วันจันทร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2558

Review: Giorgio Armani – Empoiro Armani Lui


Giorgio Armani – Empoiro Armani Lui

ผมเห็นน้ำหอมตัวนี้ครั้งแรก ขวดนี่มาเป็นดุ้นตั้งตรงแหน่วเลยอ่ะ ซึ่งจริงๆ ตัวนี้มีหลายชื่อต่างภาษากันเลยนะครับ ซึ่งก็สามารถเรียกได้หมดไม่ว่าจะเป็น Armani Lui หรือ Armani He ซึ่งเรียกได้เลยว่าเป็นหนึ่งในน้ำหอมที่บอกได้เลย คิดอะไรไม่ออกบอกตัวนี้ เพราะมาครบทั้งกลิ่นหอมอย่างมีระดับ สบายๆ ดูหรูหรากำลังดี บ่งบอกรสนิยมคนใส่ได้ว่าเข้าใจเลือกเลยล่ะครับ 

Top Notes เปิดตัวกันด้วยกลิ่นโทนซิตรัสแบบนุ่มๆ เพราะนอกจากจะขนเลมอนและมะกรูดมาแล้ว แต่เพราะมีส้มกับแอปเปิ้ลเขียวและสับปะรดมาตัด แถมด้วยกลิ่นออกโทนสะอาดติดหวานหน่อยๆ มาแซมทำให้กลิ่นในช่วงนี้จะออกทางสดชื่นแบบนุ่มๆ ติดสะอาดเย้าๆ กันตั้งแต่ต้น และเมื่อเข้าสู่ Middle Notes ได้เวลาของกลิ่นโทนสะอาดนุ่มจมูกจะมาแทนที่โดยจะมีกลิ่นอายวาบๆ อ่อนๆ ของจันทน์เทศผสานกับกลิ่นโทนดอกไม้หอมอ่อนๆ กำลังดีไปตลอด กลิ่นนุ่มจมูกจริงจัง หอมแบบมีระดับ โดยจะมีกลิ่นโทนวู้ดดี้รองพื้นด้านหลังค่อยๆ ปล่อยของมาเรื่องๆ จนเข้า Base Notes ที่จะได้เวลาของโทนวู้ดดี้สะอาดๆ ด้วยกลิ่นไม้จันทน์หอมจะเด่นนำ ตีคู่กับ Oak Moss ที่ให้ความแมนในเนื้อกลิ่น โดยมีกลิ่นนุ่มๆ ครีมมี่รองพื้นด้านหลัง และมีโทนอบอุ่นประปราย บ่งบอกถึงผู้ชายรสนิยมดี มี Life Style แบบคนเมืองชัดเจนเลยทีเดียวล่ะครับ 

เหมาะสำหรับ – ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยเป็นต้นไป เพราะกลิ่นไม่ได้ออกทางหนักหน่วง เข้าถึงได้ง่าย ใส่แล้วหอมสดชื่นแบบนุ่มจมูกและมีคลาส สามารถใส่ได้ทุกสถานการณ์ยามกลางวัน ทั้งทางการและไม่ทางการ ที่สำคัญตัวนี้เป็น Office Scent ที่ดีมากเลยทีเดียว เพราะกลิ่นไม่ทำร้ายใครเลย แถมให้ความรู้สึกของการเป็นผู้ชายที่ดูแลตัวเองอีกเสียด้วย ส่วนยามกลางคืน ถ้าไปเมา ก็อย่าเลยครับ กลิ่นเบาไป สู้เหล้าไม่ได้หรอก

ความทน – 6 ชั่วโมงขึ้นไป ซึ่งสามารถถึง 8 ชั่วโมงได้ ถ้าอัดสเปรย์ย้ำหน่อย รวมถึงพึ่งเคมีบ้างบางส่วน

การกระจาย – กลิ่นกระจายปานกลางไปตลอดจนถึงปลายๆ ของช่วงกลาง มีกลายเป็น Skin Scent ในช่วงท้าย ที่ยังให้ความรู้สึกแมนสะอาด เท่ห์ และนุ่มนวลอยู่ให้รู้สึกได้

ทิ้งท้าย – กลิ่นนี้อาจจะดูไม่ได้เด็ดดวงอะไรเท่า Armani Code หรือ Acqua di Gio ที่ฮิตกันจริง แต่อย่างน้อยก็เป็นหนึ่งในกลิ่นที่ใส่ยังไงก็ผ่าน หอมสะอาดอย่างมีระดับ และมีภูมิอีกเสียด้วย ไม่งั้นคงไม่ผลิตมายาวนานตั้งแต่ปี 1998 จนถึงทุกวันนี้ ^^

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น