วันพุธที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2565

Review: Sonoma Scent Studio - Tabac Aurea

Sonoma Scent Studio - Tabac Aurea

น้ำหอมที่มีความโดดเด่นทางกลิ่นยาสูบหรือ Tobacco ส่วนใหญ่ที่เรามักจะเจอไม่ว่าจะเป็นสาย Designer หรือว่า Niche Perfume เรามักจะเจอการเป็นปลายทางของยาสูบที่อาจจะเป็นกลิ่นบุหรี่ ควันบุหรี่ ซิการ์ ใบยาสูบที่บ่มสำเร็จจนมีกลิ่นหอมหวานโปร่งพร้อมใช้ ที่ทั้งมีการผสมผสานกับ Note กลิ่นต่างๆ แบบว่าได้หมดทั้งสาย Classic และ Modern รวมถึงกลิ่นอายสายอาระเบียนก็เป็นหนึ่งในองค์ประกอบทางกลิ่นที่น่าสนใจมากๆ เช่นเดียวกัน จนถือเป็นหนึ่งใน Note ที่ยอดนิยมและพลิกแพลงได้อีกมากมายจนถึงปัจจุบัน

แต่จะมีไหมที่จะมีน้ำหอมที่เริ่มจากการเป็นต้นทางของกลิ่นยาสูบที่มาจากการเริ่มบ่มสู่การเป็นยาสูบที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวในสาย Aromatic คำตอบคือ “มีสิ” และแถมยังเป็นหนึ่งในน้ำหอมกลิ่นยาสูบที่หลายๆ สำนักยอมรับว่าเป็นหนึ่งในยาสูบที่ดีที่สุดอีกหนึ่งกลิ่นเลยทีเดียว นั่นก็คือกลิ่น Tabac Aurea จากการปล่อยของจากแบรนด์ Indie อย่าง Sanoma Scent Studio นั่นเอง

เปิดต้นกลิ่นมาเรียกว่าทำเอา สตัน! เพราะว่าเป็นการผสมผสานกลิ่นโดยยืนพื้นกับการเป็นใบยาสูบที่ให้ออร่าแบบใบยาสูบที่เก็บมาเพื่อทำการบ่มตามระยะการบ่มที่จะให้ยาสูบที่ดีที่สุดในการไปทำกรรมวิธีอื่นๆ ต่อ (ทั้งบุหรี่และซิการ์) โดยจะเริ่มให้ความรู้สึกจากใบยาสูบที่บ่มด้วยอุณหภูมิและความร้อนที่เหมาะสมจนทำให้ใบสีเขียวเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทอง ซึ่งกลิ่นจะให้ออร่าในการเป็นโทนใบยาสูบจากที่มีลูกเอื้อนปลายกลิ่นติดเขียวนิดๆ กับกลิ่นหวานโปร่งที่เข้าทางโทนเริ่มแห้งของใบยาสูบ ที่มีความอบอุ่นของโทนออกแทางแอมเบอร์ลึกๆ ที่น่าจะมาจากยางไม้อย่าง Labdanum ที่ให้โทนหนังบางๆ ติดวานิลลานวลๆ เข้าเสริม และมีกลิ่นปร่าเครื่องเทศเผ็ดโปร่งอ่อนๆ ที่ใส่ลงมาอย่างสมดุลย์ของกานพลู เลยทำให้เนื้อกลิ่นช่วงต้นสร้างภาพเหมือเรายืนอยู่ในโรงบ่มใบยาสูบชัดๆ เลย และให้เนื้อกลิ่นที่ยอดเยี่ยมมากในการเป็นยาสูบที่เป็นธรรมชาติจริงๆ

เมื่อโทนกลิ่นเริ่มเซทตัวในการเปลี่ยนแปลง สิ่งที่ยังเด่นเป็นสง่าเลยคือยาสูบที่เริ่มเป็นโทนหวานอะโรม่าที่ให้ความแห้งมากขึ้น ทำให้เนื้อกลิ่นมีความโปร่งหวานมีเสน่ห์ในแบบยาสูบบ่มจนได้ที่ โดยมีกลิ่นโทนแอมเบอร์ติดหวานวานิลลาเบาๆ เป็นตัวเสริมให้เนื้อกลิ่นมีความอบอุ่นหน่อยๆ ได้อย่างลงตัว ซึ่งนี่แหละที่จะอยู่กันยาวๆ ไปจนถึงช่วงท้ายแน่นอน แต่สิ่งที่มาทำให้ช่วงกลางกลายเป็นกลิ่นอายสีอะโรม่าสีทองได้อย่างละมุนและมีเสน่ห์นั่นคือ โทนไม้หอมสุขุมโปร่งๆ ของไม้ซีดาร์ที่ให้ความสว่างในเนื้อกลิ่น + โทนหนังและ Musk ที่มาแบบพอเหมาะ ไม่ได้แย่งซีน แต่เป็นตัวเสริมที่ดีให้กลิ่นมีลูกเล่นแบบโทน Animalic อ่อนๆ แกมนุ่ม ที่ทำให้มิติกลิ่นมีความลุ่มลึกและน่าค้นหาท่ามกลางการเป็นยาสูบที่มีเสน่ห์ในโทนอะโรม่าแบบใบยาสูบชั้นดีมากขึ้น เรียกว่าช่วงนี้ขับความเป็นยาสูบบ่มจนได้ที่มาแบบครบถ้วนมากๆ

ช่วงท้ายของน้ำหอมจะเริ่มลดทอนความเป็นยาสูบมาลงเทียบเคียงกับการเป็นกลิ่นโทนอบอุ่นของแอมเบอร์แกมวานิลลามากขึ้น เนื้อกลิ่นจะมีลักษณะกึ่งโทน Gourmand อยู่หน่อยๆ บวกกับกลิ่นที่มีความมิลค์กี้หน่อยๆ ในสายไม้หอมอย่างไม้จันทน์หอมที่เป็นฐานให้เนื้อกลิ่นมีความนุ่มนวลแฝงอยู่ตลอด ทำให้เนื้อกลิ่นจะยังคงคุมโทนในการเป็นกลิ่นโทนอะโรม่าสีทองอบอุ่นที่มีความหวานของวานิลลาเบาๆ ที่มีเสน่ห์ แกมปลายกลิ่นเป็นยาสูบที่ยังคงให้อะโรม่าหวานโปร่งระเรื่อ โดยเมื่อดมใกล้ผิวจะได้ความนุ่มแกมกลิ่นไม้จิดหอมเฉพาะของไม้จันทน์หอมคลอผิวอยู่ปิดท้ายกลิ่นอายความเป็นออร่ายาสูบตั้งแต่ต้นทางยันปลายทางได้อย่างงดงาม

เหมาะสำหรับ - Unisex ที่อาจจะค่อนไปทางผู้ชายมากกว่าหน่อยเพราะเนื้อกลิ่นโทนยาสูบค่อนข้างไปได้ดีกับผู้ชาย แต่ถ้าผู้หญิงไม่ได้มายด์ก็ใส่กลิ่นนี้ได้สบายมากเช่นกัน เผลอๆ มีเสน่ห์มากๆ เสียด้วยในการสร้างคาแรคเตอร์ทางกลิ่น ซึ่งเอาตรงๆ คือกวาดหมดทั้งการใส่ยามกลางวัน (แบบจำนวนสเปรย์เหมาะสม) และยามค่ำคืนที่เน้นปล่อยเสน่ห์ก็ยังได้ โดยได้ในหลายๆ สถานการณ์ไม่ว่าจะเป็นทางการ ออกงาน หรือทั่วๆ ไป แต่จะมีก็การใส่ออกกิจกรรมลุยๆ กลางแจ้งหรือว่าออกกำลังกายที่ควรข้ามไปจะดีที่สุด

ความทน - ดีงามมากจนแทบจะยกดาวให้ทั้งฟ้า เพราะกลิ่นทนจัดจ้านมากจนแตะ 24 ชม. เลยก็ยังได้กับการใช้งานส่วนตัวที่เคยเจอมา ถ้าตีเฉลี่ยแบบทั่วไป ยังไงก็แตะที่ 12 - 15 ชม. ได้สบายๆ

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมากในตอนต้น โดยจะคงตัวไปราวๆ 15 - 20 นาทีได้ ก่อนจะลดลงมากระจายดีแบบเสถียรกันยาวๆ ไปจนถึงชั่วโมงที่ 6 - 7 ถึงค่อยๆ ลดระดับลงมาเป็นกระจายปานกลางยาวไปจนถึงชั่วโมงที่ 10 แล้วผ่อนลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัว จนถึงสิ้นวันอาบน้ำนั่นเลย แต่กลิ่นก็จะยังติดผิวอยู่ต่อจนถึงเช้าวันถัดไป อันนี้ต้องยอมให้เขาเลย การกระจายก็เป็นเลิศจริงๆ  

สรุป - นี่คือหนึ่งในกลิ่นยาสูบในโลกน้ำหอมที่ยอดเยี่ยมมากๆ อีกหนึ่งกลิ่นแบบไม่มีข้อกังขา ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการผลิตในยุคเจ้าของแบรนด์ + สุคนธกรอย่าง Laurie Erickson หรือการผลิตในช่วงที่มีเจ้าของแบรนด์คนใหม่มาสานต่อในช่วงหลังเพราะ Laurie Erickson มีเหตุผลในการเบรกการทำแบรนด์ลงไป ซึ่งแม้แตกต่างเล็กน้อยตามวัตถุดิบในช่วงเวลานั้น แต่เสน่ห์ในความเป็น Tabac Aurea ก็ยังคงเดิมไม่หายไปแต่อย่างใด

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล สามารถเป็นได้ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่เขียน เพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นได้ทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.fragrantica.com/perfume/Sonoma-Scent-Studio/Tabac-Aurea-6702.html

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น