Narciso Rodriguez - Musc for Her Oil Parfum 2013
ถ้าบอกว่าแบรนด์ไหนในสาย Designer Brand ที่มี Signature ของน้ำหอมตัวเองในทุกรุ่นเป็นโทน Musk คงหนีไม่พ้น Narciso Rodriguez ซึ่งแต่ละรุ่นทั้งผู้หญิงและผู้ชายต่างใช้โทน Musky เป็นตัวชูโรงในมิติที่แตกต่างกันไปได้อย่างมีระดับและมีชั้นเชิงมาเสมอ โดยเฉพาะรุ่นที่ชูโรงในความเป็น Musk และการเล่ากลิ่นในครั้งนี้ จะมาที่ความเป็น Rare Item กันหน่อยกับรุ่น 2013 ขวดดำที่เลิกผลิตไป (แต่นำมาปรับปรุงใหม่เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดขวดชมพู ออกมาเมื่อปี 2018 อีกครั้ง) กับการเป็น Musc for Her Oil Parfum 2013 ว่ากลิ่นอาย Musky ที่ลุ่มลึกอย่างมีจริตจะเป็นอย่างไรบ้าง
“พื้นฐานดี มีชัยไปกว่าครึ่ง” ประโยคนี้สามารถใช้ได้กับน้ำหอมรุ่นนี้ได้เลย เพราะกลิ่นที่เป็นตัวเอกหลักและเป็น Center Note อย่าง Musk ที่มีคุณภาพดีมากจะเป็นตัวแสดงความงดงามของกลิ่นได้อย่างครบถ้วนในด้านความหอมนวล ความละมุนคลอผิว และความพลิ้วไหวที่ทำให้รู้สึกหลากหลายมิติอารมณ์ได้อย่างชัดเจนมาก ซึ่งเนื้อกลิ่นในแต่ละช่วงของน้ำหอมตัวนี้จะค่อนเป็นเส้นตรงพอสมควร เพียงแต่จะเปลี่ยนแปลงให้สัมผัสความลุ่มลึกในแต่ละอารมณ์ไปตามแต่ละช่วงเวลาที่มีลูกคู่กลิ่นนั้นๆ เข้ามาสนับสนุน ซึ่งการเปิดตัวของ Musc for Her Oil Parfum 2013 จะมาชัดเจนถึงกลิ่นอายโทร Musk ที่จะมีความนุ่ม ความนวล ความละมุนที่ชัดเจน แต่จะแฝงด้วยกลิ่นอายสายปลุกเร้า Animalic ตุ่ยหน่อยๆ แต่ไม่ได้ติดสาบจ๋าเด่นเลย เพราะมาแบบให้เห็นถึงเสน่ห์ที่ควรจะต้องมีและเป็นของ Musk แบบกลิ่นที่สะกิดจมูกบางๆ แล้ววูบถัดมาจะจับต้องได้ถึงกลิ่นอายของโทนดอกไม้ที่มีกลิ่นผลไม้เนียนๆ แนวแอปริคอตให้จับต้องได้ ซึ่งเดาไม่อยากว่าเป็นดอกหอมหมื่นลี้ที่จะให้ความรู้สึกหอมติดหวานอมเปรี้ยวอ่อนๆ เย็นๆ นวลจมูก ตามด้วยกลิ่นโทนดอกไม้ขาวแนวๆ มะลิเจือกลิ่นโทนสะอาดติดเปรี้ยวปลายกลิ่นของดอกส้มที่สกัดแบบตัวทำละลาย (Orange Blossom) ซึ่งทำให้ช่วงต้นจะได้อารมณ์ของ Musk ที่แตกต่างแต่ส่งเสริมกันได้เป็นอย่างดีระหว่างความเป็น Animalic และ Floral สร้างกลิ่นอายที่มีเสน่ห์ทั้งดูอ่อนโยนก็ได้ เย้ายวนดึงดูดในความนวลนุ่มละมุนก็ดี แอบค่อนไปทางนวลอบอุ่นหน่อยๆ ก็ด้วย
ซึ่งช่วงที่แอบค่อนไปทางนวลอบอุ่นนี่แหละ ที่จะเป็นตัวปูทางไปสู่ช่วงกลางของน้ำหอมที่จะเริ่มเป็นกลิ่นอายสาย Musk ที่อบอุ่นขึ้น แต่ไม่ได้หนักจนฮอตฉ่าแต่อย่างใด ซึ่งโทน Animalic จะเริ่มเบาลงไปจนเหลือน้อยนิดเสริมให้กลิ่นโทน Musk กลายเป็นเสมือนกลิ่นผิวกายอบอุ่นติดนวลกลิ่นดอกไม้ที่ยังคงคุมโทนความขาวสว่างสะอาดนุ่มติดกลิ่นโทนผลไม้หวานบางๆ ซึ่งกลิ่นแม้จะรู้สึกว่ามันนวลนุ่มสว่าง แต่เอาเข้าจริงพื้นเพของ Musk มีความ Sexy แบบสายมินิมัลอยู่แล้ว เช่นนั้นอารมณ์กลิ่นเลยแบ่งเค้กกันได้อย่างน่าสนใจมากระหว่าง โทนอ่อนโยนที่ให้ความนุ่มสว่างและโทนเย้ายวนปนอบอุ่นที่เป็นธรรมชาติและไม่โจ่งแจ้ง มีความเรียบง่ายแต่เซ็กซี่เนียนๆ ในทีไปตลอด แล้วจะมีกลิ่นโทนออกทาง Earthy ที่ติดดินหน่อยๆ ค่อยๆ เนียนเสริมเข้ามาทีละนิดๆ จนกลายเป็นช่วงท้ายของน้ำหอม ที่กลิ่นจะเริ่มจับต้องได้ชัดเจนถึงกลิ่นพิมเสนเบาๆ สะอาดๆ กลิ่นติดดินปนไม้แห้งนิดๆ ซึ่งน่าจะมาจากหญ้าแฝก ที่มาเป็นสายสนับสนุนโทน Musky ที่ให้มิติที่น่าค้นหาปนเย้ายวนดึงดูดเสียด้วย และยังมีโทนแป้งอ่อนๆ อบอุ่นของวานิลลาที่ทำให้กลิ่นมีความนวลอุ่นกำลังดีเข้ามาอีก เลยจะเป็น 2 เลเยอร์ที่ได้กลิ่นอาย Musk ที่ติด Earthy ปนสะอาดเย้าระเรื่อๆ พอดมใกล้ๆ จะมีกลิ่นอุ่นกรุ่นอ่อนๆ คลอผิวกายจาก Musk ที่เจือวานิลลา ซึ่งกลิ่นจะมีความเรียบง่ายแต่มีชั้นเชิงที่มีความเย้ายวนเซ็กซี่ตามธรรมชาติ มีจริตที่กำลังดีปนอ่อนโยนอยู่ในทีไปตลอดเลยทีเดียว
เหมาะสำหรับ - ผู้หญิงทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไปก็ใส่ตัวนี้ได้แล้ว กลิ่นมีความเป็นผู้หญิงที่ได้หลากหลายมิติอารมณ์ในความเป็นสีขาวสื่อสารถึง Sex Apppeal ที่ลงตัวมากอีก 1 กลิ่นเลย สามารถใช้ได้ในทุกสถานการณ์ยามกลางวัน เพราะให้ความเรียบง่ายและเรียบหรูเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว จะมีก็แต่การใส่ออกกำลังกายที่รอช่วงท้ายๆ น่าจะดีกว่า ส่วนยามค่ำคืนไม่แนะนำกับการใส่ไปท่องราตรี เพราะโดนกลบมิดแน่นอน แต่ถ้าใช้ใส่ไปดินเนอร์ โรแมนติค หรือใส่ก่อนนอนให้ดูน่ากอด อันนี้จัดไป ส่วนผู้ชาย บอกเลยว่าใช้ได้สบายมาก กลิ่นอาจจะไม่ได้แตะ Unisex แต่เพราะกลิ่นไม่ได้เป็นสายปล่อยพลัง มเลยจะเสริมให้มีเสน่ห์แบบโทนขาวนวลและระเรื่อๆ อ่อนๆ แบบเรียกร้องความสนใจคนยืนใกล้ๆ ได้ดีเลยทีเดียว
ความทน - เพราะน้ำหอมตัวนี้เป็น Oil พื้นฐานกลิ่นจะทนเลยทีเดียวกับราว 8 ชม. ได้เลย
การกระจาย - กลิ่นกระจายปานกลางในตอนต้น แล้วจะค่อยๆ ลดลงมาเป็นออร่าที่ให้ความอ่อนโยนปน Sexy ที่ขับ Sex Appeal ได้ดีมาก แล้วเป็น Skin Scent ไวพอสมควร เพราะ Oil Perfume กลิ่นมักจะจมติดผิวเป็นเรื่องปกติ
สรุป - หนึ่งใน Masterpiece เลยก็ว่าได้ เพราะให้ความเรียบง่ายแต่เรียบหรูและเย้ายวนแบบเรื่อยๆ ที่เอาอยู่ได้เสมอทุกสถานการณ์ไม่แปลกใจที่มีแต่คนรักกลิ่นนี้ และเสียดายกันหมดที่กลิ่นนี้เลิกผลิต แต่มีการปรับสูตรใหม่และสีขวดใหม่ออกมาแล้ว เช่นนั้นว่ากันอีกทีถ้ามีโอกาสได้ลอง ที่สำคัญกลิ่นนี้ไม่ใช่หัวสเปรย์ เป็นการแต้มเน้นๆ จึงควรแต้มจุดตามชีพจร และจุดที่สเปรย์น้ำหอมลงบนผิวประจำจะดีที่สุด ตัดการแต้มลงเสื้อผ้าไปได้เลย เพราะมันเป็น Oil ไม่ควรโดนเสื้ออยู่แล้ว
หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ”
Photo Credit - https://i.pinimg.com/originals/58/07/ba/5807ba13dc3dd59ce2c28482c2776b30.jpg
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น