วันพุธที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2566

Review: Perfume.Sucks - Green

Perfume.Sucks - Green

เพียงแค่ชื่อแบรนด์ก็เรียกว่าเปรี้ยวเยี่ยวราดกันเลยทีเดียว เพราะถึงกับบอกกันโต้งๆ เลยว่าน้ำหอมห่วย แต่เอาจริงๆ การตั้งชื่อเรียกตรีนแบบนี้ เอาจริงๆ น่าจะเป็นการเรียกความสนใจเสียมากกว่าให้มาลองดูว่าห่วยจริงหรือเปล่า ซึ่งจริงๆ ที่มาที่ไปของแบรนด์นี้ คือ การสร้างสรรค์กลิ่นที่ให้ผู้ใช้เอาไปเบลนด์กับคาแรคเตอร์ของตัวเอง โดยสร้างเรื่องราวทางกลิ่นของตัวเองจากน้ำหอมของแบรนด์ที่เลือกใช้ ไม่ว่าจะออกมาดีหรือ ตั่งโป๊ะ! ผู้ใช้นั่นแหละที่เลือกเองในการสร้างเสน่ห์แบบนั้นๆ ออกมา

และเมื่อได้มาเจอกับแบรนด์นี้ เรียกว่าความน่าสนใจก็มาเต็มไม่น้อย เพราะชื่อแบรนด์เตะเข้าเบ้าตาสุดๆ ไม่พอ เนื้อกลิ่นยังมีความน่าสนใจว่าจะครีเอทเรื่องราวเวลาที่ใช้แล้วออกมาเป็นแบบไหน เมื่อมีโอกาสได้ลองเป็นครั้งแรกกับแบรนด์นี้ในกลิ่น Green ที่เอากัญชามาเป็นตัวแรกแขก ก็ต้องมาเล่าซักหน่อยว่าจะออกมาเป็นอย่างไร

Green เปิดออกมาก็สร้างอารมณ์กลิ่นที่เขียวกึ้ง Smoky ชัดเจนมาก ซึ่งในช่วงเปิดต้องยกให้กลิ่นของกัญชาที่ไม่ได้มาแบบกัญชาพร้อมดูดคมแปร่งขนาดนั้น แต่เป็นอารมณ์ควันกัญชาที่ Smoky ติดขมกึ่งถั่วหน่อยๆ มีความหวานของเม็ดกระวานเข้ามา พร้อมกับกลิ่นโทนผลไม้รองพื้น นี่แหละที่สร้างอารมณ์หวานอมเปรี้ยวในเนื้อกลิ่น ตามด้วยกาแฟมาทำให้กลิ่นมีลูกเอื้อนความขมในความแปร่งเขียว โดยที่จะมีโทนควัน Incense ที่ติดปร่าๆ แกมทึบอวลหน่อยๆ ทำให้กลิ่นเปิดบอกเลยว่า เออ ควันกัญชาที่ผสมกลิ่นผลไม้ที่แปลก เก๋ และมีเสน่ห์ดึงดูดอย่างน่าประหลาด ซึ่งบอกเลยว่าช่วงต้นหลายๆ คนที่ไม่ได้คุ้นชินกับกลิ่นแนวๆ นี้ อาจจะแบบว่าแพ้บายไปกันตั้งแต่ตอนนี้เอาได้

เมื่อกลิ่นเดินทางเข้าสู่ช่วงกลาง ตอนนี้เรียกว่ามหกรรมความนัวอย่างแท้ทรู เพราะจะเป็นลูกผสมที่เอาโทนช่วงต้นมาทั้งหมด แต่เพิ่มความนัวของกลิ่นโทนผลไม้ + ดอกไม้เข้าไป ซึ่งตัวเด่นเลยต้องให้ยกให้ Davana ที่เป็น Artemisia ประเภทหนึ่งที่จะให้ความหวานออกทางฟรุตตี้กึ่งดอกไม้ โดยมีความเขียวขมแทรกอยู่ตลอดสร้างความนัวๆ หวานเย้าลึกในเนื้อกลิ่น ตามด้วยกลิ่นของมะม่วงสุกที่ให้ความหวานลึกเสริมเข้าไปอีก กลิ่นเลยนัวฟรุ๊ตตี้เขียวขมไหม้ติดควัน Smoky เต็มๆ ซึ่งในเนื้อกลิ่นจะยังมีความปร่าหวานโปร่งๆ ของขิงที่ทำให้กลิ่นไม่ได้ข้นจัด และมีกลิ่นหวานอมเปรี้ยวโปร่งๆ ของแมกโนเลียที่ทำให้กลิ่นยังมีความสว่างอยู่บ้าง ไม่ได้ลึกดาร์กเกินไป แต่ยังไงภาพรวมต้องบอกเลยว่า มีความนัว อวล ที่ให้ความเขียวเข้ม ขม หวาน เปรี้ยว ไหม้ ควัน ปร่า โดยทั้งหมดมีมิติจากโปร่งสู่ลึกได้อย่างไม่ธรรมดาและทรงพลังมากเลยทีเดียว

นี่ว่าช่วงกลางอวลแล้ว ช่วงท้ายก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน เพราะการปรับเนื้อกลิ่นเข้าสู่ช่วงท้ายจะสัมผัสถึงกลิ่นอวลอุ่นแกมไม้หอมที่มีความหนาติดเค็มหน่อยๆ เสริมเข้ามาเรื่อยๆ แล้วก็จะชัดเจนเลยในการเป็น Ambroxan ที่ให้อารมณ์กลิ่นแบบอำพันปลาวาฬที่ติดเค็มผสมไม้หอมแห้งอวลอุ่นๆ ซึ่งยิ่งมีกลิ่นออกทางแอมเบอร์ลึกๆ ของยางไม้อย่าง Labdanum มาเสริมอีกกลิ่นนยิ่งชัดเจนในการเป็นโทน Amber ในภาพรวม แถมยังเทคโอเวอร์กลิ่นในช่วงต้นกับกลางไปแบบเกือบทั้งหมดอีกด้วย ซึ่งจะเหลือกลิ่นออกทางเขียวติดไหม้ Smoky หน่อยๆ แกมหวานลึกที่เนียนไปกับกลิ่นอวลอุ่นนี้อยู่ นอกจากนี้เนื้อกลิ่นไม่ได้มีแค่ความเป็น Ambroxan แต่มีกลิ่นออกทางกึ่งแป้งอัลมอนด์กึ่งวานิลลาที่เข้ามาผสมผสานอยู่ด้วยที่ทำให้กลิ่นมีตวามหนาอวลขึ้นมาอีกหนึ่งเสต็ป ซึ่งมิติกลิ่นจะไล่โทนจากอวลไม้ติดเค็มที่แฝงความเขียวขมแกมหวานไหม้ ก่อนที่จะจับต้องถึงความเป็มโทนแอมเบอร์กึ่งแป้งอวลที่รองพื้น ซึ่งเรียกว่าไม่มีคำว่ายอมใครจริงๆ กลิ่นให้ความเป็นโทนทันสมัยและปล่อยของแบบที่ไม่ได้เน้นความแผ่ไพศาล แต่เดินไปไหนกลิ่นก็ส่งต่อให้ผู้คนรับรู้ได้ไม่ยาก

เหมาะสำหรับ - Unisex ที่กลิ่นเรียกว่าอยู่เหนือเพศในการใช้งานชัดเจน อารมณ์คาแรคเตอร์กลิ่นเด่นกว่าเพศประมาณนั้น ทำให้ไม่ว่าเพศไหนอยากใช้ก็จัดไป มีความแตกต่างมากจริงจัง ซึ่งเข้ากับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันแบบทั่วๆ ไป หรือว่าใส่ทำงาน Office ก็ได้อยู่ เพียงแต่จำนวนสเปรย์เหมาะสมนิดนึง เพราะว่ากลิ่นมีความสตรองในตัวเองสูง แม้ว่าจะไม่ได้มาสายปล่อยพลังรอบทิศ แต่อวลแน่นกับผู้ใช้จัดจ้านไม่น้อย เดี๋ยวตึ้บเอาเสียก่อน ยามถึงยามค่ำคืนที่ถ้าจะใส่เรียกร้องความสนใจ บอกเลยว่าจัดไป กลิ่นมีดีที่ความปล่อยของนี่แหละ แต่สิ่งที่ให้ยกเว้นไปได้เลยคือการใส่ยามทางการและใส่เพื่อออกกำลังกาย มันไม่ได้จริงๆ เพราะจะโดนหาว่าปุ๊นมาก็ได้ หรืออาจจะตีขึ้นจนเป็นลมไปก่อนได้

ความทน - จัดจ้านจริงๆ เพราะ 15 ชม. แล้วกลิ่นก็ยังตีขึ้นชัดอยู่เลย และอาบน้ำไปแล้วกลิ่นก็ยังติดผิวอ่อนๆ อยู่ เช่นนั้น เรื่องนี้หายห่วง ทนจริงอะไรจริง

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมากในช่วงต้นยาวไปราวๆ 1 ชม. ก่อนที่จะลดลงมากระจายดีต่อเนื่องไปอีก 4 ชม. แล้วถึงลดลงมาเป็นปานกลางไปจนราวๆ ชั่วโมงที่ 8 จึงค่อยๆ ลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัวอวลๆ ไปเรื่อยๆ 

สรุป - ความเก๋แปลกไม่เหมือนใคร อันนี้มาชัดมาเต็ม แต่ความ Nice อาจจะไม่ได้ตอบโจทย์ทุกคน เพราะเนื้อกลิ่นอวลจริงอะไรจริง และมีคาแรคเตอร์ในตัวเองสูงแบบที่คนใช้อาจจะต้องปรับคาแรคเตอร์ตัวเองไปด้วย หรือไม่ก็ต้องสตรองระดับหนึ่งที่จะให้กลิ่นนี้เป็นตัวเสริมเรื่องราวของผู้ใช้ผ่านกลิ่นนี้ส่งต่อให้คนอื่นรับรู้ ซึ่งบอกเลยว่า กลิ่นไม่ได้ห่วย แต่มันไม่เหมือนใครอย่างมีเสน่ห์ที่แตกต่างต่างหากที่แบรนด์จากสวิตเซอร์แลนด์แบรนด์นี้สร้างสรรค์ออกมาได้ไม่ธรรมดา 

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล สามารถเป็นได้ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่เขียน เพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นได้ทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://perfumeart.ru/product/perfume-sucks-green/

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น