วันอังคารที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2564

Review: Histoires de Parfums - 1899 Hemingway

Histoires de Parfums - 1899 Hemingway

Ernest Hemingway ชื่อนี้ในสายวรรณกรรมต่างประเทศน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะเป็นนักเขียนรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรมในปี 1954 และเป็นเจ้าของผลงานชื่อดังอย่างเรื่อง The Old Man & the Sea และอื่นๆ โดยในทุกๆ ตัวอักษรที่บรรยายเรื่องราวในวรรณกรรมต่างๆ ที่เขาได้สร้างสรรค์ขึ้น จะมีความรู้สึกแบบผู้ชายอกสามศอกกระจายออกมาให้รู้สึกได้ในทุกอณูของการอ่าน แถมยังมีความซื่อตรงเขียนยังไงหมายความตามนั้น รวมถึงกระชับและเดินเรื่องไวชวนให้ติดตาม ซึ่งทุกอย่างมาจากการเอาประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมาตั้งแต่เป็นนักข่าว ทหาร นักผจญภัย อื่นๆ อีกมาก จนมาปิดท้ายที่การเป็นนักเขียนที่ทุกอย่างนำลงมาแต่งแต้มสีสันในวรรณกรรมได้อย่างเหนือชั้นมาตลอด

และทุกอย่างที่เป็นผู้ชายคนนี้นั้นมีความน่าสนใจอย่างมาก แบรนด์ Histoires de Parfum จึงได้ Tribute ในการเป็น Hemingway ผ่านกลิ่นอายที่งดงามแบบผู้ชายแบบอกสามศอก มากประสบการณ์ชีวิต และมีเสน่ห์ที่อบอุ่น โดยให้ชื่อรุ่นเป็นปีที่เกิดของนักเขียนคนนี้ คือ ปี 1899 เช่นนั้นการสื่อสารเพื่อยกย่องผ่านกลิ่นในขวดนี้จะเป็นอย่างไร ก็ว่ากันได้ตามนี้เลย

อบเชย คือ ศูนย์กลางของกลิ่นอย่างแท้จริง และเป็นอบเชยที่มีเสน่ห์ในอีกรูปแบบ ที่เราจะไม่ได้เจอในน้ำหอมสายเจ้าเสน่ห์ที่มักใส่ความร้อนแรงฮอตฉ่า แต่จะเป็นอบเชยที่ให้ความอบอุ่นติดหวานที่ได้ทั้งความเข้มแข็งและมีความแมนแบบสุภาพบุรุษ ซึ่งจะมีลูกผสมของการเป็นวานิลลาที่สร้างความเป็นผู้ชายอบอุ่นเข้ามาอีกด้วย โดยในช่วงต้นของน้ำหอมอบเชยจะเป็นพื้นกลิ่นเนียนๆ ก่อน ให้โทนสดชื่นติดปร่าสมุนไพรเนียนๆ เป็นตัวนำอย่างจูนิเปอร์ที่จะให้โทนติดเขียวปร่าอวลแบบกำลังดี อารมณ์กลิ่นมีลูกโทนคล้ายเหล้า Gin อยู่นิดๆ แต่จะมีกลิ่นโทนพริกไทยมาเกลาให้มีความนวลสะอาดติดปลายกลิ่นเป็นเปรี้ยวขมซ่าๆ หน่อยๆ ของมะกรูดฝรั่ง (Bergamot) ซึ่งทุกอย่างจะให้อารมณ์โทนกลิ่นแบบสาย Aromatic Fresh Spicy ที่ให้ความสดชื่นแบบเผ็ดปร่าอวลเจือเขียวที่มาเกลาให้กลิ่นอบเชยที่ควรจะหวานอุ่นแหลมกลายเป็นกลิ่นแบบเปลือกอบเชยหวานอ่อนๆ ติดไม้หอมเจือปร่ารื่นจมูกกว่าที่คิด เรียกว่าเปิดมาก็สามารถสร้างความประทับใจได้เลย และเป็นกลิ่นที่บอกชัดเจนจริงๆ ว่า For Men กันตั้งแต่สโตรกกลิ่นแรกเลยทีเดียว

การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นหลังจากช่วงต้นปล่อยของซักครู่ ก็เข้าสู่ช่วงกลางที่เนื้อกลิ่นจะเริ่มมีโทนติดดาร์กหน่อย และมีความทึบแห้งเข้ามาร่วมด้วยของโทนแป้งติดอับเสน่ห์ของไอริส ทำให้กลิ่นมีความอวลขึ้นมาอีกสเต็ป แต่ก็ไม่ได้หนักข้นเกินไป ช่วงนี้ความเป็นอบเชยจะชัดเจนมากขึ้นแบบที่ยังมีการตัดทอนกลิ่นของจูนิเปอร์และพริกไทย ที่ยังทำให้กลิ่นมีความปร่าอะโรม่าอยู่คุมโทนการเป็นเปลือกอบเชยหอมอบอุ่นเจือกลิ่นเปลือกไม้ กลิ่นมีความเข้มดาร์กเข้ามาร่วมด้วยเพราะมีโทนไม้หอมแห้งๆ เข้ามาเสริมอย่างมีนัยยะสำคัญ แต่ก็ไม่ได้ไปแบบดาร์กเกินไป เพราะมีกลิ่นออกทางหวานอมเปรี้ยวสะอาดๆ คลออยู่ตลอด ทำให้อารมณ์ในการดมกลิ่นแอบมีความสนุกพอสมควร เพราะในทุกๆ พื้นฐานกลิ่นที่เป็นอบเชย จะจับได้ถึงกลิ่นออกทางแป้งหอมติดอบเชยแบบหวานน้อยเจือกลิ่นเปลือกไม้แห้งๆ ติดดาร์กหน่อยๆ บางวูบจะจับได้กลิ่นอบเชยติดหวานอมเปรี้ยวนวลสะอาด บางวูบจับได้ถึงกลิ่นเผ็ดนวลพริกไทยที่มีความปร่าเขียวของจูนิเปอร์ที่ติดหวานปลายอบเชย แต่พอผ่านไปซักระยะจะเริ่มจับต้องได้ถึงกลิ่นวานิลลาที่เสริมเข้ามาอย่างถูกที่ถูกเวลา สร้างความอบอุ่นนวลๆ เข้ามาร่วมด้วยได้อย่างดีมาก ซึ่งกลิ่นต่างๆ ในช่วงต้นอย่างจูนิเปอร์และพริกไทยจะลดทอนลงไปตามลำดับ เปิดทางในการเข้าสู่ช่วงท้ายที่เป็นโทนอบอุ่นแบบกำลังดีกลิ่นจะมีความแมนแอบอวลอุ่นมีเสน่ห์ชัดเจนมาก ซึ่งเนื้อกลิ่นจะเป็นโทนไม้หอมเจือวานิลลาที่มีอบเชยเป็นองค์ประกอบเนียนร่วมอยู่ด้วยหมดและให้อารมณ์สีส้มอมเหลืองอาทิตย์อัสดงค่อนข้างชัดเจน ที่สำคัญมีความหวานที่ชัดขึ้นกว่าช่วงกลางทำให้อารมณ์กลิ่นจะเป็นอบอุ่นติดหวานที่มีเสน่ห์และโรแมนติคมาเลย ซึ่งพื้นฐานกลิ่นจะยังคงมีความ For Men ให้จับต้องได้ตลอดแบบคุมโทนได้ดีตั้งแต่ต้นยันปลาย เข้าทางการเป็นกลิ่นอายสุภาพบุรุษอกสามศอกที่มีทั้งความอบอุ่น มีเสน่ห์ มีความหวานโรแมนติค และมีความตรงไปตรงมาแบบผู้ชายอกสามศอกแบบที่ไม่ต้องพยายาม ซึ่งก็ไม่ต่างจากงานเขียนของ Hemingway แต่อย่างใด

เหมาะสำหรับ - แม้กลิ่นจะ Tribute ในลักษณะการเป็นผู้ชาย ที่ยังไงผู้ชายใส่ก็ลงตัว และมีความ For Men สูง แต่พื้นฐานกลิ่นมีความ Unisex อยู่ไม่น้อย แบบที่ผู้หญิงก็ใส่ได้และมีเสน่ห์กับกลิ่นนี้ได้ไม่ยากเสียด้วยซ้ำ เพราะเนื้อกลิ่นมีโทนหวานอยู่พอสมควร ซึ่งกลิ่นนี้สามารถใช้งานได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันแบบที่จำนวนสเปรย์เหมาะสม เพราะถ้ามากไปอาจจะอึนๆ เอาได้ เพราะอากาศเมืองสารขัณฑ์เรานั้นไม่ใช่เมืองหนาว ซึ่งจัดไปได้ไม่ว่าจะทางการหรือทั่วๆ ไป แต่ให้ตัดการใส่เพื่อการออกกำลังกายจะดีกว่า จุกกันพอดีเวลากลิ่นตีขึ้นหนักๆ ส่วนยามค่ำคืนบอกเลยว่าจัดไป กลิ่นดีงามเหมาะกับทั้งการใส่ออกงาน โรแมนติค และท่องราตรีแบบหรูๆ ที่ไม่ได้เมาหัวราน้ำแต่เน้นความเท่ห์อบอุ่น จะลงตัวมากจริงๆ  

ความทน - มากกกก เรียกว่า 15 ชม. กลิ่นยังอยู่ แบบว่าสตันไปเลย ซึ่งถ้าตีเป็นค่าเฉลี่ยสภาพผิวแบบกลางๆ ก็ 8 ชม. ได้สบายมาก 

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น แล้วเสถียรกันไปยาวๆ ถึงช่วงกลางประมาณ 4 ชม. เลยทีเดียว แล้วจะลดลงมาปานกลางกันยาวๆ ไปถึงราวๆ 8 ชม. จึงลดลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัว บอกเลยเรื่องนี้ขอยกนิ้วให้ เจ๋งไม่น้อยเลยล่ะ

สรุป - ภาพรวมของกลิ่นเหมือนเราได้เจอผู้ชายที่เป็นสไตล์ Daddy ที่ลุคอบอุ่น มีเสน่ห์ แต่ในความอบอุ่นนั้น เราจะสัมผัสได้ว่าเขามีประสบการณ์ชีวิตมาเป็นอย่างมาก และมีเรื่องราวให้เรารับรู้และสนุกในการนั่งคุยและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกัน ซึ่งมันอาจจะไม่ได้ถึงกับหวือหวาแบบออกไปสร้างเสริมประสบการณ์ชีวิตสายลุยด้วยตนเอง แต่มันมีเสน่ห์ที่อบอวลให้เราได้ซึมลึกและเพลิดเพลินไปกับกลิ่นได้อย่างน่าประหลาดแบบที่ไม่ต้องพยายามแต่อย่างใด ปิดท้ายจบได้ไม่ยากเลยว่า “กลิ่นนี้ยอดเยี่ยมจริงๆ”

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://fragrantmoments.net/2013/11/18/1899-by-histoires-de-parfum/

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น