วันอังคารที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2563

Review: Narciso Rodriguez for Him Bleu Noir Extreme


Narciso Rodriguez for Him Bleu Noir Extreme

หลังจากที่ Narciso Rodriguez ได้สร้างปรากฎการณ์ให้น้ำหอมชายตัวเองกลับมาอยู่ในการเป็นแถวหน้าของสาย Designer อีกครั้งกับรุ่น For Him Bleu Noir ในปี 2015 แน่นอนว่ามีความฮิตตลาดแตกกันขึ้นมาทันทีกับการนำเสนอกลิ่นอายสาย Musky ที่ฉาบหน้าด้วยความเป็นโทน Woody Spicy ที่มีความ Modern แบบติดเมโทรนิ่งๆ แน่นอนการต่อยอดก็บังเกิดขึ้นกับการสานต่อความฮิตที่รุ่น EDP ในปี 2018 ที่ก็ยังคงอยู่ในแถวหน้าของการได้รับความนิยมอยู่เช่นเดิม และก็ไม่ได้จบแต่เพียงเท่านี้

เพราะในปี 2020 นี้ การต่อยอดยังไม่สุด เพราะว่าแบรนด์ได้ปล่อยความเป็น Bleu Noir ออกมาโดยห้อยท้ายด้วยคำว่า Extreme ซึ่ง Concept ของรุ่นคือการสร้างกลิ่นอายสาย Modern และสดชื่นในสไตล์ของ Bleu Noir ที่ต้องมีความน่าค้นหาและความเย้ายวนแบบมีระดับตามสไตล์เมโทรมีของ เช่นนั้น คำโปรยมาซะขนาดนี้ ก็ต้องมาลองซะหน่อยว่ากลิ่นของ Narcison Rodriguez for Him Bleu Noir Extreme นั้น จะมาในรูปแบบที่แปลกและแตกต่างจากต้นตระกูลมากขนาดไหน

เปิดต้นกลิ่นมาความคุ้นเคยแรกสุดของการเป็น Bleu Noir ก็มาทักทายเลยกับโทนกลิ่นนัวติดเครื่องเทศค่อนไปทางคล้ายโทนกระวานเจือไม้หอมอวลหน่อยๆ และมีความปร่ากำลังดีซึ่งจับได้ว่าเป็นโหระพาที่ทำให้กลิ่นมีความนวลปร่าเขียวเข้ามาร่วมด้วย แต่นี่เป็นแค่กลุ่มแรก เพราะในเนื้อกลิ่นจะจับต้องได้ถึงกลิ่นอายโทนสายสดชื่นที่เข้ามาซึ่งจะมีส้มที่แอบมีความขมเจือใสหน่อยๆ พร้อมกับกลิ่นออกทางเย็นๆ อารมณ์ไอเย็นน้ำแข็งที่เป็นตัวล้อมกลิ่นให้มีความเย็นเข้ามา แต่ทุกอย่าง ไม่ได้มีอะไรที่โดดจนแปร่งแต่อย่างใด เพราะโทนกลิ่นมีความสมดุลย์ที่ได้ทั้งความนัวอวลเคล้าความสดชื่นที่มาเจอกันตรงกลางพอดี โดยจะมีกลิ่นอายเย็นๆ คลออยู่ตลอด ซึ่งแม้ว่ากลิ่นจะมีลายเซ็นของความเป็น Bleu Noir ให้จับต้องได้ แต่กลิ่นเริ่มมีความเป็นเอกเทศของตัวเองให้รับรู้ได้ตั้งแต่ช่วงแรกเลย

และเมื่อลายเซ็นหลักกลิ่นที่ต้องมี ไม่มีไม่ใช่ Narciso Rodriguez อย่าง Musk เริ่มเปิดตัวออกมากลิ่นโทน Icy เย็นๆ เคล้าความสดชื่นติดนวลอวลเครื่องเทศอ่อนๆ ก็จะเริ่มมีความนุ่มนวลมากขึ้น ซึ่งต้องบอกตามตรงเลยว่า Musk จะเป็นผู้เล่นหลักในช่วงนี้ที่จะให้โทนนุ่มนวลสะอาด แต่ยังไม่จบความอวลเพราะนอกจากโทนเครื่องเทศอวลอ่อนๆ ที่ตามมาจากจากช่วงต้นแล้ว จะมีกลิ่นโทนไม้หอมอย่างไม้ซีดาร์และกลิ่นออกทางไม้ติดปร่าขมนวลและมีความดาร์กอวลกำลังดีเสริมขึ้นมาด้วย ทำให้ช่วงนี้ถือเป็นคีย์หลักของน้ำหอมรุ่นนี้เลย เพราะกลิ่นจะให้ความนวลก็จริงแต่จะมีอารมณ์อวลดาร์กระเรื่อของโทนไม้หอมติดเครื่องเทศปร่านวลกำลังดีคลอไปอยู่ตลอด สร้างอารมณ์กลิ่นแนวๆ สีน้ำเงินกึ่งเทาที่ไม่ได้ทึบเกินไปในความรู้สึก และมีอารมณ์ออกทางเย้ายวนปนนวลผ่อนคลายได้ดีเลยทีเดียว

การเปลี่ยนแปลงของกลิ่นจะค่อยเป็นค่อยไปไม่ได้ฉีกเกินไปมาก เพราะกลิ่นไม้หอมจะเริ่มสลับกับ Musk ขึ้นมาเป็นตัวหลักแทนทำให้ช่วงท้ายจะเป็นโทน Woody Musky ที่ให้ความนวลเจือหวานอ่อนๆ ระเรื่อๆ โทนไอเย็นๆ กับความสดชื่นจะเริ่มจางเหลือเพียงวูบอ่อนๆ ให้จับต้องได้ประปราย ซึ่งพื้นฐานของกลิ่นจะเป็นแนวสะอาดเจือดาร์กออกทางสีน้ำเงินเจือเทาแบบซีทรูที่มองเห็นผ่านได้ไปเรื่อยๆ ไม่ได้ซับซ้อน ซึ่งทั้ง 3 ช่วงกลิ่นจะให้อารมณ์เหมือนผู้ชายในชุดสีน้ำเงินที่ไม่ได้ถึงกับขั้นเนี้ยบ แต่ให้ความสมาร์ท นิ่ง Cool สะอาดสะอ้าน มีความน่าค้นหาเย้ายวนเนียนๆ และมีลูกเล่นความสดชื่นแบบที่ไม่ได้ดูพยายาม ให้ความเรื่อยๆ ตามที่ควรจะเป็นในลักษณะโทนออกทางสีน้ำเงินเจือเทาที่ถ้ามีความสดชื่นมันก็ควรเป็นไอเย็นๆ นี่แหละที่เติมเต็มได้ดีที่สุดแล้ว

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไปใช้งานตัวนี้ได้สบายมาก กลิ่นให้ความอวลและมีเสน่ห์แบบที่เน้นความซึมลึกเรื่อยๆ มากกว่าจะพยายามเรียกให้ทุกคนหันมอง เลยจะเข้ากับการใส่ในแทบทุกสถานการณ์ยามกลางวันไม่ว่าจะทางการหรือทั่วๆ ไป จะมีก็แต่การใส่ออกกลางแจ้งที่พอได้ แต่ถ้าใส่ออกกำลังกายเน้นให้รอช่วงท้ายๆ จะดีกว่า ส่วนยามค่ำคืนบอกเลยว่า ใส่แบบทั่วๆ ไปหรือออกงานจะเข้าทางที่สุดแล้ว เพราะถ้าใส่ไปท่องราตรี โดนกลบมิดแน่นอน

ความทน - ลงตัวที่ค่าเฉลี่ย 8 ชม. ซึ่งสามารถไปต่อได้อีกถ้าจำนวนสเปรย์เหมาะสม ซึ่งที่เจอสูงสุดในการใช้งานคือราวๆ 12 ชม. กับ 6 สเปรย์

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น แล้วจะลดลงมาปานกลางซักพักนึง ที่เหลือคืออร่ารอบๆตัวกันยาวๆ ไปตั้งแต่ชั่วโมงที่ 3 - 4 กลิ่นมาสายเรื่อยๆ ระเรื่อๆ ชวนพิศดมมากกว่าจะปล่อยพลังราวกับรมควันให้กลิ่นพุ่งๆ ประมาณนี้

สรุป - ถ้าคาดหวังว่าชื่อ Extreme กลิ่นจะแน่นขึ้นสร้างพลังกระจายรอบทิศมากขึ้น แต่จริงๆ เปล่าเลย อาจจะทำให้รู้สึกเฟลเอาได้เพราะออกแนวให้ความเรื่อยๆ เรียบหรูเสียมากกว่าที่จะปล่อยพลัง (เอาจริงๆ ให้ชื่อว่า L’Eau อาจจะเข้าท่ากว่า) ซึ่งถ้าใครที่ไม่ชอบความเป็นกระวานนัวๆ ของรุ่นปกติ หรือเป็นแป้ง Musk เจือไม้อวลอุ่นไปของรุ่น EDP รุ่นนี้แหละที่อาจจะตอบโจทย์ที่สุดในการใช้งานที่ให้ความเป็นผู้ชายที่มีความสมาร์ท ความสบาย และความน่าค้นหาในเวลาเดียวกันได้ไม่ยาก

หมายเหตุ:

1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://cheezelooker.com/web/article/CHZ200300011


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น