วันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2559

Review: Dolce & Gabbana – The One for Men Eau de Parfum

Dolce & Gabbana – The One for Men Eau de Parfum

เพราะต้นตำรับของ The One for Men มันมีความดีงามอยู่มากในแง่ของน้ำหอมยาสูบโทนเซ็กซี่ที่ใครได้กลิ่นก็ฟิน แต่เพราะการเป็น EDT อาจจะไม่ได้ตอบโจทย์คนที่ต้องการอะไรที่เข้มข้นเท่าไหร่ เช่นนั้น Dolce & Gabbana จึงได้ต่อยอดความสำเร็จด้วยการเปิดตัวรุ่น EDP ขึ้นมาซะเลย ซึ่งจะเป็นยังไงต่างจากเดิมหรือไม่ พิสูจน์ให้ชัดแจ้งเลยดีกว่า

โดยภาพรวมต้องบอกว่ากลิ่นไม่ได้แตกต่างจาก EDT เท่าไหร่นัก ทุกอย่างยังให้ความรู้สึกแบบเดิมอยู่ไม่หนีไปไหน แต่สิ่งที่มีความแตกต่างบ้างให้รู้สึกได้นั่นคือ กลิ่นที่เข้มขึ้นมาในลักษณะของ EDP และ Notes บางตัวที่ไม่ได้เด่นมากในตัว EDT จะชัดเจนขึ้นมาให้รู้สึกได้มากขึ้น ซึ่ง Top Notes กลิ่นอายของเกรฟฟรุตจะชัดขึ้นมา เคล้ากับความเป็นโหระพาที่ให้ความเป็นสมุนไพรเขียวติดอุ่นๆ โดยมีเม็ดผักชีที่มาในโทนเผ็ดๆ ปร่าก็จริง แต่โดนเกลาจนนุ่มดันให้ช่วงนี้เป็นซิตรัสติดเครื่องเทศที่อยู่ตรงกลางระหว่างความสดชื่นเบาๆ กับความเย้ายวนกำลังดี ที่สำคัญจะจับความรู้สึกได้เลยว่ากลิ่นมันจะมีความอุ่นแบบหวานโปร่งๆ จากแอมเบอร์และยาสูบรองพื้นแบบหลบๆ ซ่อนๆ อยู่ ผ่านไปไม่นานกลิ่นอายของพระเอกหลักอย่างยาสูบจะดันขึ้นมาเรื่อยๆ นำเข้าสู่ Middle Notes ซึ่งช่วงนี้จะมีลักษณะของความเป็นเครื่องเทศโทนหวานยั่วเย้าอย่างเม็ดกระวานกลั้วซิตรัสบางๆ ของเกรฟฟรุตแล้วล้อมด้วยกลิ่นหวานโปร่งของขิงและความนวลของดอกส้มได้ลงตัว กลิ่นมีความเข้มมากขึ้น เม็ดกระวานจะหวานเย้าโดยมีตัวสนับสนุนอย่างดอกส้มที่มาให้ความเซ็กซี่ดึงดูดแบบเต็มๆ ล้อมไปด้วยกลิ่นขิงที่มาแบบหวานแต่ไม่ได้มาโทนฉ่ำ มีความเป็นเครื่องเทศที่ให้ความสดชื่นจางๆ และเสริมมิติที่จับต้องได้เข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น โดยยังรู้สึกได้ว่าพื้นฐานของกลิ่นมันมีความอุ่นๆ และหวานโปร่งจากแอมเบอร์และยาสูบอยู่ไม่หายไปไหน แถมจะเริ่มชัดมากขึ้นเสียด้วย เรียกว่าช่วงนี้คือไฮไลท์เลยที่เป็นตัวเรียกแขกชั้นดีเพราะมันมาดเย้ายวนมาเต็มแบบว่า “อ้าว ผมไม่รู้ตัวเลยนะว่าเซ็กซี่” แต่จริงๆ แกจงใจทำเนียน จนเมื่อเข้าสู่ Base Notes กับกลิ่นอายอุ่นติดหวานเย้าที่ของแอมเบอร์และยาสูบจะชัดเจนเด่นขึ้นมาแบบนวลๆ เป็นกลิ่นที่รุมๆ ชวนนัวๆ ได้ลงตัว และมีกลิ่นของไม้ซีดาร์ที่ EDT เดิมกลิ่นแทยจะโดนกลืนไปเลยนั้นจะชัดเจนมากขึ้น ให้ความนิ่งเนี้ยบติดเท่ห์เสริมเข้ามา กับความเป็นยาสูบอบอุ่นได้อย่างดีเลย ทั้งหมดทั้งมวลจึงไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากนอกจากกลิ่นชัดขึ้น เข้มขึ้น ในพื้นฐานความเซ็กซี่ที่ยังมีอยู่ไม่หนีไปไหนนั่นเอง

เหมาะสำหรับ ผู้ชายทุกเพศวัยทำงานขึ้นไปเพราะกลิ่นยังคงความเนี้ยบอยู่ไม่หนีไปไหน แถมยังมีความอบอุ่นติดเซ็กซี่ที่ชัดเจนขึ้นเสียด้วย โดยสามารถใส่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวัน ทั้งงานทางการและทั่วๆ ไป เพียงแต่ถ้าทางการจัดๆ กลิ่นนี้จะเซ็กซี่ไป ให้ลงไปที่ EDT จะดีกว่า เพราะมันเซ็กซี่ก็จริงแต่เบากว่าในแง่ของการกระจายให้รับรู้กลิ่น ส่วนยามค่ำคืนจัดไป เพราะกลิ่นเริ่มชัดขึ้นและเย้าเซ็กซี่มากขึ้น อาจจะไม่ได้เน้นการกวาดกระจายแต่ใครเดินสวนได้กลิ่นจนอาจจะหันมองได้ไม่ยาก

ความทน กลิ่นทนราว 8 ชม. เป็นสำคัญ อาจจะมากกว่านี้ขึ้นอยู่กับจำนวนสเปรย์ และเคมีบางส่วน ซึ่งดีขึ้นกว่า EDT ตรงที่ไม่ได้มีความแกว่งของความทนที่เดี๋ยวหายต๋อมไปในเวลาไม่นานบ้างหรือทนจัดจนแอบงง ซึ่งอิงเคมีคนใส่กันเต็มๆ กว่ารุ่นนี้

การะกระจาย กลิ่นกระจายดีในตอนต้น ก่อนจะลดลงมากระจายปานกลางไปเรื่อยๆ แล้วเป็นออร่ารอบๆ ตัวในช่วงท้าย ซึ่งเรื่องการกระจายจะแพ้ EDT แค่ในช่วงต้น ที่เหลือคงตัวดีกว่าตรงที่มันชัดกว่า ไม่ได้เน้นคลุกวงในเท่า EDT

ทิ้งท้าย เอาเข้าจริงๆ แล้วกลิ่นไม่ต่างกัน แต่ความรู้สึกต่างกันตรงที่ความเข้มข้นนั่นเอง ซึ่งถ้าใครไม่ได้อยากเซ็กซี่แบบชัดเจนมากและใส่ได้ในทุกสถานการณ์ที่ไม่รบกวนใครมาก EDT เป็นตัวเลือกที่ดีจะเอาไปใช้ในชีวิตประจำวัน แต่ถ้าใครอยากมาเต็มแบบหนุ่มเมโทรและต้องการความชัดเจนมากขึ้นในเนื้อกลิ่นที่ปล่อยของกันมากขึ้น EDP เลยจะเข้าทางกว่าเยอะครับ

หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!!ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้แบบไม่ได้ขอกันก่อนดีๆ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น