Lalique - Fleur de Cristal
ถึงตัวที่ 5 กับ Review น้ำหอมแบรนด์เดียวไม่ไปเฉี่ยวกับแบรนด์อื่นต่อเนื่อง 7
ตัวของ Lalique แล้ว
ซึ่งคราวนี้จะมาสื่อสารถึงกลิ่นที่หอมอ่อนโยนกันบ้างกับตัวนี้เลย Fleur de Cristal
เปิด Top Notes มาด้วยความเป็นมะลิแบบชัดเจนแต่แฝงไปด้วยความเป็นโทนเครื่องเทศแบบสดชื่นที่แซมความหวานกับพริกไทยสีชมพู
ซึ่งต้องยอมใจให้เขาเลยว่า Lalique ลงลายเซ็นกลิ่นพริกไทยได้ลงตัวมากในการผสมผสานกับโทนดอกไม้สีขาวจนได้กลิ่นอายหอมมีเสน่ห์นวลๆ
หวานๆ แต่ติดหอมเผ็ดสดชื่น ซึ่งพอสัมผัสได้ว่ามีซิตรัสเบาๆ มาเบรกไม่ให้ออกทางเครื่องเทศเกินและดอกไม้เกินไป
เพียงไม่นานนางเอกก็ปรากฏตัวออกมานำเข้าสู่ Middle Notes กับการเป็นกลิ่นของดอกกระดิ่งหรือที่รู้จักกันในนามของ Lily-of-the-Valley ที่จะมาแบบหอมนวลใสและสว่างที่สำคัญได้กลิ่นดอกชะลูดเสริมเข้ามาทำให้ลักษณะของช่วงนี้เหมือนช่อดอกไม้สีขาวสว่างหอมนวลติดหวานโปร่งติดเขียวสดชื่น
โดยที่กลิ่นโทนมะลิยังตามมาอยู่ เรียกว่ารวมตัวความหอมดอกไม้สีขาวแบบโปร่งๆ
ไม่แน่นข้นจนออกโทนแป้งแต่ประการใด ที่สำคัญกับพริกไทยสีชมพูยังมีตัวช่วยอย่างดอกคาร์เนชั่นที่จะเสริมความเขียวติดเครื่องเทศปร่าๆ
ให้กลิ่นช่วงนี้ใกล้เคียงกลิ่นอายเหมือนช่อดอกไม้สีขาวในวันแต่งงานอย่างชัดเจนเลยทีเดียว
และไม่นานจะเริ่มมีโทนนุ่มๆ ดันเข้ามาเรื่อยๆ จนมาเต็มที่ใน Base Notes กับความเป็น Musk ที่มาให้ความนุ่มละมุน โดยจะมีโทนไม้หอมอ่อนคลอเคลียให้กลิ่นไม่ข้นขาวจนเกินไป
ให้ความนุ่มนวลสะอาดไปตลอด ภาพรวมของรุ่นนี้ให้ความเป็นผู้หญิงกับโทนสีขาวที่นวลตามาแบบกลิ่นอายของความสุขกับดอกไม้หอมหวานโปร่งอ่อนๆ
ตราตรึงราวกับผู้หญิงที่มีความอ่อนโยนและมีความสุข รวมถึงกลิ่นอายเข้าทางแบบการเป็นเจ้าสาวเลยทีเดียว
เหมาะสำหรับ -
ผู้หญิงทุกเพศ วัยเรียนมหาลัยขึ้นไปก็สามารถใส่ตัวนี้ได้สบายๆ
เพราะกลิ่นมาลักษณะบ่งบอกชัดเจนถึงความเป็นผู้หญิงที่อ่อนโยน
นุ่มนวลและน่าเข้าหา สามารถใส่ได้แทบทุกสถานการณ์ยามกลางวัน
ไม่ว่าจะทางการหรือทั่วๆ ไป ขอข้ามการใส่เพื่อออกกำลังกายไปเลย
เพราะไม่เหมาะด้วยประการทั้งปวง ที่สำคัญกลิ่นนี้เหมาะกับการใส่ในวันแต่งงานมากๆ
เพราะกลิ่นมันออกโทนหอมสว่างสีขาวมาเชียวแบบเจ้าสาวที่มีความสุขมากๆ
ส่วนยามค่ำคืนพอได้แบบอยู่กับแฟน ถ้าใส่ไปท่องราตรี สู้ชาวบ้านไม่ได้แน่ๆ
เพราะเบาไป
ความทน - ราว 6 ชม. อาจจะมากกว่านี้ก็อยู่ที่จำนวนสเปรย์เป็นหลัก
การกระจาย -
กลิ่นกระจายปานกลางในตอนต้น แล้วจะลดลงมาเป็นออร่ารอบๆ
ตัวแบบยาวไป ก่อนจะเป็น Skin Scent ในช่วงท้ายๆ เรียกว่ามาสาย Safe Scent ได้สบายๆ เลย
ทิ้งท้าย -
กลิ่นนี้นำเสนอที่ความอ่อนโยนของผู้หญิงที่ลงตัวมากเลยทีเดียว
ที่สำคัญกลิ่นไม่รบกวนใครงามแบบมีระดับและหรูหรากำลังดีแบบนี้ คนชอบโทน Safe Scent ถ้าได้ลองไม่น่าจะผิดหวังครับ
หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง
ถ้าผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ รบกวนติดต่อเพื่อขอเป็นลายลักษณ์อักษรและผมต้องอนุญาตก่อน
ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้แบบไม่ได้ขอกันก่อนดีๆ
ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ
Credit ภาพ
- http://www.punmiris.com/himg/o.7896.jpg
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น