M. Micallef – Ananda Dolce
เป็นหนึ่งในแบรนด์น้ำหอมที่ขวดหรูหราอลังการมาก
ขวดธรรมดาว่าสวยมากแล้ว ยิ่งโซนขวดที่ประดับประดาด้วยเพชรแบบ Handmade เรียกกว่าโคตรของโคตรหรูเลยทีเดียว เรื่องราคาไม่ต้องพูดถึง กราบบบบบบบเลยดีกว่า
แน่นอนว่าน้ำหอมเป็นแบรนด์ Niche อย่างชัดเจน
และมีหลายรุ่นหลายไลน์ออกมากันให้รึ่มแล้วเช่นกัน ดังนั้นเปิดศักราชการรีวิวตัวแรกของแบรนด์นี้อย่าง
Ananda Dolce เลยแล้วกัน
ก่อนอื่นต้องบอกว่า
Ananda Dolce ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับบักจ่อย:
อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม แต่เป็นหนึ่งในไลน์น้ำหอม ที่ชื่อว่า Ananda
Collection โดยเป็นตัวล่าสุดของไลน์นี้ที่ปล่อยออกมา
ซึ่งแน่นอนว่าจะไม่ไปแตะในเรื่องความเชื่อมโยงว่าไลน์นี้มาในรูปแนวแบบไหน
เพราะยังไม่เคยได้ลองตัวอื่นๆ เข้ามาที่ตัวนี้เต็มๆ โดยเมื่อเปิด Top
Notes ออกมากลิ่นแรกคือน้ำมันอัลมอนด์จะแหลมขึ้นมาก่อนเลย
กลิ่นจะหอมหวานกันเต็มๆ ตั้งแต่ช่วงนี้ แต่ข้อดีคือ พีชที่จะเข้ามาอย่างไว
มาผสมผสานให้กลิ่นโทนหวานในช่วงเปิดนี้เป็นกลิ่นอายที่สดชื่นและสดใสแทน
เรียนกว่า 2 กลิ่นนี้จะเป็นคู่บุญให้น้ำหอมตัวนี้อย่างมาก
เพราะสามารถทำเอาคนที่ฉีดเทสตกหลุมรักในความสดใสฉ่ำๆ หวานได้เลยทันที
และอาจเสียตังค์ซื้อได้ถ้ามีกำลังทรัพย์ ส่งต่อให้ช่วง Middle Notes กลิ่นของอัลมอนด์จะซอฟท์ลงไปให้อารมณ์ออกแนวนวลจมูกมากขึ้น
โดยที่จะมีโทนดอกไม้สีขาวต่างๆ แน่นอนว่าแอบจับได้ถึงมะลิและดอกส้มจางๆ
แต่เป็นความดีอย่างนึงคือ พีชที่ไม่หนีไปไหน ยังตามมาให้ความหอมฉ่ำสดชื่นอย่างเคย
เป็นตัวเอกของกลิ่นกันเลยทีเดียว ในช่วงนี้กลิ่นจะบอกอารมณ์อย่างชัดเจนคือสีชมพูอ่อนที่หวานแกมสดใส
หอมหวานแบบติดผลไม้และดอกไม้อย่างลงตัว มีความหรูหราปะปนอยู่และไม่มีคำว่าแป้งมารบกวนให้รำคาญใจแต่ประการใด
และปิดท้ายที่ Base Notes กลิ่นโทนหอมหวานลูกผสมอัลมอนด์และพีชล้อมด้วยโทนดอกไม้จะเบาลงไปมาก
แต่ยังอยู่แบบบางๆ ผสมกับกลิ่นอายของ Musk ให้ออกทางนุ่มสะอาดติดหวานหน่อยๆ
มีความอบอุ่นครีมมี่นวลๆ ในเนื้อกลิ่นกำลังดีลากยาวจนหายไปจากผิวนั่นเอง
เหมาะสำหรับ – ผู้หญิงเลยจ้า ทุกเพศวัย ม.ต้น
ก็ใส่ได้แล้ว เรียกว่าเป็นน้ำหอม Niche ก็จริง
แต่มันใช้ง๊ายยยยง่ายยยย เป็น Niche ที่ให้โทนหอมหวานสดชื่นตามธรรมชาติเสียมาก
โดยสามารถใส่ได้แทบทุกสถานการณ์ยามกลางวันเลย ได้หมดทั้งทางการและทั่วๆ ไป
กลิ่นชวนให้คนรู้สึกสดชื่นหอมหวานไปด้วย ออกกำลังกายอาจจะพอได้แต่ให้รอช่วงท้ายๆ
จะดีกว่า และยามค่ำคืนก็พอได้ แบบทั่วๆ ไป แต่ถ้าจะใส่ไปท่องราตรีอาจจะต้องอัดหน่อย
และเลือกสถานที่ไป ที่สามารถแสดงความใสน่ารักหอมหวานได้ด้วย
เพราะกลิ่นมันแอบมีความหรูอยู่ ถ้าใส่ไปแล้วเต้นรากแตก ดิ้นเป็นปลาช่อนขาดน้ำ
มันคงไม่เข้าทางกับกลิ่นนัก ส่วนผู้ชาย เอาจริงๆ กลิ่นไม่ได้เข้าทาง
แต่ถ้าใส่พอดีๆ ไม่เน้นจำนวนสเปรย์มากเกินไป ก็ไม่ได้สาวจัดเกินกว่าเหตุนัก
ความทน – เพราะกลิ่นค่อนข้างมีความเป็นธรรมชาติสูง
ความทนเลยอยู่ที่ประมาณ 6 ชม. ถ้าจำนวนสเปรย์มากขึ้นสามารถลากยาวไปที่
8 ชม. ได้อยู่
การกระจาย – กลิ่นกระจายดีในตอนต้น
ก่อนจะลดลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัวหอมหวานตีขึ้นให้รับรู้ตลอดในช้วงกลาง
และปิดท้ายที่ Skin Scent ในช่วงท้าย
ทิ้งท้าย – กลิ่นน่ารักมากกกกกกครับ
ตอนผมแต้มช่วงแรกก็ตกใจ มันส๊าวววววสาวววว แต่พอพีชมาเท่านั้นแหละ สาวนะ
แต่หอมจริง สดชื่นอมหวานฉ่ำๆ เลย จุดนี้หาได้แคร์ไม่ถ้าใครจะบอกว่าผมใส่น้ำหอมผู้หญิง
ก็มันหอมนี่นา
หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง
ถ้าผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ รบกวนติดต่อเพื่อขอเป็นลายลักษณ์อักษรและผมต้องอนุญาตก่อน
ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้แบบไม่ได้ขอกันก่อนดีๆ
ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ
Credit ภาพ
- http://www.mmicallef.com/shop/113-thickbox_default/ananda-dolce-by-mmicallef.jpg
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น