียวสดชื่นอยู่ในระดับหนึ่งอยู่แล้ว ส่วนยามค่ำคืนกลิ่นนี้ไม่เข้าทางเท่าไหร่ถ้าจะใส่ไปท่องราตรี แต่ถ้าใส่แบบสบายๆ หรือออกงานแบบไม่เน้นต้องไปต่อเอาตัวรอดได้ แบบไม่เหมือนใคร จัดไปได้เลย 

ความทน - ดีงาม เพราะ 8 ชม. แล้วกลิ่นยังคงอยู่ ซึ่งถ้าจำนวนสเปรย์เหมาะสมลากไปที่ 10 ชม. ได้สบายๆ 

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น แล้วจะลดลงมากระจายปานกลางกำลังดี พอเข้าช่วงท้ายจะเป็นออร่าครีมมี่หอมนุ่มปนหวาน เลย 6 ชม. ไปแล้วจะเป็น Skin Scent ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหายไปจากผิว 

ทิ้งท้าย - เป็นอีกหนึ่งกลิ่น Fig ที่ทำออกมาได้ลงตัวมาก มีความเป็น Niche Perfume ให้จับต้อง ที่สำคัญขวดเก๋ดี แถมฝาจุกเป็นไม้ด้วย ดูดีมีระดับเชียว 

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ

Photo Credit by https://www.neos1911.com/product-by-category/perfumes/figue-fruitee-edp-100-ml_058907085.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น