วันพุธที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2562

Review: Narciso Rodriguez - Musc for Her Oil Parfum 2013

Narciso Rodriguez - Musc for Her Oil Parfum 2013 

ถ้าบอกว่าแบรนด์ไหนในสาย Designer Brand ที่มี Signature ของน้ำหอมตัวเองในทุกรุ่นเป็นโทน Musk คงหนีไม่พ้น Narciso Rodriguez ซึ่งแต่ละรุ่นทั้งผู้หญิงและผู้ชายต่างใช้โทน Musky เป็นตัวชูโรงในมิติที่แตกต่างกันไปได้อย่างมีระดับและมีชั้นเชิงมาเสมอ โดยเฉพาะรุ่นที่ชูโรงในความเป็น Musk และการเล่ากลิ่นในครั้งนี้ จะมาที่ความเป็น Rare Item กันหน่อยกับรุ
่น 2013 ขวดดำที่เลิกผลิตไป (แต่นำมาปรับปรุงใหม่เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดขวดชมพู ออกมาเมื่อปี 2018 อีกครั้ง) กับการเป็น Musc for Her Oil Parfum 2013 ว่ากลิ่นอาย Musky ที่ลุ่มลึกอย่างมีจริตจะเป็นอย่างไรบ้าง 

พื้นฐานดี มีชัยไปกว่าครึ่งประโยคนี้สามารถใช้ได้กับน้ำหอมรุ่นนี้ได้เลย เพราะกลิ่นที่เป็นตัวเอกหลักและเป็น Center Note อย่าง Musk ที่มีคุณภาพดีมากจะเป็นตัวแสดงความงดงามของกลิ่นได้อย่างครบถ้วนในด้านความหอมนวล ความละมุนคลอผิว และความพลิ้วไหวที่ทำให้รู้สึกหลากหลายมิติอารมณ์ได้อย่างชัดเจนมาก ซึ่งเนื้อกลิ่นในแต่ละช่วงของน้ำหอมตัวนี้จะค่อนเป็นเส้นตรงพอสมควร เพียงแต่จะเปลี่ยนแปลงให้สัมผัสความลุ่มลึกในแต่ละอารมณ์ไปตามแต่ละช่วงเวลาที่มีลูกคู่กลิ่นนั้นๆ เข้ามาสนับสนุน ซึ่งการเปิดตัวของ Musc for Her Oil Parfum 2013 จะมาชัดเจนถึงกลิ่นอายโทร Musk ที่จะมีความนุ่ม ความนวล ความละมุนที่ชัดเจน แต่จะแฝงด้วยกลิ่นอายสายปลุกเร้า Animalic ตุ่ยหน่อยๆ แต่ไม่ได้ติดสาบจ๋าเด่นเลย เพราะมาแบบให้เห็นถึงเสน่ห์ที่ควรจะต้องมีและเป็นของ Musk แบบกลิ่นที่สะกิดจมูกบางๆ แล้ววูบถัดมาจะจับต้องได้ถึงกลิ่นอายของโทนดอกไม้ที่มีกลิ่นผลไม้เนียนๆ แนวแอปริคอตให้จับต้องได้ ซึ่งเดาไม่อยากว่าเป็นดอกหอมหมื่นลี้ที่จะให้ความรู้สึกหอมติดหวานอมเปรี้ยวอ่อนๆ เย็นๆ นวลจมูก ตามด้วยกลิ่นโทนดอกไม้ขาวแนวๆ มะลิเจือกลิ่นโทนสะอาดติดเปรี้ยวปลายกลิ่นของดอกส้มที่สกัดแบบตัวทำละลาย (Orange Blossom) ซึ่งทำให้ช่วงต้นจะได้อารมณ์ของ Musk ที่แตกต่างแต่ส่งเสริมกันได้เป็นอย่างดีระหว่างความเป็น Animalic และ Floral สร้างกลิ่นอายที่มีเสน่ห์ทั้งดูอ่อนโยนก็ได้ เย้ายวนดึงดูดในความนวลนุ่มละมุนก็ดี แอบค่อนไปทางนวลอบอุ่นหน่อยๆ ก็ด้วย

ซึ่งช่วงที่แอบค่อนไปทางนวลอบอุ่นนี่แหละ ที่จะเป็นตัวปูทางไปสู่ช่วงกลางของน้ำหอมที่จะเริ่มเป็นกลิ่นอายสาย Musk ที่อบอุ่นขึ้น แต่ไม่ได้หนักจนฮอตฉ่าแต่อย่างใด ซึ่งโทน Animalic จะเริ่มเบาลงไปจนเหลือน้อยนิดเสริมให้กลิ่นโทน Musk กลายเป็นเสมือนกลิ่นผิวกายอบอุ่นติดนวลกลิ่นดอกไม้ที่ยังคงคุมโทนความขาวสว่างสะอาดนุ่มติดกลิ่นโทนผลไม้หวานบางๆ ซึ่งกลิ่นแม้จะรู้สึกว่ามันนวลนุ่มสว่าง แต่เอาเข้าจริงพื้นเพของ Musk มีความ Sexy แบบสายมินิมัลอยู่แล้ว เช่นนั้นอารมณ์กลิ่นเลยแบ่งเค้กกันได้อย่างน่าสนใจมากระหว่าง โทนอ่อนโยนที่ให้ความนุ่มสว่างและโทนเย้ายวนปนอบอุ่นที่เป็นธรรมชาติและไม่โจ่งแจ้ง มีความเรียบง่ายแต่เซ็กซี่เนียนๆ ในทีไปตลอด แล้วจะมีกลิ่นโทนออกทาง Earthy ที่ติดดินหน่อยๆ ค่อยๆ เนียนเสริมเข้ามาทีละนิดๆ จนกลายเป็นช่วงท้ายของน้ำหอม ที่กลิ่นจะเริ่มจับต้องได้ชัดเจนถึงกลิ่นพิมเสนเบาๆ สะอาดๆ กลิ่นติดดินปนไม้แห้งนิดๆ ซึ่งน่าจะมาจากหญ้าแฝก ที่มาเป็นสายสนับสนุนโทน Musky ที่ให้มิติที่น่าค้นหาปนเย้ายวนดึงดูดเสียด้วย และยังมีโทนแป้งอ่อนๆ อบอุ่นของวานิลลาที่ทำให้กลิ่นมีความนวลอุ่นกำลังดีเข้ามาอีก เลยจะเป็น 2 เลเยอร์ที่ได้กลิ่นอาย Musk ที่ติด Earthy ปนสะอาดเย้าระเรื่อๆ พอดมใกล้ๆ จะมีกลิ่นอุ่นกรุ่นอ่อนๆ คลอผิวกายจาก Musk ที่เจือวานิลลา ซึ่งกลิ่นจะมีความเรียบง่ายแต่มีชั้นเชิงที่มีความเย้ายวนเซ็กซี่ตามธรรมชาติ มีจริตที่กำลังดีปนอ่อนโยนอยู่ในทีไปตลอดเลยทีเดียว 

เหมาะสำหรับ - ผู้หญิงทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไปก็ใส่ตัวนี้ได้แล้ว กลิ่นมีความเป็นผู้หญิงที่ได้หลากหลายมิติอารมณ์ในความเป็นสีขาวสื่อสารถึง Sex Apppeal ที่ลงตัวมากอีก 1 กลิ่นเลย สามารถใช้ได้ในทุกสถานการณ์ยามกลางวัน เพราะให้ความเรียบง่ายและเรียบหรูเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว จะมีก็แต่การใส่ออกกำลังกายที่รอช่วงท้ายๆ น่าจะดีกว่า ส่วนยามค่ำคืนไม่แนะนำกับการใส่ไปท่องราตรี เพราะโดนกลบมิดแน่นอน แต่ถ้าใช้ใส่ไปดินเนอร์ โรแมนติค หรือใส่ก่อนนอนให้ดูน่ากอด อันนี้จัดไป ส่วนผู้ชาย บอกเลยว่าใช้ได้สบายมาก กลิ่นอาจจะไม่ได้แตะ Unisex แต่เพราะกลิ่นไม่ได้เป็นสายปล่อยพลัง มเลยจะเสริมให้มีเสน่ห์แบบโทนขาวนวลและระเรื่อๆ อ่อนๆ แบบเรียกร้องความสนใจคนยืนใกล้ๆ ได้ดีเลยทีเดียว 

ความทน - เพราะน้ำหอมตัวนี้เป็น Oil พื้นฐานกลิ่นจะทนเลยทีเดียวกับราว 8 ชม. ได้เลย 

การกระจาย - กลิ่นกระจายปานกลางในตอนต้น แล้วจะค่อยๆ ลดลงมาเป็นออร่าที่ให้ความอ่อนโยนปน Sexy ที่ขับ Sex Appeal ได้ดีมาก แล้วเป็น Skin Scent ไวพอสมควร เพราะ Oil Perfume กลิ่นมักจะจมติดผิวเป็นเรื่องปกติ 

สรุป - หนึ่งใน Masterpiece เลยก็ว่าได้ เพราะให้ความเรียบง่ายแต่เรียบหรูและเย้ายวนแบบเรื่อยๆ ที่เอาอยู่ได้เสมอทุกสถานการณ์ไม่แปลกใจที่มีแต่คนรักกลิ่นนี้ และเสียดายกันหมดที่กลิ่นนี้เลิกผลิต แต่มีการปรับสูตรใหม่และสีขวดใหม่ออกมาแล้ว เช่นนั้นว่ากันอีกทีถ้ามีโอกาสได้ลอง ที่สำคัญกลิ่นนี้ไม่ใช่หัวสเปรย์ เป็นการแต้มเน้นๆ จึงควรแต้มจุดตามชีพจร และจุดที่สเปรย์น้ำหอมลงบนผิวประจำจะดีที่สุด ตัดการแต้มลงเสื้อผ้าไปได้เลย เพราะมันเป็น Oil ไม่ควรโดนเสื้ออยู่แล้ว 

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ

Photo Credithttps://i.pinimg.com/originals/58/07/ba/5807ba13dc3dd59ce2c28482c2776b30.jpg


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น