Parfum Prissana - Tiwa
อารมณ์หนึ่งเวลาที่เรากลับต่างจังหวัด หรือว่าไปพักในแถบชนบทที่ต่างจังหวัดอารมณ์แบบโฮมสเตย์ แล้วเวลาเราออกมาเดินพักผ่อนหย่อนใจในช่วงเวลาของกลางวันไม่ว่าจะเช้า สาย บ่าย หรือค่อนเย็น มันมักจะมีกลิ่นอายที่อะโรม่าตามธรรมชาติให้เราได้สัมผัสเสมอ ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นบรรยากาศต่างๆ ทั้งกลิ่นต้นไม้ใบหญ้า กลิ่นสดชื่นของผลหมากรากไม้ เครื่องเทศต่างๆ รวมถึงพืชผักสวนครัวที่ปลูกอยู่ในแถวนั้น รวมถึงกลิ่นอายไม้หอมเก่าๆ จากบ้านเรือนไม้ต่างๆ ในเขตชนบทที่มีเสน่ห์ในตัวเอง ซึ่งอันนี้เอามาเฉพาะแค่นี้ก่อน เพราะกลิ่นลักษณะนี้มีความหลากหลายมากตามแต่ประเภทของแต่ละสถานที่
ซึ่งพอวกกลับเข้ามาที่การเป็นน้ำหอมกับแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์กลิ่นที่มาจากบรรยากาศระหว่างวันในชนบทของไทย ก็ได้เจอหนึ่งใน Collection - Thammachatr ของแบรนด์ Parfum Prissana ที่เอาที่มาที่ไปจากบรรยากาศที่สุคนธกรได้ซึมซับมาตั้งแต่วัยเด็กกับบ้านที่ต่างจังหวัดมาเป็นหนึ่งในความทรงจำที่จับลงสู่ขวดออกมาเป็นกลิ่นอายที่ชื่อว่า Tiwa (ทิวา) ซึ่งเนื้อกลิ่นจะทำให้ผู้ใช้รู้สึกอย่างไร และดึงเอาประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องมา Link กับน้ำหอมได้มากขนาดไหน หรือมีความเป็นโทนร่วมสมัยที่มีความ Thai Twist หรือไม่ หรือจะไทยกันแบบเพียวๆ ก็มาได้เลย เพราะขอเล่าสู่กันอ่านได้แบบนี้เลย
กลิ่นเปิดมาคืออารมณ์แบบกลิ่นมะกรูดไทยฟุ้งมาก่อนเพื่อนเลย อารมณ์กลิ่นจะได้ 3 แบบ คือ กลิ่นแบบผิวมะกรูดที่คาลูกมีความเขียวปร่าหอม ตามด้กวยกลิ่นผิวมะกรูดแบบที่เราปลอกผิวมันออกมาแล้วมีกลิ่นน้ำมันหอมระเหยมะกรูดตามธรรมชาติ และกลิ่นสุดท้ายในมิติของมะกรูดจะอารมณ์แบบมะกรูดที่คั้นออกมาจนเป็นน้ำเปรี้ยวปร่าหอมเฉพาะอารมณ์เปรี้ยวแหลมแบบมะนาวแต่หอมและมีความชื้นๆ มากกว่าจะฉ่ำ ซึ่งในเนื้อกลิ่นจะพกเอาความเป็นมะนาวมาด้วยแบบเปรี้ยวแหลมวูบแรกแล้วจะมีความหอมอ่อนๆ ตีคู่กับมะกรูดไปเรื่อยๆ ที่สำคัญแอบมีกลิ่นส้มประปรายให้รู้ได้ถึงความฉ่ำอ่อนๆ เนียนรวมอยู่ในกลิ่น โดยจะมีโทนเขียวติดเปรี้ยวรื่นรมย์คลอร่วมซึ่งน่าจะมาจากกิ่งก้านส้ม แต่สิ่งที่มาเสริมให้เนื้อกลิ่นมีความเป็นโทนที่มีความปร่าอวลแบบสมดุลย์กำลังดี คือกลิ่นของเมล็ดคื่นไช่ฝรั่งหรือว่าเซเลอรี่และขิง ที่จะทำให้กลิ่นมีความฟุ้ง และที่จับได้เลยคือน่าจะมี Aldehydes มาเป็นตัวเสริมที่ทำให้ได้อารมณฺแบบกลิ่นแบบ Classic Citrus ที่มีความปร่าฟุ้งกำลังดี มีลูกเอื้อนโทนสบู่หน่อยๆ แฝง ทำให้กลิ่นในช่วงต้นมันทำให้ย้อนกลับไปในพื้นที่เขตชนบทที่มีกลิ่นอาย Citrus ลักษณะเปรี้ยวหอมปร่าเฉพาะและมีความเป็นกลิ่นแนวแบบสมุนไพรปร่า Spicy สดชื่นอวลๆ ที่มีความเป็นสไตล์แบบไทยๆ ที่มีความเป็นธรรมชาติ และมีความเป็นโทนแนว Classic ที่มีความร่วมสมัยแฝงอยู่ตลอด
ในช่วงกลางโทน Citrus ทั้งหมดยังตามมาอยู่ แต่จะผ่อนตัวลงมาในระดับที่มีความแห้งในเนื้อกลิ่นมากขึ้น สิ่งที่เด่นขึ้นมาเลยคือกลิ่นใบฝรั่งที่มาสอดรับกับกลิ่นของกิ่งก้านส้มรับช่วงต่อความเขียวแกมเปรี้ยวหอม แต่เพิ่มความฝาดเขียวอ่อนๆ เข้าไป เชื่อมโยงกับกลิ่นของขิงและเมล็ดเซเลอรี่ในทางหนึ่ง และเชื่อมโยงกับกลิ่นดอกส้มที่สกัดด้วยตัวทำละลายอีกทางหนึ่งแกมกลิ่นกระดังงา ทำให้อารมณ์กลิ่นจะมีความเป็นโทนออกทางสบู่สมุนไพรที่มีดอกไม้แฝงเข้ามาร่วมด้วย และยังไม่จบกลิ่นใบกระเพราที่แฝงอยู่ทำให้รู้สึกถึงความเผ็ดหน่อยๆ เบาๆ ที่มีเสน่ห์และชัดเจนมาก ซึ่งกลิ่นจะมีความอะโรม่าที่ได้ความหอมของโทน Citus และสมุนไพรต่างๆ ที่มีความเป็นบรรยากาศแกมกลิ่นสบู่ที่มีความ Classic หน่อยๆ ร่วมด้วย ก่อนที่จะเริ่มมีโทนออกทางไม้หอมแห้งๆ กึ่งครีมนวลเสริมเข้ามาทีละหน่อยๆ ก็จะเริ่มเดินกลิ่นเข้าสู่ช่วงท้ายแล้ว
ความชัดเจนในช่วงท้ายคือโทน Citrus ต่างๆ จะเหลือเพียงปลายกลิ่นอ่อนๆ แต่จะให้ความเป็นไม้หอมขึ้นมาแทนที่ โดยมีกลิ่นหญ้าแฝกและไม้จันทน์หอมเป็นตัวขับเคลื่อนกลิ่น กลิ่นจะได้อารมณ์แบบ Classic Cologne ในช่วงท้ายๆ ที่จะให้ความเป็นกลิ่นอายเฉพาะออกมา ตรงนี้เรียกว่าจะได้ความเป็นกลิ่นอายแบบสไตล์ Classic แบบไทยๆ ก็ได้ หรือจะเป็นกลิ่นอายช่วงท้ายแบบ Classic Cologne แบบชาวตะวันตกก็สามารถ เรียกว่าตรงนี้เชื่อมโยงการใช้งานได้เป็นอย่างดีไม่ว่าชาติไหนใช้ก็จับต้องได้ถึงความหอมแบบวันวานได้ดีจริงๆ ซึ่งเลเยอร์กลิ่นก็ยังคุมโทนการสร้างเลเยอร์ทางกลิ่นที่เป็นกลิ่นสมุนไพรที่มีลูกเอื้อนปลายกลิ่นของความเป็น Citrus บางๆ รองพื้นด้วยไม้หอมที่มีความหอมกึ่ง Classic กึ่งร่วมสมัยปิดท้าย
เหมาะสำหรับ - Unisex ที่ครอบคลุมการใช้งานได้ตั้งแต่วัยมหาลัยเป็นต้นไปได้เลย เอาจริงๆ ถ้าเด็กกว่านั้นก็ใช้ได้ แต่ความรู้สึกแบบ Nostalglia หรือความทรงจำวันวานมันอาจจะไม่ได้แจ่มชัดมากนัก ถ้าเทียบกับวัยที่เคยผ่านกลิ่นอายแบบนี้มาก่อน ซึ่งเนื้อกลิ่นเข้าได้กับทุกสถานการณ์ยามกลางวันแบบครบวงจรในการใช้งานจริงๆ และมีความเป็นสไตล์ไทยที่แจ่มชัดมากด้วยแบบที่ไม่ได้ดูเก่าหรือโบราณมาจากไหน แต่มีความร่วมสมัยเสียมาก ส่วนยามค่ำคืนเน้นใส่แบบทั่วๆ ไปจะดีที่สุดเพราะกลิ่นไม่ได้มาสายปล่อยเสน่ห์ยั่วเย้าแต่อย่างใด และไม่ใช่สายปล่อยพลังที่จะไปสู่กับกลิ่นอวลหวานจัดๆ ในการท่องราตรีได้แน่ๆ
ความทน - เนื่องจากเนื้อกลิ่นเป็นธรรมชาติสูงมาก และการสร้างสรรค์มาจากส่วนประกอบจากธรรมชาติทั้งหมด ความทนเลยไม่ได้พีคนัก ซึ่งก็อยู่ราวๆ 6 ชม. เป็นสำคัญ ซึ่งอาจจะมีบวกลบบ้างที่ราวๆ 2 ชม. ตามแต่สภาพผิวผู้ใช้ด้วยส่วนหนึ่ง ซึ่งส่วนตัวเจออยู่ที่ 6 - 8 ชม. ราวๆ นี้
การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น ให้อารมณ์กลิ่นมะกรูดฟุ้งเปรี้ยวหอมปร่าสดชื่นมาเลย ก่อนที่จะลดลงมาปานกลางไปซักราวๆ 1 ชม. แล้วจึงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัว ที่จะยาวไปจนถึงราวๆ ชั่วโมงที่ 4 แล้วจะผ่อนลงเป็น Skin Scent ในที่สุดจนกว่าจะจางไป
สรุป - สิ่งที่โดดเด่นและยอดเยี่ยมมากคือ กลิ่นอายธรรมชาติของส่วนผสมในน้ำหอมกลิ่นนี้ที่สร้างภาพแบบต่างจังหวัดเขตชนบทได้ดีมาก และที่สำคัญทำให้นึกถึงกลิ่นอายแบบ Cologne ที่ญาติผู้ใหญ่รวมถึงพ่อแม่เราเคยใช้ร่วมด้วย ทำให้แบบว่าความทรงจำในวันวานมาเต็มจริงๆ ในการใช้งาน ที่สำคัญกลิ่นนี้อารมณ์แบบคนไทยใช้ก็จะบอกว่า กลิ่นมีความเป็นไทยที่ร่วมสมัยและสร้างห้วงคำนึงได้ดี แต่ถ้าเป็นชาวต่างชาติใช้ก็จะบอกออกมาได้ว่าเป็น Citrus Traditional Cologne + Thai Twist เรียกว่าเชื่อมโยงได้ลงตัวมากกับการใช้งานไม่ว่าจะเป็นชนชาติไหนก็ตาม
หมายเหตุ:
1.
บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล
สามารถเป็นได้ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่เขียน เพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นได้ทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”
Photo
Credit - https://www.facebook.com/parfumprissana
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น