Valentino UOMO Edition Noire
หนึ่งในขวดที่เรียกว่าดึงสายตาไปตอนแรกว่านี่มันน้ำหอมผู้หญิงหรือเปล่า
หรือบางคนจะบอกว่า ขวดเก๊ย์ เกย์ ตั้งแต่รุ่น UOMO ปกติแล้ว แล้วอยู่ดีๆ ขวดสีดำที่ออกมานี่คืออัลไล ซึ่งจะแตกต่างกับ UOMO
ปกติหรือไม่ ได้โอกาสลองเลยแล้วกัน
ซึ่งรุ่นนี้ก็
คือ Valentino UOMO Edition Noire ที่พึ่งออกมาในปี 2015 นี่้เองกับขวดสีดำที่เพิ่มคำขึ้นมา
แน่นอนหายเกย์แบบที่หลายๆ คนคิดไปได้เยอะ (หรือเปล่า) 5555 และแน่นอนว่า
กลิ่นที่ได้มันไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากจากรุ่นต้นตระกูล เรียกว่าถอดกันมาเลย เพียงแต่จะมีบางอย่างมันเด่นขึ้นมามากขึ้นและเข้มข้นขึ้นบ้างในพื้นฐานกลิ่นที่เป็นแบบเดิม
โดย Top Notes เปิดตัวกันกลิ่นอายหอมหวานติดกลิ่นแบบลิปสติกในแบบที่ตัวหัวไลน์ทำได้แต่จะมีกลิ่นอายเข้มขึ้นพอสมควร
เพราะมันจะผสมกันดอกโทนดอกไม้แนวๆ ไอริสติดสมุนไพรกับซิตรัสบางๆ
ที่จะโดนกลิ่นในช่วงกลางของกาแฟ ชอคโกแลต และถั่วฮาเซลนัท
ดันขึ้นมาผสมกันตั้งแต่ช่วงนี้ ซึ่งถ้าอากาศเย็นๆ จะเป็นใจกับน้ำหอมตัวนี้มาที่จะส่งกลิ่นอายอบอวลหอมหวาน
แต่ถ้าร้อนๆ งานนี้อาจจะจุกคอหอยกันหน่อยแบบเหมือนเปิดกระเป๋าเครื่องสำอางค์ผู้หญิงแล้วกลิ่นพุ่งเข้ามาเต็มๆ
พอเข้าช่วง Middle Notes กลิ่นช่วงแรกหายไปหมดเกลี้ยงไม่เหลือ
ให้กลิ่นของชอคโกแลตและฮาเซลนัททำหน้าที่แบบขนมๆ โดยความเป็นเนยถั่วไม่เยอะเหมือนตัวต้นไลน์
เพราะกาแฟเป็นตัวนำเด่นมากขึ้น ซึ่งตรงนี้แหละที่ต่างให้พอรู้สึกได้
กลิ่นจะเป็นคล้ายๆ กาแฟคั่วบทผสมกับชอคโกแลตและไซรัปฮาเซลนัทติดหวาน
เลยจะทำให้กลิ่นไม่ออกเมโทรแบบ Dior Homme ทั้งตัวปกติและ
Intense นัก เรียกว่าเหมือนเพิ่มตัวใดตัวหนึ่งมาเด่นทำให้ความรู้สึกเปลี่ยนในพื้นฐานกลิ่นเดียวกัน
และคราวนี้ Base Notes ซึ่งกลิ่นหนังนุ่มๆ ที่เข้มขึ้นมา
โดยยังมีหอมหวานของช่วงกลางมาผสมผสาน ที่จะออกทางนัวๆ เซ็กซี่
โดยมีโทนไม้ซีดาร์ที่มาให้โทนขรึมติดดาร์กจางๆ ที่กลิ่นช่วงนี้เทียบกับต้นไลน์แล้วกลิ่นเข้มขึ้นมาหน่อยให้รู้สึกว่ามันมีความหอมนัวติดดาร์กหน่อยๆ
แต่ยังคงความหวานแบบเมโทรเท่ห์ๆ อยู่
ทั้งหมดทั้งมวลเลยออกมาเลยมีความใกล้เคียงตัวต้นฉบับแต่มีความเข้มขึ้น
แน่นอนว่า มาลักษณะในแบบที่ Dior Homme ก้าวไปสู่ Dior Homme Intense แบบรู้สึกได้
เพียงแต่ไม่ได้โดดไปจากของเดิมมากเท่านั้นเอง
เหมาะสำหรับ -
ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยก็จัดตัวนี้ได้แล้ว เพียงแต่ต้องเลือกสถานการณ์ในการใส่นิดนึง
เพราะกลิ่นมันออกเนี้ยบด้วย ส่วนวัยทำงานจัดได้สบาย
ถ้าอยู่ในห้องแอร์ฉ่ำๆ ตลอดวันตัวนี้กลิ่นดีงามเลยทีเดียว
และสามารถจัดได้ในยามชิลล์ๆ ก็ได้
เพียงแต่จำนวนสเปรย์เหมาะสม งดใส่ออกกำลังกายเถิด
เดี๋ยวฆ่าหมู่ ส่วนยามค่ำคืนเรียกว่ากลิ่นหอมหวานเมโทรหวานแบบลงตัวเลยทีเดียว
ความทน - 8 ชม. และเกินไปกว่านั้นได้สบายๆ
ถ้าจำนวนสเปรย์ลงตัว ซึ่งส่วนตัวเจอที่ 15 ชม. กับ 6 สเปรย์
การกระจาย -
ไม่ต่างจากต้นไลน์ที่ช่วงแรกจะกระจายแน่น และแน่นมาก
แล้วจะลดลงมาเป็นกระจายดีในช่วงกลางไปเรื่อยๆ จนถึงช่วงท้ายที่เป็นออร่ารอบๆ
ตัวไปเรื่อยๆ
ทิ้งท้าย -
เอาตรงๆ ส่วนตัวผมรู้สึกทนกว่า UOMO ปกติ ในโทนกลิ่นที่ไม่ได้แตกต่างกันนัก เพียงมีความหวานนัวเซ็กซี่มากขึ้น
ซึ่งขวดดำหมดแบบนี้สิ เท่ห์ขึ้นมาก ^^
Credit ภาพ
- http://www.masculin.com/images/article/10611/valentino-uomo-edition-noire.jpg
หาซื้อในไทยได้ใช่ปะครับ
ตอบลบผมเห็นตามห้างมีอยู่บ้างเมื่อตอนต้นๆ ปีนะครับ ยังไงลองไปดูอีกทีครับผม
ลบ