วันอาทิตย์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

Review: BedeauX - Chienoir

BedeauX - Chienoir

จากการประกาศน้ำหอมสาย Niche Perfume ที่ได้รางวัล The Art & Olfaction Awards ประจำปี 2018 ในสาย Artisan Category ว่าน้ำหอมแบรนด์ BedeauX รุ่น Chienoir ได้รางวัลนี้ไปครอง ตอนแรกบอกเลยว่าไม่รู้จักแบรนด์นี้มาก่อน เลยทำให้ต้องขวนขวายหามาครอบครองไม่พอ ยังต้องศึกษาแบรนด์นี้ซักหน่อยว่าที่มาที่ไปเป็นอย่างไรบ้าง

BedeauX มาจากการสร้างสรรค์กลิ่นของ Amanda Beadle ที่มีความชื่นชอบและมีความถนัดในด้านงานศิลปะ แต่ชีวิตมีความพลิกผันบางประการเลยทำให้ต้องไปทำงานด้านบัญชีแทน จนเมื่อได้เวลาอันสมควรและใจรัก ก็เลยขวนขวายศึกษาหาความรู้ด้วยตัวเอง รวมถึงเข้าเรียนรู้วิธีการทำน้ำหอมต่างๆ จากสุคนธกรที่มีเปิดคลาส จนทำให้เริ่มในการสร้างสรรค์กลิ่นด้วยตัวเอง และเปิดแบรนด์ + เปิดตัวน้ำหอมอย่าง Chienoir ออกมาในปี 2017 และนำส่งเพื่อเข้าชิงรางวัล The Art & Olfaction Awards ในปี 2018 จนได้รางวัลมาในที่สุด เช่นนั้น นี่แหละน่าสนใจมากว่ากลิ่นนี้ที่ได้จะเป็นอย่างไงถึงได้รับคำชมและรางวัลนี้ไปครอง เช่นนั้นมาว่ากันดีกว่าว่ากลิ่นออกมาเป็นยังไงบ้าง

แรงบันดาลใจ - การถอดเอากลิ่นอายในสวนองุ่นไวน์ออกมาในลักษณะอยู่ในสวนองุ่นแล้วมองวิวรอบตัวเป็นลักษณะ Landscape ซึมซับเอากลิ่นรอบกายที่ทั้งระเหยออกมาจากพื้นดิน อากาศรอบตัว ความเขียวของกลิ่นพืชพันธุ์เถาเลื้อยอย่างองุ่น แล้วกักเก็บความทรงจำทางกลิ่นมาสู่ขวดในการเป็น Chienoir ในกลิ่นอายน้ำหอมสไตล์ Chypre

เนื้อกลิ่น - การเปิดตัวของ Chienoir เรียกว่าตีหัวเข้าบ้านกันทั้งแต่เริ่มแรกเลย เพราะว่าจะเป็นการผสมผสานกลิ่นส้มที่ค่อนไปทางหวานมีความเป็นน้ำส้มหอมสดชื่นติดหวานซ้อนด้วยกลิ่นมะกรูดฝรั่งที่มีความเขียวเจือเปรี้ยวอมขมมาตัดทอนและเป็นกลิ่นอายโทนกึ่งปร่าซ่าบรรยากาศเย็นๆ ทำให้กลายเป็นกลิ่นโทน Citrus เปรี้ยวอมหวานเจือขมหอมที่ให้อารมณ์แบบบรรยากาศขึ้นมาในวูบแรก ก่อนจะจับต้องได้ว่ามีกลิ่นของดอกส้มที่สกัดแบบไอน้ำหรือ Neroli ที่ให้ความเขียวติดเขียวเปรี้ยวสว่างแกมกลิ่นติดฝาดหอมปนปร่าสมุนไพรของพริกไทยสีชมพูที่มีโทนออกทางกุหลาบบางๆ ในเนื้อกลิ่น เลยทำให้กลิ่นรวมตัวกันป็นโทน Citrus ติดเขียวสดชื่นมีความเป็นบรรยากาศที่เย็นๆ สดชื่น ให้ลองนึกภาพกันได้เลยแบบเรายืนกลางไร่องุ่นแล้วมีกลิ่นติดเขียวไม้เลื้อยกลิ่นอากาศสดชื่นที่ผมเปรี้ยวอมหวาน และมีความปร่าซ่าๆ บางในอากาศเรียกว่าเปิดมาก็ครบถ้วนเบิกบานกันได้เลยทีเดียว

การปรับโทนในช่วงกลางจะมีเพียงเล็กน้อย ซึ่งกลิ่นในช่วงต้นจะตามมาหมด และลดความปร่าฝาดของพริกไทยสีชมพูลงไป แต่จะเพิ่มเลเยอร์กลิ่นโทนปร่าหน่อยแบบสไตล์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ไม่ได้ถึงกับเป็นเหล้าจิน แต่ได้อารมณ์แบบไวน์องุ่นขาวอ่อนๆ เข้ามาเสริม ทำให้ได้อารมณ์แบบสวนองุ่นทำไวน์ชัดเจนมากขึ้น รวมถึงจะมีกลิ่นยาสูบหน่อยๆ ที่ให้อารมณ์แบบ Aromatic กึ่งหญ้าแห้งกึ่งสมุนไพรแห้งมีกลิ่นติดหวานรื่นจมูก ซึ่งถ้าดมเข้าไปติดผิวจะได้กลิ่นติดเขียวเข้มอ่อนๆ ให้อารมณ์กลิ่นอายเขียวแบบพืชล้มลุกแบบเบาๆ เรื่อๆ กำลังดีของ Oak Moss เป็นเสมอพื้นกลิ่นอีกด้วย ที่สำคัญจะจับได้ถึงกลิ่นอายอบอุ่นเบาๆ กลิ่นมีความลึกแกมอบอุ่นผิวกายเข้ามาร่วมด้วย ซึ่งน่าจะเป็นกลิ่นอายของ Labdanum หรือยางไม้อื่นๆ ที่ใกล้เคียงที่มาให้มิติที่เป็นธรรมชาติมากขึ้นเพราะมันคงไม่ได้ทื่อๆ ที่กลิ่นอายเย็นๆ และกลางๆ เพียงอย่างเดียว ซึ่งภาพรวมของเนื้อกลิ่นมีความแห้งมากขึ้นจากตอนต้นที่ติดชื้นๆ เย็นๆ เลยทำให้ได้อารมณ์สดชื่นติดแห้งๆ มีความหอมกึ่งสะอาดกึ่งธรรมชาติในไร่องุ่นที่ลงตัวและชัดเจนมากขึ้นไปนานพอสมควร และเข้าทางการเป็นกลิ่นอายสไตล์ Chypre ที่มีครบทุก Elements ที่ควรจะเป็น

จนเมื่อโทน Citrus เริ่มจางไป และกลิ่นมีความนวลสะอาดอ่อนๆ มากขึ้น ก็จะเป็นการเข้าสู่ช่วงท้ายซึ่งจะยกพวกมาจากช่วงกลางเสียเกือบหมด แต่จะลดทอนลงไปเป็นกลิ่นสนับสนุนที่ให้อารมณ์กลิ่นบรรยาการเจือสมุนไพรติดหวานสบายๆ และจะมีกลิ่นไม้หอมเข้ามาเสริมให้อารมณ์กึ่ง Rooty ดินๆ หน่อยๆ ซึ่งน่าจะมาจากหญ้าแฝก รวมถึงมีกลิ่นปร่าหวานพิมเสนระเรื่อมาให้จับต้องได้ และแน่นอนว่า Oak Moss จะยังอยู่ แต่จะให้ความเรื่อยๆ เบาๆ ไม่ได้มาเข้มข้นจนดูกรุยกรายน่าค้นจัดๆ แต่อย่างใด และมีตัวสำคัญของ Musk มาเสริมด้วยเลยทำให้กลิ่นมีความนุ่มนวลฉาบหน้าด้วยกลิ่นอายบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติ หอมรื่นรมย์แกมเขียวติดแห้งๆ สบายๆ เป็นสไตล์มินิมัลที่ไม่ต้องเยอะสิ่ง แต่มีความซับซ้อนเบาๆ จากการผสมผสานจนได้กลิ่นที่ใกล้เคียงความเป็นธรรมชาติคลอกลั้วผิวกายไปเรื่อยๆ อย่างพึงใจมาก ยอมให้เขาเลย

เหมาะสำหรับ - Unisex ชัดเจน ไม่ว่าจะเพศไหนจับต้องกลิ่นนี้ได้หมดตั้งแต่วัยเด็กน้อยที่สามารถใช้น้ำหอมได้ก็ใส่ตัวนี้ได้ เพราะกลิ่นใช้ง่ายมาก และเข้าถึงได้ง่ายอย่างมีระดับในความเป็นธรรมชาติจริงๆ ซึ่งจัดไปได้หมดทุกสถานการณ์ยามกลางวันเลย กวาดทุกช่วง (แต่ถ้าใส่ไปออกกำลังกายเรียกว่าเปลืองไปหน่อย เพราะปริมาณมันสูงสุดแค่ 30 ml และก็ไม่ได้หาได้ง่ายๆ ด้วยนะต้องซื้อที่ UK อย่างเดียวเท่านั้นด้วย) ส่วนยามค่ำคืน เน้นใส่แบบสบายๆ ผ่อนคลายให้ความรื่นรมย์จะดีมากที่สุด 

ความทน - มีความแกว่งพอสมควร เพราะขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและสภาพผิวผู้ใช้ด้วยส่วนหนึ่ง บางครั้งเจอ 4 ชม. กลิ่นก็จางไปแล้ว แต่บางครั้ง 12 ชม. กลิ่นก็ยังอยู่ แต่โดยเฉลี่ยถ้าหาค่ากลางก็ราวๆ 6 - 8 ชม. ซึ่งถือว่าสมเหตุสมลที่สุดแล้ว

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้นเปิดตัวแบบสร้างความประทับใจแรกพบกันเลย แล้วจะลดลงมาปานกลางซักราวๆ 1 - 3 ชม. ที่เหลือจะกลายเป็นออร่ารอบๆ ตัวยาวไปเรื่อยๆ จนเมื่อผ่านไประหว่าง 6 - 8 ชม. ก็จะติดผิวแล้ว    

สรุป -  ก็ต้องยอมรับเลยว่าตั้งแต่เปิดจนท้าย กลิ่นมีพลิ้วไหวและงดงามมากจริงๆ ในสไตล์ที่ให้ความเป็นธรรมชาติ ถอดเอากลิ่นอายไร่องุ่นทำไวน์มาได้ครบถ้วนและกักเก็บใส่ขวดได้อย่างลงตัวสมกับการได้รางวัล The Art & Olfaction Awards ของปี 2018 มาครอง ยอดเยี่ยมมากจริงๆ

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.bedeaux.co.uk/product-page/chienoir-30ml-eau-de-parfum

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น