Review: Diptyque - Florabellio
Diptyque - Florabellio
เสืองลือเสียงเล่าอ้างว่า Diptyque ทำกลิ่นนี้ออกมาได้แปลกมาก
แปลกจนคิดว่า นี่ใช่แบรนด์นี้แน่ๆ เหรอ เมื่ออยากรู้ว่าเป็นยังไง
ก็ได้เวลาจัดมาลองให้สาแก่ใจในความแปลกกันหน่อยว่าจะออกมาในรูปแบบไหนกับรุ่นนี้ Florabellio
เปิดมาถึงกับอึ้งตามเสียงลือเสียงเล่าอ้างเลยว่ากลิ่นมันแปลกจริงๆ
มันเหมือนไม่ใช่ Diptyque เลย
แต่ในความแปลกที่ว่ายังสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายแนวอะโรม่าตามสไตล์ของแบรนด์ที่หลบๆ
ซ่อนอยู่ในกลิ่นได้อยู่ เพราะเริ่มต้นกับกลิ่นอายเค็มๆ
แบบทั้งเกลือและทะเลมาเต็มไปหมดเลย ราวกับอยู่ริมหาดที่กลิ่นเกลือและไอเค็มทะเลมาเต็ม
หรือเหมือนเอาสเปรย์กลิ่นทะเลเค็มๆ รัวๆ ฉีดกันได้เลยทีเดียว
ในเนื้อกลิ่นจะมีกลิ่นอายเขียวเค็มๆ แบบสาหร่ายหรือพืชพันธุ์ผักริมทะเลเจือความเค็มที่ฟุ้งกระจายอยู่ด้วยแบบกำลังดี
แต่ไม่มีอะไรเด่นไปเท่ากับกลิ่นทะเลเค็มๆ ที่มาเต็มเหนี่ยวไปเลยพี่เต็มที่ไปเลยเธอ
เพียงไม่นานจะเริ่มได้กลิ่นหอมหวานติดผลไม้จางๆ ที่จับได้ถึงกลิ่นออกทางแอปริคอตวูบเข้ามาและมีกลิ่นแอปเปิ้ลติดดอกไม้จางๆ
เข้ามาตัดกับความเค็มทะเลแบบงงๆ นำเข้าสู่ช่วงกลางที่เรียกว่าเป็นช่วงมะรุมมะตุ้มพอสมควร
เพราะในความเค็มของทะเลที่ชัดเจนจะมีกลิ่นอายดอกไม้ที่ติดผลไม้เข้ามาแย่งซีนทีละหน่อยเรื่อยๆ
ทำให้เดี๋ยวเค็มเดี๋ยวหวานใส เรียกว่ากลิ่นแปลกดี เพราะมันดูต่างโทนที่ควรจะเป็นไปเลย
แต่ดันมาเจอกันได้แบบที่ทำให้เรารู้สึกว่ามันแปลก แต่ในช่วงนี้กลิ่นจะเริ่มพัฒนาตัวเองไปในทิศทางที่เป็นโทนอากาศแบบริมทะเลมากขึ้นและมีกลิ่นดอกไม้กับผลไม้ใสๆ คลอไปตลอด จนเมื่อได้ความรู้สึกของกลิ่นอายโทนไม้หอมเจือกาแฟติดดาร์กกำลังดีเสริมเข้ามาก็จะทำให้เกิดความแปลกอีกรอบ
เพราะจะกลายเป็น 3 โทนที่แตกต่างมาเจอกัน
อารมณ์แบบกดเครื่องทำกาแฟริมหาดใต้ต้นแอปเปิ้ล เนื้อกลิ่นจะมีความขมให้จับได้ท่ามกลางความหวานใสและความเค็มพอสมควร
เป็นการปูทางเข้าสู่ช่วงท้ายของน้ำหอมที่กลิ่นอายทะเลเค็มๆ
จะเริ่มเป็นฝ่ายยอมถอย หมดฤทธิ์ลงไปกลายเป็นกลิ่นสนับสนุนจางๆ
ให้ยังรู้สึกว่ามีความเค็มบางๆ กำลังดีแบบผิวติดกลิ่นอายทะเล ให้กลิ่นอายแบบผ่อนคลายขมจางๆ
และมีไม้หอมแห้งๆ อ่อนๆ เป็นตัวกลางที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายสบายๆในเนื้อกลิ่น โดยที่กลิ่นอายของดอกแอปเปิ้ลที่หอมโปร่งหวานใส
สบายๆ ผ่อนคลายจะตามมาจากช่วงกลางเป็นตัว On
Top ให้ความรื่นรมย์ของกลิ่นได้ดีมาก
เรียกว่าเป็นช่วงที่กลิ่นอายที่แตกต่างกันเกินไปได้คุยกันลงตัวและแบ่งหน้าที่กันเป็นอย่างดีผสมผสานกันได้งามอย่างไม่น่าเชื่อ
ทำให้กลิ่นมีความรื่นรมย์หวานโปร่งฟรุ้งฟริ้งนิดๆ เคล้าเค็มทะเลบางๆ อ้อยอิ่ง
และอะโรม่ากาแฟเบาๆ จนกว่าจะหายไปจากผิวเลย
เหมาะสำหรับ - Unisex เลย กลิ่นเรียกว่ากลางๆ ที่ใช้ทุกเพศ
กลิ่นออกแนวจับเอาสภาพแวดล้อมมาสกัดกลิ่นแล้วเอาลงขวด
จึงเรียกว่าไม่ได้เจาะจงเพศชัดๆ ในการใช้แน่นอน กลิ่นเหมาะกับหลายๆ
สถานการณ์ยามกลางวัน โดยเฉพาะใส่แบบชิลล์ๆ ทั่วไป หรือกลางแจ้งก็ได้ จริงๆ
จะใส่ทำงานก็ได้อยู่ เพราะกลิ่นไม่ได้ปล่อยพลังมากนัก แต่อาจจะไม่ได้เหมาะกับการใส่ออกงานทางการจ๋าๆ
เดี๋ยวจะดูชิลล์ไป ตัดการใส่เพื่อออกกำลังกายไปได้เลย ส่วนยามค่ำคืนถ้าชิลล์ๆ
ก็จัดไป แต่ถ้าใส่เพื่อไปท่องราตรี เดี๋ยวอาจจะทำให้คนตกใจว่าไปตกทะเลมาหรือเปล่า
ตามด้วยโดนชาวบ้านที่จัดโทนหวานเย้าเพื่อปล่อยของกลบเอามิดแน่นอน
ความทน -
เรียกว่าลงตัวกับราวๆ 6 - 8 ชม.
อิงตามจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีดเป็นสำคัญ
การกระจาย -
กลิ่นกระจายดีในตอนต้น ยิ่งแรกฉีดนี่แบบว่าเค็มกันเต็มๆ และชัดเจนมาก
แล้วจะลดลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัว พอพ้นซัก 6 ชม. ไปแล้วจะเริ่มเป็น Skin Scent ที่กลิ่นจะดีขึ้นยามร่างกายทำความร้อนให้ความรู้สึกผ่อนคลายอะโรม่านั่นเอง
ทิ้งท้าย -
มันเรียกว่าไล่เรียงความแปลกสู่ดีงามได้น่าสนใจมาก ได้อารมณ์เหมือนดูภาพยนตร์ซักเรื่องที่เปิดมาก็เล่นเอางงในเนื้อเรื่องว่าตกลงจะยังไงกันแน่
ขมวดปมกันวุ่นวาย แต่พอมาถึงช่วงท้ายกลายเป็นคลายปมได้ดีและจบแบบ Happy Ending เชียว
หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!!
ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้
ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว
ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ
ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ”
Photo Credit by http://alu-magazine.com/wp-content/uploads/2015/05/alu-magazine-coup-de-coeur-florabellio-by-diptyque.png
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น