L’Artisan Parfumeur – Dzongkha
เป็นเพราะคิดถึงเนื่องจากแบรนด์นี้จากลาประเทศสารขัณฑ์ไป แม้อาจจะมีหลุดมาอีกในงานเซลล์ที่จะมีในอนาคตก็ตาม
แต่ก็ต้องหาลองกลิ่นใหม่ๆ จนได้เพราะงานเขาดีจริงๆ พอมาเจอชื่อรุ่นว่า Dzongkha หรือขอเรียกเป็นไทยว่า “สงขลา” เอาความง่าย (จริงๆ เป็นชื่อภาษา “ซองคา” ของภูฏาน) เลยจัดไปและผลออกมาคือ
เปิดต้นกลิ่นมาได้แบบว่า
Spicy กันเต็มๆ มาก
เพราะกลิ่นอายเครื่องเทศจะมาเต็มมาก คือคนไม่ชินอาจจะผงะไปได้เลย
แถมมากลั้วความเขียวแบบใบชาบดสดฟุ้งกระจายขึ้นมากลั้วกับกระวานที่เข้มมากแบบชัดเจน
แอบมีติดเปรี้ยวจางๆ แทรกไปด้วยตลอด โดยมีกลิ่นอายนวลๆ บางเบา แต่เพียงไม่นานจะเข้าช่วงกลางที่คราวนี้กลิ่นชามสาลาจายหรือ
Chai Tea ที่เป็นชานมผสมเครื่องเทศติดหวานอบอุ่นจางๆ
จะเด่นขึ้นมา กลิ่นเขียวๆ ยังคงมีอยู่แต่โดนตัดโชะกับกลิ่นอายโทนธูปและ Smoky
ของหญ้าแฝกที่แทรกเข้ามา เลยทำให้กลิ่นอายช่วงนี้จะกลายเป็นเขียวติดชาเครื่องเทศกลั้วความนุ่มแบบแห้งๆ
คือถ้าจมูกหาเรื่อง ก็จะบอกว่า นี่มันกลิ่นคื่นไช่นี่นา ซึ่งก็คล้ายอยู่นะ
แต่มันไม่ได้คื่นไช่สดขนาดนั้นเพราะความที่มีกลิ่นอาย Smoky แบบเบาๆ นี่แหละที่ทำให้กลิ่นมีความขลังลงตัวกลั้วความเขียวได้อยู่
ที่สำคัญโทนนวลๆ บางเบาในตอนต้นเริ่มเด่นขึ้นมาและนำเข้าไปสู่ช่วงท้ายนั่นคือ
Iris ที่จะมาแบบนุ่มนวลกลั้วโทนหนัง
โดยมีกลิ่นอายแบบไม้แห้งๆ จากใบปาปิรัสที่จะมาให้ความชิลล์ๆ สบายๆ
กลิ่นในช่วงกลางยังตามมาอยู่แบบเบาๆ เลยทำให้กลิ่นอายมีความเด่นเฉพาะตัวมากแบบเป็นไม้หอมนุ่มกลั้วเครื่องเทศจางๆ
ติดเขียวเบาๆ ไม่เหมือนใคร ซึ่งภาพรวมไล่เรียงจากความจัดเต็มของเครื่องเทศสู่ความเบาสบายในแบบพิเศษขึ้นมาทันที
นี่แหละ Dzongkha
เหมาะสำหรับ – ใช้ได้ทุกเพศวัยทำงานขึ้นไป เพราะ Unisex เต็มๆ แต่อย่างน้อยต้องผ่านน้ำหอมกลิ่นแนวๆ
เครื่องเทศแบบติดเขียวและกลิ่นโทนธูปมาพอสมควรจะชอบกลิ่นอายแนวๆ
นี้ได้ไม่ยาก ซึ่งสามารถใส่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวัน ทั้งงานทางการและทั่วๆ
ไป กลิ่นสร้างภูมิและความน่าเชื่อถือได้อยู่ เพราะออร่ากลิ่นถ้าไม่ได้ดมใกล้ๆ
มันจะหอมมีมีชั้นเชิงของเครื่องเทศกลั้วเขียวๆ ติด Smoky งามเลย ส่วนใส่แบบชิลล์ๆ ก็พอได้ เพราะเน้น Present ความ
Unique แบบไม่เหมือนใครนั่นเอง งดใส่ออกกำลังกายเน้อกลิ่นไม่เข้าทางนัก
ส่วนยามค่ำคืน ถ้างานหรูหราหรือดินเนอร์จัดได้ แต่ถ้าทั่วๆ
ไปตัวนี้อาจจะไม่เข้าทีเท่าไหร่ แต่ถ้ามั่นใจต้องการไม่เหมือนใคร
ก็จัดไป
ความทน – กลิ่นทนมากเลยทีเดียว กับ 8-10 ชม. สบายๆ ซึ่งสิ่งที่เจอกับตัวคือ 12 ชม. กลิ่นงามๆ
ยังตีขึ้นแบบสบายๆ ให้ได้รับรู้อยู่เลย ฟินมาก
การกระจาย – กลิ่นกระจายดีมากแบบเอาอึ้งเลยในช่วงต้น
เครื่องเทศติดเขียวเผ็ดๆ มาเต็ม ก่อนจะลดลงเป็นกระจายกึ่งดีกึ่งปานกลาง
แล้วค่อยเป็ยออร่ารอบๆ ตัวแบบสบายๆ ติดขลังๆ ในช่วงท้าย
ทิ้งท้าย – เนื่องจากไม่เคยไปภูฏานมาก่อน
แต่ถือว่าน้ำหอมตัวนี้บอกถึงความขลังและความเป็นภูฏานให้รับรู้ได้ผ่านกลิ่นได้น่าสนใจมากเลย
ที่สำคัญกลิ่นนี้สำหรับผมมัน Unique จริงๆ ไม่เหมือนใคร
ทำเอาประทับใจไม่น้อยครับ
Credit ภาพ
- https://akafkaesquelife.files.wordpress.com/2013/05/l_artisan_dzongkha.jpg
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น