วันอาทิตย์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2564

Review: Creed - Acqua Fiorentina

Creed - Acqua Fiorentina

ยุคฟื้นฟูศิลปะวิทยาการหรือที่เรามักได้ยินว่ายุค Renaissance ถือเป็นอีกหนึ่งช่วงประวัติศาตร์ที่มีัอิทธิพลอย่างมากในแถบยุโรป โดยเฉพาะอิตาลี เพื่อเป็นการฟื้นฟูจากช่วงยุคมืดมาการต่อยอดการพัฒนาทางด้านภาษา วรรณกรรม วิทยาศาสตร์ นาฏกรรม และภูมิศาสตร์ โดยจะเกิดขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 13 - 16 ซึ่งจุดสูงสุดของยุค Renaissance ต้องยกให้ในช่งศตวรรษที่ 15 - 16 เลย เพราะเป็นดั่งยุคทองที่หรูหรา ฟุ่มเฟือย และจัดเต็มที่สุดจริงๆ

แน่นอนว่าการเกริ่นจะจบลงแค่นี้เพราะเราไม่ได้มาว่ากันในเรื่องประวัติศาสตร์ แต่จะหันมาที่น้ำหอมของ Creed ที่มีแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์กลิ่นจากช่วงยุคทองของสมัย Renaissance โดยเน้นไปที่เมืองศูนย์กลางของยุคอย่างฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี แต่ไม่ได้เจาะจงที่ความเป็นเขตเมือง แต่ซูมเข้าไปที่เขตชานเมืองของฟลอเรนซ์เป็นหลัก โดยสื่อสารถึงกลิ่นอายน้ำหอมผู้หญิงวัยใสสไตล์เรเนซองส์ เช่นนั้น จะใสแบบไหนเล่ากลิ่นกันแบบนี้เลยดีกว่ากับรุ่น Acqua Fiorentina

เปิดต้นกลิ่นมาความเป็นกลิ่นโทนผลไม้จะเด่นวูบออกมาเลย แต่ไม่ได้มาแบบผลไม้ใสๆ เพราะเนื้อกลิ่นจะมีเลเยอร์ที่น่าสนใจ 2 โทน คือ สายกลิ่นใสๆ คือ ลูกแพร์กับแอปเปิ้ลที่จะมีความหวานฉ่ำของลูกแพร์เคล้ากับกลิ่นสดชื่นติดแอปเปิ้ลเขียวแต่ไม่ได้ออกทางเปรี้ยว ตามดก้วยกลิ่นออกทางเปรี้ยวหอมแต่มีความนัวและดาร์กติดกรุยกรายเย้ายวนของลูกพลัมที่เป็นตัวรองพื้นให้อยู่ ซึ่งกลิ่นเปิดบอกอารมณ์กลิ่นที่ได้ความเป็นผู้หญิงใสๆ แต่มีความกรุยกรายเซ็กซี่เย้ายวนเนียนๆ แฝงเลยทีเดียว ง่ายๆ กลิ่นมีจริตจะก้านที่ครอบคลุมในความเป็นผู้หญิงสไตล์ยุคเรเนซองค์ที่จะมีความใสๆ ในความหรูหรากรุยกรายแต่แฝงด้วยความมีจริตทางเพศที่เนียนๆ ได้อย่างน่าสนใจมาก

การเปลี่ยนแปลงของกลิ่นจะค่อยเป็นค่อยไปพอสมควร และจะเป็นการสลับที่โดยการให้ลูกพลัมมาเป็นตัวยืนหนึ่งแทนที่ ซึ่งจะมีโทนออกทางหอมหวานอมเปรี้ยวเย้าชัดเจนมาก แต่ไม่ได้ไปสายดาร์กเลยทีเดียว เพราะเนื้อกลิ่นยังมีลูกแพร์กับแอปเปิ้ลที่ไม่ได้หนีไปไหนมาตัดทอน โดยเฉพาะลูกแพร์ที่ให้จะอารมณ์กลิ่นติดฉ่ำ Aqua เนียนๆ อยู่แล้ว แถมยังมีตัวสนับสนุนอย่างกลิ่นออกทางกึ่ง Citrus กึ่ง Spicy ปนสมุนไพรติดแห้งหน่อยๆ เข้ามาช่วยด้วยอย่างมะกรูดฝรั่ง (Bergamot) มาเป็นตัวสร้างอารมณ์กลิ่นที่ให้ความปร่าติดเปรี้ยวขมเนียนๆ ยังไม่พอ ช่วงกลางจะมีลูกผสมที่สร้างมิติหรูๆ กรุยกรายมาเพิ่มจากกุหลาบเนียนรวมเข้ามาด้วย ทำให้มิติกลิ่นจะเด่นที่ความเป็น Fruity Floral ชัดเจนมาก โดยจะเด่นที่ความเป็นพลัมหวานเย้าลึกได้อารมณ์แบบผลไม้สีม่วงแกมกลิ่นกุหลาบอวลมีจริต แต่กลิ่นก็ไม่หนักเกินเพราะมีโทนผลไม้ใสๆ จากช่วงต้นมาตัดและมีกลิ่นออกทางขมปนปร่ามะกรูด+คาร์เนชั่นที่ทำให้กลิ่นมีโทนออกทาง Retro หน่อยๆ ได้อย่างลงตัว ซึ่งช่วงกลางเรียกว่ายาวนานมากเลยทีเดียวกว่าจะจับต้องได้ว่ามีการเปลี่ยนโทนบางส่วนก็เลย 6 ชม. ไปแล้ว ซึ่งช่วงท้ายของกลิ่นโทนลูกพลัมเคล้ากุหลาบยังมีอยู่ แถมยังมีกลิ่นแอปเปิ้ลปลายกลิ่นอยู่นิดหน่อย แต่กลิ่นจะมีความเป็นไม้หอมเนียนแทรกขึ้นมามากขึ้นของไม้ซีดาร์แต่ก็ไม่ได้แย่งซีน ออกแนวเป็นตัวแทรก Subtle ที่สร้างมิติในเนื้อกลิ่นให้มีมิติเรียบหรูมากกว่า และแอบจับต้องถึงกลิ่นแนวๆ Signature ของ Creed ที่เป็นลักษณะแบบคล้าย Ambergris หรืออำพันปลาวาฬหน่อยๆ ด้วยซึ่งมาทำให้กลิ่นมีลักษณะที่หรูหราในความเป็นโทนผลไม้นัวแบบมีระดับ ไม่ได้โฉ่งฉ่าง มีลูกล่อความใสปนความเย้ายวนกำลังดี และมีจริตในเนื้อกลิ่นที่ให้อารมณ์ติด Retro เล็กๆ ได้อย่างน่าสนใจ และมีลายเซ็นแบบสไตล์ Creed ที่หรูหราปนเรียบหรูชัดเจน 

เหมาะสำหรับ - ผู้หญิงทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไป กลิ่นมีความใสก็จริง แต่มันมีลูกเย้ามีเสน่ห์ดึงดูดของพลัมที่ชัดพอสมควร เลยจะเข้าทางกับการใช้งานแบบที่เน้นกลิ่นที่ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่มีความเย้าซ่อนลึกกำลังดีและมีความหรูหรากรุยกรายให้จับต้องได้เป็นสำคัญ เลยจะเข้ากับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันไม่ว่าจะเป็นทางการ (แบบที่ไม่ได้ถึงกับรับแขกบ้านแขกเมือง) ใส่ทำงาน หรือทั่วๆ ไปเป็นสำคัญ แต่ให้ข้ามเรื่องการใส่เพื่อออกกำลังกายจะดีกว่า เนื้อกลิ่นไม่ได้ไปทางสาย Activity เรียกเหงื่อนัก ส่วนยามค่ำคืน ถ้าเพิ่มสเปรย์หน่อยก็ถือว่าเอาไปออกงานหรือสายโรแมนติคได้อยู่ แต่จะเน้นออกทางนิ่งๆ ติดหรูที่มีเสน่ห์มากกว่า 

ความทน - เกินคาด เพราะตอนแรกคิดว่าจะเรื่อยๆ ไม่น่าเกิน 4 - 6 ชม. แต่กลับกลายเป็น 8 ชม. กลิ่นยังอยู่ไม่หนีไปไหน และไปต่อได้อีกถึง 12 ชม. ในการใช้ส่วนตัว เช่นนั้นถ้าตีเป็นค่าเฉลี่ยของทุกสภาพผิว ก็ใช้ได้ที่ 6 - 8 ชม. ได้สบาย แบบมีเงื่อนไขคือ น้ำหอมต้องไม่ได้ใหม่เกินไป เพราะ Creed ต้องซื้อมาเก็บบ่มกันพอสมควรถึงจะได้ความงามทางกลิ่นที่ชัดเจน

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น แล้วค่อนข้างคงตัวกันยาวๆ ไปจนถึงราวๆ 2 ชม. ก่อนจะลดลงมาปานกลางกันยาวๆ ไปถึงราวๆ 6 ชม. จะผ่อนลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัวยาวๆ แล้วเป็น Skin Scent อีกที เมื่อผ่านราวๆ 8 - 10 ชม. ไปแล้ว 

สรุป - เนื้อกลิ่นทั้งหมดจะให้อารมณ์เหมือนเห็นสาวสวยในชุดสไตล์ Renaissance ออกทางสีม่วงพลัมแบบที่ไม่ได้ถึงกับกรุยกรายเว่อร์วัง แต่มีความเรียบหรูพลิ้วๆ ดูใสๆ แต่มี Sex Appeal ทางเพศสูง ซึ่งถ้าบอกว่ากลิ่นมันพีคและ Unique ไหม อาจจะไม่ได้ขนาดนั้น แต่ถ้าถามว่ากลิ่นมีดีและหรูหราสไตล์ Creed ไหม บอกเลยว่า “ใช่” ไม่กลิ่นไม่ธรรมดาในสไตล์ซ่อนเย้ามีจริตได้ดีเลยทีเดียว  

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://creedboutique.com/products/acqua-fiorentina?variant=32812868173921

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น