วันจันทร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2566

Review: Hermes - H24 Eau de Toilette

Hermes - H24 Eau de Toilette

หลังจากที่ยืนพื้นกับการให้ Terre d’Hermes เป็นหนึ่งในน้ำหอมชายแกนหลักที่อยู่คู่บุญกับแบรนด์ Hermes มาอย่างยาวนานจากการสร้างสรรค์ของ Jean-Claude Ellena อดีต Perfumer House เมื่อมีการเปลี่ยนมือมาสู่ Christine Nagel ที่มารับช่วงต่อ นอกจากการต่อยอดไลน์เดิม ก็ได้เวลาของการสร้างสรรค์ทิศทางใหม่ๆ ที่ตอบสนองความต้องการและเทรนด์ของการใช้งานกลิ่นที่เปลี่ยนแปลงไปร่วมด้วย และสิ่งที่ได้มากนั้นก็คือ H24

H24 นอกจากสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อเป็นน้ำหอมทิศทางใหม่ๆ ของแบรนด์แล้ว ก็ไปสอดรับไปกับฝั่ง Fashion ของ Hermes ที่เป็น ready-to-wear Collection ฝั่งผู้ชายด้วยที่เรียกว่าครบวงจรในการใส่ทั้งเสื้อผ้าและน้ำหอมครอบคลุม Hermes มันให้หมดทั้งตัวและกลิ่น ซึ่งยิ่งบอกได้คร่าวๆ เลยว่าเนื้อกลิ่นต้องมาสายทันสมัย ครอบคลุมการใช้งานที่หลากหลายสถานการณ์ และแน่นอนว่าต้องไม่ทิ้งลายในการป็นกลิ่นอายสไตล์ Hermes และสิ่งที่ได้นั้นก็บอกเล่าออกมาได้แบบนี้

H24 เปิดตัวด้วยกลิ่นอายโทนเขียวกึ่ง Fruity ที่มีโทน Citrus เสริมเป็นฉากหลัง เนื้อกลิ่นจะไม่ได้เป็นโทนเขียวพิมพ์นิยมที่เป็นกลิ่นแบบเขียวสดชื่นโปร่งๆ อารมณ์กลิ่นหญ้าแต่อย่างใด แต่เพราะการวางตำแหน่งกลิ่นที่มีความสมดุลย์ เลยทำให้แยกโทนในความเขียวออกมาเป็นเลเยอร์ที่น่าสนใจคือ เขียวใบใม้กึ่งหญ้าแห้งที่ติดเปรี้ยวแกมกลิ่นผลไม้ที่ไม่ได้สุกมากอารมณ์มะม่วงดิบ (ที่ทำให้เนื้อกลิ่นมีน้ำหนักขึ้นมาหน่อยนึง) และมีกลิ่นออกทางกุหลาบกึ่งเขียวแกมหวานกึ่งแว็กซ์ของดอกนาร์ซิซัสทำให้กลิ่นมีความนัวอ่อนๆ แกมหวาน และปิดท้ายด้วยกลิ่นติดสมุนไพรเกือบจะลาเวนเดอร์แต่ไม่ใช่เพราะมีกลิ่นนัวๆ ค่อนแอมเบอร์บางๆ ซึ่งน่าจะเป็นแนวๆ Clary Sage รองพื้นอยู่ ทำให้เป็นลูกผสมที่มีความเขียวเปรี้ยวเจือหวานที่มีความนัวเนียนๆ เรียกว่าเปิดมาก็มีความแตกต่างและความน่าสนใจในการติดตามต่อว่าจะออกมาในรูปแบบไหนได้เลย

Highlight จริงๆ คงต้องยกให้ช่วงกลาง เพราะเนื้อกลิ่นจะเริ่มจับต้องได้ถึงกลิ่นแนวเมทัลลิคอุ่นๆ ซึ่งจะเริ่มเข้ามาเป็นตัวรองพื้นทำให้กลิ่นมีน้ำหนักมากขึ้นจากช่วงต้น แต่จะยืนพื้นที่การเป็นกลิ่นโทน Floral ที่ให้ความเป็นนาร์ซิซัสที่มีความเป็นโทนเขียวแกมหวานกึ่งหญ้าแห้งเคล้ากับกลิ่นแนวลูกครึ่งแอมเบอร์กึ่ง Musk ที่มีเอื้อนเป็นลาเวนเดอร์ของ Clary Sage ที่จะชัดเจนเป็นตัวเด่น กลิ่นเลยจะมีน้ำหนักในการเป็นโทนเขียวกึ่งสมุนไพร กึ่งดอกไม้ที่ไม่ได้มีแค่นาร์ซิซัา แต่น่าจะมีแนวๆ กุหลาบเนียนๆ รวมมาด้วย อารมณ์กลิ่นเลยกลายเป็น Green Floral Warm Metallic ที่ให้ความอวลแบบทันสมัย แต่แตกต่างอย่างเป็นเอกเทศจากน้ำหอมในท้องตลาดสายอวลต่างๆ ในปัจจุบันไปเลย

ช่วงท้ายชัดเจนมากเพราะเนื้อกลิ่นจะมีความอวลอุ่นมากขึ้นซึ่งจะมีความเป็นโทนยแอมเบอร์กึ่งไม้หอม เอาตรงๆ ก็ Amberwood นั่นเลย + มีกลิ่นออกแนวกึ่งเหล็กร้อนหน่อยๆ เลยทำให้กลิ่นช่วงท้ายจะอวลอบอุ่นติดเขียวอ่อนๆ ปลายกลิ่นที่ตามมาจากช่วงกลาง และมีกลิ่นออกทาง Musky กึ่งเสื้อผ้าสะอาดเสริมอยู่ทำให้ได้ทั้งความอวลอุ่นก็ได้ ความสะอาดก็ดีเป็นตัวปิดท้ายที่ครอบคลุมทั้งความทันสมัย เรียบหรู และความแตกต่างที่เข้าถึงได้ไม่ยาก   

เหมาะสำหรับ -  ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไปก็ใส่กลิ่นนี้ได้สบาย ถ้าพื้นฐานเป็นคนที่ชอบโทนเขียวอยู่เป็นทุนเดิม จะเข้าถึงกลิ่นนี้ได้ไม่ยากและอินกับการใช้งานได้สบายมาก ซึ่งเข้ากับทุกสถานการณ์ยามกลางวันไม่ว่าจะทางการหรือทั่วๆ ไป เรียกว่าครอบคลุมจริงจัง ส่วนยามค่ำคืนก็ใส่ได้แบบออกแนวสบายๆ เรื่อยๆ หรือออกงานแบบไม่เน้นที่ต้องเล่นใหญ่ หรือใส่แบบทั่วๆ ไปที่มีสไตล์ก็ลงตัวไม่หยอก

ความทน - อยู่ที่ 8 ชม. เป็นสำคัญ มีบวกลบตีไปที่ 2 ชม. ซึ่งก็ว่ากันที่จำนวนสเปรย์และสภาพผิวผู้ใช้ด้วยส่วนหนึ่ง ส่วนตัวเจอไปที่ 8 - 10 ชม. กำลังดีกับการใส่อยู่ในห้องแอร์ตลอดวัน และเจอไปที่ราว 6 ชม. กับการใส่แล้วเหงื่อไหลย้อยทั้งวันไม่จบไม่สิ้น

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น แล้วค่อยๆ ลดลงมาปานกลางไปเรื่อยๆ จนถึงราวๆ ซักชั่วโมงที่ 3 - 4 ถึงกลายเป็นออร่ารอบๆ ตัวยาวไป แล้วจะค่อยๆ เป็น Skin Scent เมื่อผ่านไปซักราวๆ 6 - 7 ชม. ไปแล้ว

สรุป - Hermes ยังคง Signature โทนเขียวได้ดีไม่มีผิดเพี้ยน และสร้างความแตกต่างได้ในอีกเฉดหนึ่งของความเขียวที่แบรนด์ทำได้ดีมาเสมอด้วยเช่นกัน แต่แน่นอนว่า มันค่อนข้างแตกต่างจากพิมพ์นิยมพอสมควร อาจจะต้องทำความเข้าใจกลิ่นไปก่อนซักหน่อย แล้วพอเข้าถึงแล้ว นี่เป็นอีกกลิ่นที่สามารถหยิบมาใช้เมื่อไหร่ก็ได้เพราะครอบคลุมการใช้งานแบบ Daily Scent ที่เรียบหรู แตกต่าง และมีเสน่ห์แบบกำลังดีที่ลงตัว

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล สามารถเป็นได้ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่เขียน เพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นได้ทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.hermes.com/th/en/product/h24-eau-de-toilette-V101561V0/

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น