วันพฤหัสบดีที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2564

Review: Strangers Parfumerie - Burning Ben

Strangers Parfumerie - Burning Ben

Barn Burning หรือ “มือเพลิง” เป็นหนึ่งในเรื่องสั้นของฮารูกิ มูราคามิ ที่สร้างความเยือกเย็น ความดาร์ก และความไม่น่าไว้วางใจอะไรได้ง่ายในตัวอักษรที่รวมอยู่ในหนังสือรวมเรื่องสั้น “เส้นแสงที่สูญหาย เราร้องไห้อย่างเงียบงัน - Firefly, Barn Burning and other stories” กลายเป็นหนึ่งในการสร้างสรรค์ภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมของผู้กำกับชาวเกาหลีอย่าง Lee Chang-dong กับเรื่อง Burning ที่ทำให้เรื่องนี้เข้าชิงและได้รับรางวัลภาพยนตร์ทางด้านนักวิจารณ์และสายนอกกระแสมามากมาย ซึ่งแน่นอนว่าดึงเอาความดาร์ก ความลึก ความยากแท้หยั่งถึง ความอัดอั้น และความเย้ยหยันเสียดสีสังคมออกมาได้อย่างคมคาย

และหนึ่งในตัวละครสำคัญของเรื่อง Burning อย่าง Ben (ผู้แสดง - Steven Yeun) ที่เป็นตัวขับเคลื่อนเรื่องราวทำให้เกิดเรื่องราวต่างๆ ขึ้นมาแบบที่ไม่น่าไว้วางใจ ชวนสงสัย เย้ยหยัน ยากแท้หยั่งถึง และลึกลับจนเราเดาใจไม่ถูก และทำให้เราอึ้งสตันไปจนถึงนาทีสุดท้ายของเรื่องราวที่ทิ้งค้างเป็นตะกอนในใจคนดูให้ตีความตามความเข้าใจของตน เรียกว่าเป็นตัวละครที่ทรงพลังมากในการสร้างความรู้สึกให้กับผู้ชมอย่างเต็มที่ และคาแรคเตอร์นี้ก็มาเป็นหนึ่งใน Collection - LTBGIQ ที่ถอดเอาความเป็น Ben ลงมาเป็นกลิ่นสู่ขวดกับการสร้างสรรค์ของแบรนด์ Strangers Parfumerie ซึ่งจะเล่าคาแรคเตอร์กลิ่นออกมาเป็นอย่างไร ก็ว่ากันตามนี้เลย

แค่กลิ่นเปิดก็สื่อสารออกมาชัดเจนถึงกลิ่นอายที่มีความซับซ้อนมากเลยทีเดียว เพราะผู้เล่นหลักในช่วงนี้จะมีโทนกลิ่นที่ค่อนข้างหลากหลายเลย คือ กาแฟ ยาสูบ ฟรุตตี้ วิสกี้ โทน Smoky และหนัง แต่จะมีเลเยอร์ความเด่นที่ไล่เรียงความเด่นกันเป็นมิติ โดยจะเริ่มความชัดเจนที่โทนออกทางหอมอะโรม่าของกาแฟดำที่สร้างความรู้สึกรื่นรมย์กันก่อนเลย กลิ่นจะวูบขึ้นมาแบบอารมณ์ Shot กาแฟดำที่ชัดเจนมาก แล้วจะตามด้วยกลิ่นยาสูบหอมหวานโปร่งเจือกลิ่นหญ้าแห้งหน่อยๆ กึ่งควันอารมณ์แบบสูบบุหรี่หน่อยๆ แกมกลิ่นออกทางเหล้าคอนยัคที่มีเชอร์รี่แกล้มอยู่ประปราย เสริมด้วยกลิ่นหนังที่ให้อารมณ์แบบนั่งโซฟาหนังได้ความรู้สึกแบบ Nice แกมเย้ายวนมีเสน่ห์ดึงดูดกันช่วง 3-5 นาทีแรก เรียกว่าเป็น 1st Impression เลยก็ว่าได้เพราะกลิ่นมีความเป็นสไตล์เย้ายวนดึงดูดจริงๆ แต่สิ่งที่ค่อยๆ แทรกตัวขึ้นมาคือกลิ่นที่มีความเป็นโทน Smoky ที่ค่อยๆ มาเรื่อยๆ และเริ่มจับต้องได้ชัดถึงกลิ่นออกทางควันไอทีละหน่อยๆ จนเริ่มเดาใจไม่ถูกว่ากลิ่นไม่ได้ Nice อย่างที่คิด เพราะอารมณ์ความ Nice เป็นฉากหน้าที่ซ่อนความคุกรุ่นภายในและทยอยเปิดไพ่เปิดออกมาเรื่อยๆ เลย

เมื่อเข้าสู่การเปลี่ยนเข้าสู่ช่วงกลางที่คราวนี้จะกลายเป็นกลิ่นโทน Smoky ปนเขม่า และมีความเป็นกลิ่นไหม้ที่ชัดมากที่แผ่ออกมาเต็มตัวแล้ว เรียกว่าช่วงนี้ความ Smoky จัดเต็มจริงๆ ได้ความดาร์ก ความไหม้ ความเขม่าเผาที่มาเต็ม แต่ไม่ได้หนักหน่วง อารมณ์ได้กลิ่นเผาไหม้ที่ลอยมาให้รับรู้ได้ชัดๆ แต่ไม่ขัดเคืองจมูกจนทำให้เรารู้สึกสำลักควันแบบของจริงขนาดนั้น ซึ่งมิติในเนื้อกลิ่นจะจับต้องได้ถึงกลิ่น Burn เผาชัดเจน มีความอุ่นร้อนเนียนๆ ในเนื้อกลิ่นอารมณ์แบบกลิ่นโทนสาย Amber ต่างๆ เคล้ากับ กลิ่นเขม่า Birch Tar ที่ให้ความรู้สึกแบบไม้ไหม้เกรียมๆ กลิ่นยางไหม้ กลิ่นหนังเข้มๆ ติดโทนไหม้ กลิ่นไม้เก่าๆ ไหม้ กลิ่นดาร์กชอคโกแลตกลั้วกลิ่นกาแฟไหม้ที่เข้มมากจนรู้สึกได้ถึงความขมดาร์กจัดๆ แฝง และมีกลิ่นที่เป็นโทนออกทาง Incense ควันไอที่เป็นตัวปรับโทนให้มีความสมูธมากขึ้นแต่ก็ไม่ได้ทำให้กลิ่นเมนหลักคือโทนเผาไหม้โดนกลบ ซึ่งนอกจากโทนไหม้ควันเผาจะชัดเจนมากแล้ว ยังมีตัวเสริมที่ดีมากอย่างโทนเครื่องเทศที่สร้างความปร่ามีมิติและมีความเผ็ดลึกปนหวานขมในเนื้อกลิ่นเหมือนกลิ่นเครื่องเทศพวกนี้โดนเผา ซึ่งน่าจะมีหญ้าฝรั่นอยู่ด้วยเพราะกลิ่นมีความหวานแกมขมหอมลึกให้รู้สึกได้เนียนๆ ไปกับกลิ่นไหม้ แถมมีกลิ่นหญ้าแห้งที่ฟุ้งออกมาอารมณ์แบบหญ้าแห้งโดยไอร้อนก่อนจะโดนเผาก็มีร่วมอยู่ด้วย เรียกว่าเป็น Plot Twist หักมุมจากความ Nice และดูมีเสน่ห์ของกลิ่นในตอนแรกกันอย่างชัดเจนมาก เนื้อกลิ่นมีความดาร์ก ร้าย นิ่ง ลึก และมืดมิดที่ระอุออกมาชัดแบบที่มันเหมือนระเบิดเอากลิ่นช่วงต้นออกไปเกือบหมด เหมือนเปลี่ยนคนไปเลยจนเราเดาไม่ได้จริงๆ มารู้ก็เมื่อกลิ่นมันระอุอารมณ์และโทนไหม้ทั้งหมดออกมานี่แหละ แต่แปลกมาก เพราะกลิ่นมีความน่าค้นหาให้เราเสาะต่อว่าตกลงมันเป็นยังไงกันแน่อยู่ตลอด

เมื่อโทนไหม้ต่างๆ เริ่มลดทอนลงมาให้ความกรุ่นหน่อยๆ แบบเป็นกลิ่นควันที่มีความเบาขึ้นแบบเหมือนเผาอะไรจนเรียบร้อยแล้วหรือไอร้อนจางๆ จากการเผาพร้อมควันอ้อยอิ่งลอยมา และกลิ่นเริ่มมีความหวานลึกๆ เนียนๆ ปนความดารก์เข้มติดเขม่าหน่อยๆ ก็จะเริ่มเป็นการเข้าช่วงท้ายเต็มตัว ซึ่งจะจับมิติกลิ่นได้ชัดถึงกลิ่นแนวไม้จันทน์หอมที่มีความเป็นโทนหนังติดสาบ Animalic ไหม้ (ซึ่งน่าจะเป็นกลิ่นจากต่อมเพศตัวบีเวอร์ - Castoreum) ที่สร้างมิติกึ่งดาร์กกึ่งนุ่มนวล มีความคุกรุ่นกำลังดี และมีกลิ่นหวานลึกๆ กึ่งน้ำผึ้งหน่อยๆ ปนหญ้าฝรั่นที่ให้มิติความหวานปนขมลึกเสริมอีก ให้มิติอารมณ์กลิ่นที่กึ่งหวานลึกปิติหน่อยๆ ผสมผสานอยู่ในความดาร์กติดระอุๆ อารมณ์กลิ่นให้ภาพเหมือนเห็นคนยิ้มหวานปิติในความมืดท่ามกลางกลิ่น Smoky ติดควันอ้อยอิ่ง อารมณ์กลิ่นแบบที่ไม่น่าไว้วางใจ มีความร้าย นิ่ง อวล ลึก ดาร์ก เย้า หวาน แบบที่เราก็เดาทางยากว่าคนๆ นั้นต้องการอะไร มาดีหรือร้าย ปิดท้ายการเป็น Burning Ben ได้ครบถ้วนและตรงตามคาแรคเตอร์ชัดเจน

เหมาะสำหรับ - Unisex ชัดเจน สร้างคาแรคเตอร์คนใช้ให้มีออร่าความดาร์กอย่างมีมิติได้ดีมาก และไม่ง่ายที่จะใช้กลิ่นนี้ อย่างน้อยผ่านน้ำหอมสาย Smoky มาก่อนพอสมควรจะเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น ซึ่งกลิ่นเข้ากับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันแบบจำนวนสเปรย์เหมาะสม เพราะถ้ามากไปอาจจะมีการโดนทักได้ว่า เหมือนเราไปเผาอะไรมา (ซึ่งก็ตรงตามคาแรคเตอร์กลิ่นว่า “มือเพลิง” เลยนะ) ซึ่งอาจจะไม่เข้ากับยามทางการกับพวกออกกำลังกายเท่าไหร่ แต่ถ้าทั่วๆ ไปแบบสร้างอารมณ์กลิ่นแบบสายดาร์กน่าค้นหาและลึกลับอันนี้เข้าทีมากๆ ส่วนยามค่ำคืน ถ้าอยากได้ออรา Last Boss แบบมีความเฉพาะตัว ก็จัดไป ใส่ได้หมดทั้งออกงานและท่องราตรีได้เลย Unique ชัดเจน

ความทน - มากมาย เรียกว่าประทับใจกันเลยกับ 15 ชม. กลิ่นยังคงอยู่ให้จับต้องได้ อาบน้ำแล้วกลิ่นก็ยังติดผิวอยู่ เรียกว่าเรื่องนี้หายห่วง

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น แล้วจะลดลงมาปานกลางไปเรื่อยๆ อารมณ์ ควัน เผา แล้วจะลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัวแบบกรุ่นๆ เดาทางไม่ถูกในช่วงท้าย แล้วลดลงไปเรื่อยๆ จนถึงติดผิวหลังจากผ่านราวๆ 12 - 13 ชม. ไปแล้ว

สรุป - ไม่ได้สปอย แต่กลิ่นนี่การไล่เรียงมิติความเป็น Ben ได้ครบถ้วนมากๆ เพราะเริ่มจากที่เป็นผู้ชาย Nice รวยและมีเสน่ห์ แต่ไม่รู้ที่มาที่ไปว่าเขาเป็นใครมาจากไหน เชื่อมโทนที่เปิดตัวมาเรื่อยๆ ให้เห็นความดาร์ก เดาทางไม่ถูก ก่อนจะเป็นความเผาไหม้ที่ชัดเจนแบบหักมุม ปิดท้ายด้วยรอยยิ้มในความมืดท่ามกลางควันไอแบบที่เราสัมผัสได้ว่าคนๆ นี้ไม่น่าไว้วางใจ มีอะไรที่คาดเดาไม่ได้ และเป็นคาแรคเตอร์ที่ทำให้เราจดจำในความยากแท้หยั่งถึงดาร์กไหลลึกได้แบบยอดเยี่ยมมากจริงๆ ยอม 

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.facebook.com/strangersparfumerie

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น