Jean Desprez - Bal a Versailles
เคยได้ยินชื่อ Jean Desprez มาบ้างเพราะเป็นหนึ่งในแบรนด์น้ำหอม Niche ที่เน้นทางฝั่งของสาวๆ เลย แต่เพราะไม่มีโอกาสมากนักที่จะได้ลอง
จนมาวันหนึ่งมีมิตรสหายที่รักน้ำหอมด้วยกันแบ่งปันมา จึงได้เวลาของการจัดไปและนำมาบอกเล่ากับรุ่นดังของแบรนด์นี้อย่าง Bal
a Versailles
Top Notes ทำเอาตกใจเล็กน้อย เพราะใช่ว่ามากับโทนดอกไม้รวมฮิตอย่างกุหลาบ
ดอกส้ม และมะลิกลั้วซิตรัสบางๆ ติดเขียวออกทางสมุนไพรแบบซ่าๆ
ของโรสแมรี่ก็จริง แต่สิ่งที่รองพื้นแล้วเด่นชัดมากเลยคือ กลิ่นชะมดเช็ด (Civet)
ที่มาให้โทน Animalic (สาปปลุกเร้า)
กันตั้งแต่ต้นเลย เรียกว่าออร่าความเด่นออกกันตั้งแต่ช่วงนี้ จนเมื่อเข้า Middle
Notes กลิ่นโทน Animalic ของชะมดเช็ดยังคงอยู่จะเริ่มเปล่งออร่ามากกว่าเดิมก็จริง
แต่โทน Old School แบบน้ำหอมผู้หญิงจึงเริ่มมาโดยดึงความเป็นโทนดอกไม้ตอนต้นมาผสมผสานไปด้วย
แต่จะแย่งซีนบ้างจากกลิ่นของพิมเสนกลั้วไม้หอมจะตีขึ้นแนบคู่ไปกับกลิ่นโทนแป้ง
กลิ่นอายช่วงนี้จะหอมแบบติดแป้งที่นวลติดสาปผิวกาย โดยยังมีความกรุยกรายในเนื้อกลิ่นที่หรูหราแบบหญิงสูงศักดิ์ไม่น้อยเลยทีเดียว
และเมื่อถึงช่วง Base Notes งานนี้กลิ่นชะมดเช็ดเผยว่าตัวเองเป็นตัวเอกของน้ำหอมตัวนี้แน่นอน
พร้อมกับ Musk ที่มาเต็มมากด้วยเช่นกันทำให้กลิ่นโทน Animalic
จะเด่นมากฉาบไปด้วยกลิ่นยางไม้ที่มาให้ความดิบโดยมีความอบอุ่นของแอมเบอร์คลุกเคล้าเข้ามา
โดยที่วานิลลาจะรับโทนแป้งมาให้เป็นความรู้สึกอบอุ่นติดเย้ายวน
ทำให้ภาพรวมกลายเป็นกลิ่นอายแบบเซ็กซี่แบบสาวสูงศักดิ์ย้อนยุคที่มีระดับและมีคลาสมากเลยทีเดียว
เหมาะสำหรับ – ผู้หญิงทุกเพศวัยทำงานขึ้นไป
ถ้าอายุซัก 30 อัพ อาจจะชอบมาก เพราะกลิ่นนี้ไม่ได้เอาใจตลาดวัยใสด้วยซ้ำ
มันมีความย้อนยุคอยู่ในเนื้อกลิ่นสูง ต้องผ่านน้ำหอมแน่นๆ ติดกลิ่นโทน Musk
และ Civet มาในระดับหนึ่งจะปลื้มปริ่มได้ไม่ยาก
เข้ากับในบางสถานการณ์ยามกลางวันที่จำกัดสเปรย์ ได้ทั้งทางการและไม่ทางการ
โดยที่ถ้าอยู่ในห้องแอร์ฉ่ำๆ จะเป็นเรื่องดีมาก เพราะเอื้อให้กลิ่นไม่หนักเกินไป
แต่ขอยกเว้นใส่เพื่อออกกำลังกายและออกอากาศร้อนๆ เด็ดขาด
กลิ่นตีขึ้นสะใจขาดดิ้นจนคนอื่นหันมามองหน้าแน่ๆ ส่วนยามค่ำคืนจัดไป
กลิ่นมีความหรูหรามีระดับแบบเซ็กซี่ได้ด้วยเช่นกัน
ความทน – มากกกกกกก เรียกว่า 12 ชม. กลิ่นยังตีขึ้น
การกระจาย – มากกกกเลยทีเดียวในช่วงต้น แล้วลดลงมากระจายดีในช่วงกลาง
ก่อนปิดท้ายที่ออร่ารอบๆ ตัวในช่วงท้าย
ทิ้งท้าย – บนผิวผู้ชายอย่างผม กลิ่นโทน Animalic
จะชัดแจ่มแจ้งมากจนรู้สึกได้ แต่พอให้คนอื่นที่เป็นผู้หญิงลองตีคู่ไปด้วยกัน
เท่ากับว่ากลิ่นบนผิวผู้หญิงงามกว่าอย่างเห็นได้ชัดตรงที่เป็น Animalic
แบบเย้ายวนเซ็กซี่กำลังดี ก็น้ำหอมผู้หญิงนี่นา 55555
Credit ภาพ
- http://ecx.images-amazon.com/images/I/61uVkoFVKLL._SL1000_.jpg
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น