Ralph Lauren - Purple Label
เป็นหนึ่งในน้ำหอมที่เรียกว่า Exclusive เลยก็ว่าได้
กับการผลิตออกมาเพื่อสนับสนุนไลน์เสื้อผ้าของผู้ชายของแบรนด์ Ralph Lauren อย่าง Purple Label กับโลโก้สีม่วงที่ไม่ได้มีขายทั่วไปตามเคาน์เตอร์น้ำหอมแน่นอน เช่นนั้น ได้โอกาสใช้แล้วเลยต้องเล่ากลิ่นซะหน่อยว่าจะออกมาในลักษณะไหน
เปิดต้นกลิ่นกันเต็มๆ
กับการเป็นโทน Fruity จากแบล็คเบอร์รี่ที่จะออกทางหวานนวลๆ
ผลไม้ไม่ถึงกับฉ่ำมาก ติด Spicy ที่โปร่งๆ
เผ็ดปร่าจากเม็ดผักชี และยังมีกลิ่นอาย Citrus บางๆ เสริมให้มีมิติสดชื่นเข้ามา ซึ่งกลิ่นจะไม่ได้ไปทางฟรุตตี้ผลไม้ลั่นล้าเลย
ออกทางภูมิฐานกันตั้งแต่ต้นเสียด้วยซ้ำ ซึ่งเข้าทางการสนับสนุนไลน์เสื้อผ้าของแบรนด์อย่างไลน์ Purple Label ที่เน้นผู้ชายวัยทำงานขึ้นไปเต็มๆ
โดยกลิ่นโทนผลไม้หวานนวลของแบล็คเบอร์รี่ผสมความซ่าปร่าของเม็ดผักชีจะยังตามไปจนถึงช่วงท้ายเลยทีเดียว
ซึ่งเมื่อเข้าช่วงกลาง กลิ่นจะเริ่มมีลักษณะที่เป็นโทนสมุนไพรเข้ามาแจม
โดยมีกลิ่นอายเขียวออกทางแห้งๆ ปนเครื่องเทศปร่าๆ โปร่งๆ
เคล้ากับผลไม้หอมนวลๆ หวานเบาๆ โดยจะมีกลิ่นโทนหนังนวลๆ รองพื้นด้านหลังอยู่
ซึ่งกลิ่นจะสัมผัสได้ว่ามีความ Smoky ติดไม้หอมหน่อยๆ
และมีกลิ่นสากๆ ดิบบางๆ เขียวๆ ดาร์กกำลังดีจาก Oak Moss มาแจมให้มีเสน่ห์เสียด้วย
ซึ่งกลิ่นจะมีความภูมิฐานและความแมนที่มีระดับลงตัว
ไม่ได้มาสายผู้ชายสไตล์มาแบบแน่นๆ และแมนจัดๆ แต่ประการใด
ซึ่งเมื่อตามไปต่อที่ช่วงท้ายความนุ่มของกลิ่นจะชัดมากขึ้น
โดยมีกลิ่นออกโทนเขียวสมุนไพรแห้งอมหวานเจืออยู่ Oak Moss จะให้ความเท่ห์แมนแบบกำลังดี กับกลิ่นเขียวติดดิิบสากบางๆ
ผสมผสานกับความนุ่มของหนังกลับกลั้ว Musk ให้สัมผัสได้
กลิ่นจะมีความครีมมี่หน่อยๆ และมีความเป็นเครื่องเทศโปร่งๆ ให้ความรู้สึกสะอาดนวลไปตลอด
ซึ่งกลิ่นจะแบ่งเลเยอร์จากเขียวแห้งอมหวานเวลาดม แล้วจะตามด้วยนุ่มนวลสะอาดมีระดับได้ลงตัว
ภาพรวมถือว่ากลิ่นนี้ให้ความสดชื่นติดภูมิฐาน ไม่ถึงกับดูเนี้ยบจัดๆ
แต่กลิ่นให้ความรู้สึกวางตัวดี มีความ Nice
และความเป็นสุภาพบุรุษที่เข้าถึงง่ายชัดเจน
เหมาะสำหรับ -
ผู้ชายทุกเพศวัยทำงานขึ้นไป กลิ่นเสริมบุคลิกให้ดูสมาร์ทได้ชัดเจน
โดยไม่ได้ดูเนี้ยบจนรู้สึกว่ากลิ่นออกโทนถือตัว จึงสามารถใส่ได้ในหลายๆ
สถานการณ์ยามกลางวัน โดยเฉพาะยามทางการได้เลย ยังไงก็รอดและ OK มากเสียด้วย ส่วนในยามทั่วๆ
ไปก็สามารถอยู่ ให้ความเป็นผู้ชายที่วางตัวดีมีความนุ่มนวลแมนๆ ได้ดีเลย
แต่กลิ่นไม่เหมาะกับการออกกำลังกายนัก แม้จะใส่ได้ก็ตาม
ส่วนยามค่ำคืนไว้ใส่เพื่อออกงานจะดีกว่า เพราะกลิ่นไม่ได้ไปสายเย้ายวนและปล่อยพลังเรียกแขกกับการท่องราตรีนัก
ความทน -
ลงตัวที่ราวๆ 8 ชม. กำลังดีเลย
กลิ่นอาจจะมีบวกลบบ้างราวๆ 2 ชม. อิงตามจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีดเป็นสำคัญ
การกระจาย -
กลิ่นกระจายดีในตอนต้น แล้วจะลดลงมากระจายปานกลางแบบยาวไป
พอเข้าช่วงท้ายจะค่อยๆ ลดลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัว พอพ้นซัก 8 ชม. จะกลายเป็น Skin Scent ชัดเจน
ทิ้งท้าย -
เรียกว่าเป็นหนึ่งในการปล่อยของจากแบรนด์นี้ได้เลยเพราะเป็นหนึ่งในกลิ่น
Masterpiece ที่ทำได้ดีจริงๆ
ซึ่งถ้าคิดว่าหาตัวนี้ได้ยากเพราะจำกัดสถานที่ขาย Bond No.9 -
Bleecker Street กลิ่นใกล้เคียงได้อยู่ แต่ตัวใครตัวเผือกเรื่องราคานะตะเอง
หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!!
ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้
ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว
ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ
ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ”
Photo Credit by https://media1.popsugar-assets.com/files/thumbor/RMu8zPGV2JcTevnZqqEyRHZxLQI/fit-in/1024x1024/filters:format_auto-!!-:strip_icc-!!-/2016/02/09/807/n/1922153/97765d86_Purple-Label_2_/i/Ralph-Lauren-Purple-Label-Cologne.jpg
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น