วันอาทิตย์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

Review: House of Sillage - Emerald Reign

House of Sillage - Emerald Reign

ว่ากันในเรื่องของแบรนด์ที่ราคาน้ำหอมไม่เคยลดราวาศอก พร้อมกับขวดที่มี 2 เลเวลให้เรื่องว่าอยากจะเอาแบบปกติ หรือมีงานศิลปะคริสตัลงามๆ พ่วง ซึ่งราคาก็พุ่งแรงมากจริงๆ ไม่ว่าจะแบบไหน ก็คงต้องยกให้ House of Sillage กับแบรนด์ Niche Luxury ของอเมริกาเขาล่ะ กับขวดทรงคัพเค้กที่มีความน่ารักและงดงามจากคริสตัลประดับในการเป็นขวดทรง Signature ปกติ กับงานศิลปะคริสตัลที่ประดับเสริมเข้าไปให้ High-end ขั้นสุดกับการเป็น Limited Edition ซึ่งกลิ่นเหมือนกัน ความเข้มข้นระดับ Extraits de Parfum เหมือนกัน ขวดก็พื้นฐานเหมือนกันต่างแค่สิ่งที่มาประดับเพิ่มมูลค่าให้ขวดอย่างคริสตัลที่ทำออกมาจนกลายเป็นเครื่องประดับชั้นงามกันได้เลยทีเดียว

แน่นอน เราไม่ได้มาวิจารณ์งานขวด แต่เราจะมาที่กลิ่นที่ 2 ของแบรนด์นี้ที่มีโอกาสได้สัมผัส นั่นก็คือ Emerald Reign กับที่มาที่ไปในการสร้างสรรค์น้ำหอมคือ ความมั่นใจและความเชื่อมั่นในตัวเอง ซึ่งก็พยายามจะ Link กับชื่อรุ่นว่ามันเกี่ยวกันยังไง ก็ยังค้นไม่เจอ แต่ก็ช่างมัน มาว่ากันที่เรื่องกลิ่นดีกว่า

Emerald Reign เปิดตัวมาก็ชัดเจนกับการเป็นกลิ่นอายสายอบอุ่นที่มีพลังกับการสื่อสารภาพรวมกลิ่นอายสไตล์แอมเบอร์ชัดเจน ซึ่งกลิ่นหลักที่จะสร้างอารมณ์อบอุ่นในเนื้อกลิ่นคือโทนเครื่องเทศและกำยาน Benzoin ที่จะให้โทนยางไม้ที่ค่อนไปทางวานิลลา แต่ดันไม่หวานแหลมเพราะเครื่องเทศนี่แหละตัวเกลาให้กลิ่นมีลักษณะออร่าอบอุ่นแบบยางไม้รุ่มรวยกรุยกรายและนางพญาได้ดีเลยทีเดียว ซึ่งสิ่งแรกที่ฟุ้งกระจายออกมาต้องยกให้เม็ดผักชีที่ให้ความเผ็ดซ่าวูบออกมาแต่ไม่คมเกินไปนักเพราะว่ามีตัวที่ให้ความหวานเจือเผ็ดเย้าอย่างกระวานจะเข้ามาเสริมให้มีโทนหวานแบบสมดุลย์กำลังดี ไม่ได้มาเพื่อแท็คทีมกันคมพุ่งทะลุจมูกแต่อย่างใด และที่สำคัญมีตัวแปรสำคัญเลยอย่างเม็ดจันทน์เทศที่ให้ความเผ็ดนวลกลมกล่อมกึ่งไม้หอมหน่อยๆ ที่จะเป็นตัวกล่อมเกลาชั้นดีให้กลิ่นมีความกลมและมีมิติที่ลงตัวไม่หนักหน่วงเกินเหตุ ซึ่งทุกอย่างจะอยู่บนพื้นฐานของกลิ่นกำยาน Benzoin จนทำให้รู้สึกว่ามันคือโทนกลิ่นสไตล์แอมเบอร์ที่ฉาบหน้าด้วยเรื่องเทศที่ไม่หนักเกินไป แต่ให้ความหรูหราและปล่อยเสน่ห์แบบกำลังดีแทน

การปรับเปลี่ยนเข้าสู่ช่วงกลางจะเริ่มได้กลิ่นออกทางกึ่งมินต์หน่อยๆ กึ่งน้ำในแจกันดอกกุหลาบที่เป็นลักษณะของเจอราเนียมที่ค่อยๆ เปิดตัวออกมาพร้อมกับเอาโทนไม้หอมติดครีมมี่จืดหอมนวลอย่างไม้จันทน์หอมเข้ามาด้วย โดยที่กลิ่นช่วงต้นทั้งหมดก็ยังตามมาอย่างชัดเจน ซึ่จะให้ออร่ากลิ่นอายโทนอบอุ่นหรูหรามีระดับและมีพลังออกมาไล่เลเยอร์จากกลิ่นปร่าซ่าเครื่องเทศเจือสมุนไพร ที่แฝงด้วยโทนเย้าหวานในความอบอุ่น แต่มีกลิ่นไม้จันทน์หอมมาเสริมเลยทำให้กลิ่นมีความนุ่มนวลจมูกมากขึ้น แถมด้วยกลิ่นออกทางดึ่งมินตี้กึ่งกุหลาบติดเขียวของเจอราเนียมก็มาสอดรับพอดีกับความปร่าซ่าเลยมีมิติกลิ่นเขียวติดมินต์กึ่งกุหลาบเข้ามาร่วมผสมผสานกับโทนสไตล์แอมเบอร์ด้วย แต่มันไม่ใช่แค่นั้น เพราะสิ่งหนึ่งที่จับต้องได้คือ มันมีโทนแป้งแฝงอยู่ เพราะมีกลิ่นโปร่งหวานหน่อยๆ เคล้าแป้งอบอุ่นของวานิลลาเข้ามาด้วย เลยมานั่งแยกส่วนกลิ่น ก็รับรู้ได้ว่า เป็นการผสมผสาน 4 โทนกลิ่นสำคัญเลย คือ เครื่องเทศสมุนไพรหวานเจือปร่า ไม้หอม แป้งหอม และโทนอบอุ่นแนวแอมเบอร์ ทุกอย่างจะไม่ได้มาแบบหนักหน่วง แต่ให้ความกำลังดีที่มีเสน่ห์แต่มีพลัง ทุกอย่างไล่เลเยอร์กันมีมิติและผสมผสานกันจนได้ลักษณะกลิ่นแอมเบอร์เคล้าไม้หอมเจือหวานเย้าปร่าสมุนไพรที่มีโทน Feminine แบบมีพลังสไตล์นางพญาที่นิ่งๆ ให้จับต้องได้ตลอดเวลา ก่อนที่จะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งเพราะเนื้อกลิ่นจะเริ่มลดทอนความเป็นเครื่องเทศลงไป จนเหลือความอบอุ่นของโทนกำยาน Benzoin แต่มาแบบออกทางยางไม้เจือแป้งหอมที่ไม่ได้หวานจนกลายเป็นโทนขนม แต่ให้ความเป็นกลิ่นอายยางไม้สีเหลืองอมส้มอมทองที่มีความเป็นโทนแป้งสนับสนุน และปลายกลิ่นมีความปร่าระเรื่อของพิมเสนที่เสริมให้กลิ่นหรูหรามีระดับที่ชัดเจนมากขึ้นออกมาให้รู้สึกได้เลยในการเป็นช่วงท้ายของน้ำหอมกลิ่นนี้

เหมาะสำหรับ - ผู้หญิงทุกเพศวัยทำงานขึ้นไป เนื้อกลิ่นชัดเจนพอสมควรเพราะมาในโทนหรูหรามีระดับแต่ไม่ได้แบบโจ่งแจ้งหรือจงใจในการโชว์เหนือ แต่ให้ความเป็นสไตล์ผู้ดีที่มั่นใจในเสน่ห์ของตัวเอง เช่นนั้นกลิ่นเลยเข้ากับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันไม่ว่าจะทางการหรือทั่วไป กับจำนวนสเปรย์ที่เหมาะสม จะสร้างออร่าที่มีเสน่ห์ สไตล์นางพญามาดนิ่งและมีระดับได้ดีเลยทีเดียว รวมถึงยามค่ำคืนที่ใส่ออกงานนี่เรียกว่าเข้ากันได้ดีมาก รวมถึงจะใส่แบบโรแมนติคก็ได้อยู่ แต่ให้ตัดการใส่เพื่อกิจกรรมกลางแจ้งและออกกำลังกายไปได้เลย ไม่เข้าทางทุกประการ

ความทน - กลิ่นทนลงตัวราวๆ 8 - 12 ชม. เป็นสำคัญ เรียกว่าเรื่องนี้ไม่น่าห่วง โดยส่วนตัวเจอไปที่ 12 ชม. ยังได้กลิ่นอยู่

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมากในตอนต้น แล้วจะผ่อนลงมากระจายดีซักราวๆ 1 ชม. ที่เหลือ จะเป็นปานกลางไปเรื่อยๆ คงตัวกันยาวๆ ไปจนถึงราวๆ 6 ชม. ถึงค่อยลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัว จนเมื่อผ่าน 10 ชม. ไปแล้วก็จะเริ่มเป็น Skin Scent

สรุป - เป็นหนึ่งในการสร้างสรรค์กลิ่นอายสไตล์สูงศักดิ์และนางพญาที่มีเสน่ห์และมีความมั่นใจในตัวเองว่าหรูหรามีระดับมากพอชัดเจน โดยเอาโทนอบอุ่นสไตล์แอมเบอร์มาเป็นตัวตั้ง ซึ่งนอกจากขวดสวยแล้วน้ำหอมเองก็ไม่ธรรมดาตอบโฌจทย์ความ Luxury ได้ชัดเจน อันนี้ก็ต้องยอมเขาจริงๆ

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - http://royalperfumery.cz/eshop/en/women-s-fragrances/363-house-of-sillage-emerald-reign-limited-75ml-857956003087.html และ https://www.bloomingdales.com/shop/product/house-of-sillage-emerald-reign-signature-edition?ID=1652439

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น