Carolina Herrera - 212 VIP Men Wild Party
เมื่อต้นตระกูลอย่าง 212 VIP Men กวาดความนิยมกับกลิ่นอายเจ้าชู้ประตูดินสายปาร์ตี้ที่กรุ้มกริ่มพร้อมปล่อยของ
จนทำให้เริ่มมี Flanker ที่น่าสนใจตามมาเป็นลูกหลานกันอยู่หลายรุ่น
ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ 212 VIP Men Wild Party ที่มาสายขวดแก้วสีดำลวดลายเกล็ดสวยงาม ซึ่ง Carolina
Herrera จะนำเสนอในลักษณะไหน ผลออกมาคือ
กลิ่นยังคงมาสายความเจ้าชู้กรุ้มกริ่มอยู่
เพียงแต่อาจจะไม่ได้มาสายแนว Party แบบติดหรูกรุ้มกริ่มมากขนาดนั้นแล้ว แต่มาแบบที่เชิญชวนกันโต้งๆ เสียมากกว่า Party
นี้ต้องมีเฮหลังจบงาน เพราะกลิ่่นเปิดมาก็เอากลิ่นโทนเผ็ดโปร่งของพริกไทยเป็นตัวเด่นนำกันเลย
โดนมีความเป็น Citrus ผสมผสานดันให้กลิ่นมีความสดชื่น
แต่ไม่ได้สดชื่นมันเข้าไปอย่างที่คิด เพราะจะมีความเป็นโทนผลไม้แนวๆ
แอปเปิ้ล ผสมผสานกับกลิ่นออกทางเค็มๆ นัวๆ และมีกลิ่นออกทางเมทัลลิคติดเขียวนวลที่ดึงดูดชัดเจน
เลยทำให้กลิ่นเปิดตัวมาก็ออกสายนัวและเรียกแขกแบบเย้ายวนนวลนัวพุ่งกันตั้งแต่ทีแรกเลย
จนเมื่อเปลี่ยนเข้าสู่ช่วงกลางความเป็นโทนออกทางเขียวนวลติดเมทัลลิคอมหวานโปร่งๆ
จะชัดขึ้นมากจนจับได้ว่าเป็นกลิ่นของใบไวโอเล็ต ที่จะให้ความรู้สึกดึงดูดเย้านแบบเขียวอมหวานนัวๆ
เป็นตัวนำ เคล้าด้วยกลิ่นอายของพริกไทย และกลิ่่นที่ออกเค็มๆ หอมๆ หน่อยๆ
(ซึ่งพอไปดูจาก Notes ภายหลังเลยรู้ว่าเป็นกลิ่นของไข่ปลาคาเวียร์)
กลิ่นเลยจะมีเลเยอร์ความความเขียวนวลติดเผ็ดโปร่ง โดยที่มีความเค็มนัวหน่อยๆ
ซึ่งช่วงนี้เรียกว่าเป็นสายปล่อยของกันเต็มๆ เพราะกลิ่นอายจะเย้ายวนนวลๆ ให้ชวนนัวใกล้ๆ แล้วไม่นานจะเริื่มมีกลิ่นไม้หอมดันขึ้นมาเรื่อยๆ
จนนำเข้าสู่ช่วงท้ายที่กลิ่นอายของไวโอเล็ตจะยังอยู่แต่ให้ความเซ็กซี่ติดเขียวนวลดึงดูดแบบเบาๆ
มีกลิ่นอายเค็มๆ นิดๆ แต่ปูทางให้กลิ่นไม้หอมติดอบอุ่นเป็นตัวเด่น
ซึ่งกลิ่นจะยังคุมโทนความนวลติดนัวและมีความละมุนอุ่นๆ ของไม้หอมที่น่าซุกอยู่ลงตัว
ภาพรวมจึงเป็นน้ำหอมที่ชัดเจนเรื่องการเรียกแขก และเป็นสายพร้อมเปิดให้คลุกวงในตลอดตั้งแต่ต้นยันจบไม่น้อย
รวมถึงสื่อสารถึงคำว่า Wild Party โดยเอากลิ่นของใบไวโอเล็ต กับกลิ่นไม้หอมเป็นตัวบอกอารมณ์แบบ Wild
ได้น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
เหมาะสำหรับ -
ผู้ชายวัยขบเผาะทุกเพศ หรืิอเรียนมหาลัยขึ้นไปก็จัดได้สบายมาก
กลิ่นมันเป็นโทน Modern ชัดเจน
และเป็นสายปล่อยของ เช่นนั้น จึงอาจจะเข้ากับสถานการณ์ยามกลางวันได้อยู่บ้างแบบจำกัดจำนวนสเปรย์
ซึ่งสามารถใส่ได้ในยามทั่วๆ ไป แต่งานทางการพบปะผู้คนหรือผู้ใหญ่
ข้ามตัวนี้ไปจะดีกว่า กลิ่นมันพุ่งเชิญชวนไปนิด ยกเว้นแยากหาผู้ใหญ่เปย์นั่นอีกเรื่อง
ส่วนยามค่ำคืน เรียกว่าพร้อมรบกันเห็นๆ เลย จัดไป สู้ชาวบ้านได้สบายๆ และเผลอๆ
เรียกแขกมาคลุกวงในได้ไม่ยากด้วยนะ (อิงบุคลิกด้วยนะ
ไม่ใช่ซกม๊กแล้วคิดว่าใส่ตัวนี้จะดึงดูดคงไม่น่าจะใช่)
ความทน -
กลิ่นทนดีงาม และเกินคาดกับราวๆ 8 - 10 ชม. ซึ่งส่วนตัวเจอมากกว่านั้นถึง 12 ชม.
กลิ่นก็ยังติดผิวติดเสื้ออยู่ ถือว่าน่าพึงพอใจ
การกระจาย -
กลิิ่งพุ่งเลยทีเดียวในตอนแรก มาสายกระจายดีชัดเจน แล้วจึงลดลงมากระจายปานกลาง กับเป็นออร่ารอบๆ ตัวในช่วงท้าย พอพ้นซัก 8 ชม. ไปแล้วจะเริ่มเป็น Skin Scent
ทิ้งท้าย -
เรียกว่า เป็นการต่อยอดจากความเป็น 212 VIP
Men เดิมหรือรุ่นก่อนหน้าอย่าง Club Edition ได้ดี
ฉีกความเป็นกลิ่นอายเจ้าสำราญมาเป็นชวนนัวกันอย่างชัดเจนมากขึ้น
ใครชอบกลิ่นอายเซ็กซี่เย้ายวนเปิดตัวกันชัดเจน ถือว่าตัวนี้ตอบโจทย์ไม่น้อย
หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!!
ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้
ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว
ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ
ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ”
Photo Credit by https://i5.walmartimages.com/asr/5afc0f61-b55e-4746-833f-452272b76a70_1.347699763e9b74167a92d17907fde7b9.jpeg
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น