วันศุกร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2564

Review: Parfum Satori - Sakura

Parfum Satori - Sakura

ฤดูกาลที่มีความงามมากเป็นลำดับต้นๆ และควรค่าแก่การไปเยือนมากๆ ของญี่ปุ่น ก็ต้องยกให้ฤดูใบไม้ผลิที่จะมีดอกไม้สีชมพูอ่อนเจือสีพีชหรือจะเรียกว่าสีโอลด์โรสอ่อนก็ได้ อย่าง “ซากุระ” เบ่งบานสะพรั่งให้ความงามที่รื่นรมย์มาเสมอ ซึ่งในการชมซากุระเราจะจับความรู้สึกได้ถึงบรรยากาศรอบๆ ตัวที่เป็นสีชมพูสว่างนวลตารอบทิศไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืน ที่ให้ความรู้สึกหวานอ่อนโยนและงดงามสร้างความประทับใจได้แบบยากที่จะลืม

แต่ในความเป็นจริง “ซากุระ” หรือ Cherry Blossom เองแทบจับต้องกลิ่นไม่ได้ แต่อาจจะมีกลิ่นจืดๆ เจือหวานเบาบางสุดๆ ให้พอรับรู้บ้างเล็กน้อย การที่จะนำเอาความเป็นบรรยากาศมาถ่ายทอดสู่การเป็นน้ำหอมกลิ่นซากุระเลยมีความท้าทายไม่น้อยว่าจะสื่อสารออกมาอย่างไรให้รู้สึกถึงสถานการณ์นั้นๆ แบบยามชมซากุระจริงๆ ซึ่งหลายๆ แบรนด์ต่างก็พยายามสื่อสารมากันพอสมควรแล้ว พอได้ทดลองอารมณ์กลิ่นก็ถึงบ้าง ไม่ถึงบ้าง ต่างความรู้สึกที่ไม่ใช่ญี่ปุ่นที่แท้ทรูก็พอสมควร เช่นนั้น เมื่อเห็นแบรนด์ Niche คุณภาพสูงของญี่ปุ่นอย่าง Parfum Satori ที่จับเอาความงดงามของซากุระมาถ่ายทอด ก็ต้องมาลิ้มลองดอมดมกันหน่อยว่าจะสื่อสารออกมาอย่างไร และก็ได้เรื่องออกมาเช่นนี้

Sakura เปิดตัวมากับกลิ่นอายเชอร์รี่เบาๆ ที่มีความหวานเจือเปรี้ยวที่มาแบบอ่อนๆ ปนกลิ่นปร่าซ่าบางๆ เจือเขียวหน่อยๆ ที่ได้อารมณ์กลิ่นอายคล้ายมินต์ที่ติดเผ็ดแต่ก็ไม่ได้ไปแน่นจัดจ้านสไตล์แบบเพพเพอร์มินต์เต็มที่ขนาดนั้น ถ้าเดาไม่ผิดก็น่าจะเป็นใบชิโสะ ซึ่งในเนื้อกลิ่นจะมีกลิ่นออกทางหวานเขียวบางๆ คล้ายชาเขียวเบาๆ มาสร้างอะโรม่าตัดทอน เลยจะได้อารมณ์กลิ่นอายบรรยากาศและอากาศดีๆ ที่มีเลเยอร์กลิ่นผสมผสานกันระหว่างกลิ่นหวานผลไม้เจือเขียวอมหวานปร่าหน่อยๆ ที่มีความหวานให้จับต้องได้แบบโปร่งๆ ได้อย่างน่าสนใจและมีความสดชื่นแบบลงตัวในลักษณะเย็นๆ ในเนื้อกลิ่น ถือว่าเปิดต้นกลิ่นมาก็ได้ความรื่นรมย์ได้ดีมาก

เพียงไม่นานราวๆ 5 นาทีได้ ก็จะเริ่มเปลี่ยนเข้าสู่ช่วงกลางที่ให้ความเป็นโทนดอกไม้โปร่งๆ หวานแบบเบาๆ ให้ความกึ่งนวลค่อนไปทางกลิ่นอายติดโทนแป้ง ซึ่งยังมีความรู้สึกสดชื่นที่ตามมาจากช่วงต้นจากโทนกลิ่นเชอร์รี่ที่คุมโทนหวานโปร่งอมเปรี้ยวเบาๆ ได้ดีอยู่เช่นเคย และจะมีโทนออกทางดอกไม้เย็นๆ สดชื่นเข้ามาให้รู้สึกได้ด้วย แถมยังมีกลิ่นอายกุหลาบหวานอ่อนๆ ที่ให้ความโรแมนติตแหมกลิ่นออกทางคล้ายมะลิใสๆ ที่น่าจะใช่ดอกกระดิ่ง (lily-of-the-valley) แน่ๆ มาผสมผสานกันสร้างโทนสีในกลิ่นเป็นสีชมพูอ่อนที่ชัดเจนขึ้น แต่ก็ไม่ได้เข้มข้นไป เพราะมีตัวเชื่อมที่ดีอย่างกานพลูที่ก็มาแบบเบาๆ ให้ความปร่าอ่อนๆ เชื่อมกับกลิ่นสดชื่นในตอนต้นมาผสมผสานและตัดทอนกันอย่างสมดุลย์และคุมโทนได้ดีในความเป็นสีชมพูอ่อน ที่ให้กลิ่นหวานนวลกึ่งสดชื่นระเรื่อๆ อย่างมีระดับและเรียบหรูนิ่งๆ ได้ดีมาก และที่สำคัญช่วงนี้เป็นกลิ่นที่สร้างบรรยากาศโดนแท้ เพราะได้อารมณ์สภาพแวดล้อมที่มีสีชมพูโอลด์โรสอ่อนๆ อารมณ์แบบสีดอกซากุระที่ได้ความพาสเทลตามธรรมชาติได้อย่างงดงามและมีกลิ่นอายบรรยากาศสดชื่นเย็นๆ เป็นมิติกลิ่นเสริมที่ลงตัวมากอีกด้วย

ซึ่งเมื่อผ่านไปซักระยะก็จะเป็นการเข้าสู่ช่วงท้ายของน้ำหอมที่จะเป็นกลิ่นโทนสะอาดๆ นวลๆ นิ่งๆ เนื้อกลิ่นมี Musk รองพื้นที่ให้ความนวลสะอาดสอดรับกับโทนแป้งหอมหวานสีชมพูเบาๆ ที่ตามมาจากช่วงกลางพอดี แต่จะเสริมด้วยโทนออกทางออกทาง Smoky เบาๆ อารมณ์แบบธูปไม้หอมหน่อยๆ ผสมผสานกับกลิ่นไม้หอมที่มาแบบนิ่งๆ ขรึมๆ แต่ไม่ได้โดดเด่นมากนัก แต่จะเป็นอีกมิติกลิ่นมากกว่า ซึ่งถ้าตีความเป็นภาพก็จะได้อารมณ์แบบนั่งบนชานไม้หรือเก้าอี้ไม้ที่จะมีกลิ่นไม้อ่อนๆ ขรึมๆ ให้รู้สึกได้เบาๆ เคล้ากลิ่นหอมนวลสะอาดๆ ติดปลายกลิ่นบรรยากาศชมซากุระที่มีสีชมพูอ่อนๆ อยู่เบาๆ ซึ่งใช่เลยนี่แหละอารมณ์กลิ่นสภาพบรรยากาศนั่งชมซากุระที่อากาศถ่ายเทสบายๆ ให้ทั้งความรื่นรมย์ เรียบง่ายและลุ่มลึกแบบญี่ปุ่นชัดเจน

เหมาะสำหรับ - ผู้หญิงทุกเพศวัยเรียนประถมขึ้นไปก็ใช้งานน้ำหอมตัวนี้ได้แล้ว เพราะเนื้อกลิ่นคือสภาพแวดล้อมที่สร้างบรรยากาศกลิ่นอายสีชมพูอ่อนค่อนไปทางสีขาวนวลสว่าง ซึ่งเข้ากับสาวๆ เป็นทุนเดิม จึงใช้ได้หมดทุกสถานการณ์ยามกลางวันไม่ว่าจะเป็นทางการหรือทั่วๆ ไป แถมเป็นกลิ่นที่ไม่ได้รบกวนใครคุมโทนกลิ่นอายสุภาพแบบสไตล์ญี่ปุ่นที่มีระดับในความเรียบง่าย ส่วนยามค่ำคืนเน้นใส่แบบวันอากาศร้อนๆ สร้างความรื่นรมย์และอะโรม่าแกมกลิ่นอายโรแมนติคแนวสดชื่นจะดีกว่า เพราะถ้าใส่ไปท่องราตรีบอกเลยคิดผิดมาก ส่วนสำหรับคุณผู้ชายเอาจริงๆ ใส่ได้สบายมากเพราะกลิ่นไม่ได้มาสายปล่อยพลัง ให้ความเป็นสีชมพูอ่อนสดชื่นเบาๆ เผลอๆ ใส่แล้วมีความสุขในการรับกลิ่นมากกว่าสาวๆ ด้วยซ้ำไป 

ความทน - อันนี้แหละเป็นข้อด้อย เพราะเนื้อกลิ่นให้ความเป็นธรรมชาติมากๆ แถมเป็นสไตล์ญี่ปุ่นที่เน้นความสุภาพไม่โฉ่งฉ่างอยู่แล้วด้วย เลยจะตรงข้ามกับเรื่องนี้นิดนึง ซึ่งค่าเฉลี่ยในการใช้งานที่เจอในการจับต้องกลิ่นได้ก็ราวๆ 4 ชม. และสูงสุดที่เจอคือ 6 ชม. หลังจากนี้จะจมไปกับผิวแล้ว

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น แล้วจะลดลงมาเป็นสเต็ปแบบเร็วพอสมควร จนมาคงตัวที่การเป็นออร่ารอบๆ ตัวไปจนถึง 3 - 4 ชม. ก็จะลงเป็นติดผิวก่อนจะจางไปในที่สุด

สรุป - กลิ่นมาในแนวที่ไม่ได้เจาะจงในความเป็นโทนกลิ่นอายดอกซากุระเพียงอย่างเดียว แต่ภาพในหัวถึงบรรยากาศที่รื่นรมย์ในสวนที่มีดอกซากุระบานเคล้ากับต้นไม้อื่นๆ ประปรายในยามเช้าๆ ที่อากาศเย็นๆ สบายๆ ให้โทนสีชมพูอ่อนๆ เคล้ากับกลิ่นหอมสะอาดติดนวลสุภาพคุมโทนความเป็นมินิมัลสไตล์ญี่ปุ่นที่เรียบง่ายแต่ลุ่มลึก แบบเหมือนเรานั่งชมความสวยงามของดอกซากุระเงียบๆ มีรอยยิ้มกับบรรยากาศรอบตัว นี่แหละความรื่นรมย์เต็มๆ เลยล่ะ

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://perfumelounge.eu/products/parfum-satori-sakura

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น