วันศุกร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

Review: Montale - Bakhoor

Montale - Bakhoor

ในการนำเสนอโทน Incense หรือธูปหอมต่างๆ ผ่านน้ำหอมที่ Montale ปล่อยออกมาวางจำหน่าย แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นจะต้องมีรุ่นดังอย่าง Full Incense ที่เรียกว่าจัดเต็มในการปล่อยพลังทางกลิ่นธูปแบบที่ชัดเจนทุกสโตรกและแผ่รังสีได้แบบถึงใจคนชอบโทน Incense มานักต่อนัก แต่ก็ไม่ใช่มีเพียงรุ่นเดียวที่ว่ากันในโทนนี้ เพราะกลิ่นอายสายธูปที่มีพื้นเพมาจากทางอาระเบียนมันก็มีหลากหลายพอสมควร

เช่นนั้น เลยเป็นที่มาของการสร้างสรรค์กลิ่นอายสายธูปขึ้นมาเสริมทัพในรุ่น Bakhoor ที่เป็นกลิ่นอายสไตล์ธูปหอมที่ผสมผสานความเป็นยางไม้ ไม้หอมต่างๆ และน้ำมันหอมระเหยเข้าด้วยกันจนเป็นกลิ่นโทนที่น่าค้นหา ขรึมขลังมีเสน่ห์ และเป็นโทนที่สื่อถึงวัฒนธรรมทางอาระเบียนได้ด้วยเช่นกัน เลยไม่ขอท้าวความอะไรมาก มาว่ากันเลยดีกว่าว่ารุ่นนี้ Montale จะสร้างสรรค์ออกมาอย่างไรบ้าง

เปิดต้นกลิ่นเรียกว่านี่แหละ Montale’s Style ชัดเจน เพราะจะต้องมีกลิ่นอายสไตล์อาระเบียนอยู่โดยการผสมผสานกลิ่นโทนไม้กฤษณา (ขอเรียกว่า Oud หลังจากนี้) กับกลิ่นอายติดแปร่งขมเจือหวานของหญ้าฝรั่นที่ให้โทนแบบอาระเบียนเข้ามา แถมมีกลิ่นออกทางหนังหน่อยๆ ที่มีความ Smoky แฝงเสริมอยู่ แต่กลิ่นจะไม่ได้หนักหน่วงมากนักแบบปล่อยพลังพร่ำเพรื่อ จะให้ความกลางๆ ที่อวลๆ กำลังดี แอบมีความโปร่งมากกว่าที่คาดคะเนไว้ ซึ่งจะมีโทนไม้หอมแทรกประปรายให้จับต้องได้ ซึ่งนั่นก็คือโทนออกทางไม้ซีดาร์ ซึ่งคาดว่าจะต้องมี ISO E Super แฝงอยู่ด้วยเลยมีความโปร่งๆ ให้รู้สึก ทำให้กลิ่นช่วงต้นเลยออกแนวสร้างความรู้สึกในแบบลายเซ็นของแบรนด์กันก่อนว่าจะต้องมีโทนแบบนี้ให้รู้ ก่อนจะปูทางสู่ช่วงที่เป็นหัวใจหลักของน้ำหอมต่อในช่วงกลาง

การเปลี่ยนแปลงจะเริ่มให้จับต้องได้เมื่อกลิ่นโทนไม้หอมต่างๆ เริ่มแทรกตัวมาเป็นตัวนำกลิ่นซึ่งต้องเรียกว่าเป็นการผสมผสานโทนไม้หอมที่เสริมกันเป็นอย่างดีมากและจับต้องแยกโทนกลิ่นได้ไม่ยากด้วย เพราะจะได้ความเป็นกลิ่นไม้หอมติดปร่าขรึมโปร่งๆ ของไม้ซีดาร์แกมกลิ่นออกทางไม้ดินสอ (แน่นอนว่า ISO E Super ชัดเจน) ตามด้วยกลิ่นไม้แห้งๆ ที่เป็นกลิ่นโทนสไตล์หญ้าแฝกที่ไม่ได้ออกทางรากใต้ดินหรือถั่วๆ และกลิ่นไม้ครีมนวลจืดหอมของไม้จันทน์หอมที่เสริม ทำให้มิติของกลิ่นไม้หอมในช่วงนี้ค่อนข้างเสริมกันได้ลงตัว รวมถึงกลิ่นจะมีความปร่ากึุ่งพริกไทยแกมยางไม้อ่อนๆ ที่เป็นลักษณะของ Frankincense เข้ามาร่วมด้วย และยังไม่พอกลิ่นในช่วงต้นก็ตามมาทั้งหมดเลย ทำให้กลิ่นไม้หอมที่เป็นพื้นกลิ่นจะมี Oud และหญ้าฝรั่นเข้ามาเสริมสร้างความอวลลึกดาร์กน่าค้นหา แถมมีโทน Smoky หน่อยๆ แกมหนังด้วย เรียกว่าช่วงกลางนี้มีความชัดเจนมากกับการเป็นอารมณ์ธูปไม้หอมที่มีความอวลลึกรุมๆ กรุ่นกำจายแบบสร้างบาเรียรอบตัวที่ขรึมขลังน่าค้นหา แต่มีความโปร่งและสว่างเนียนๆ มาตัดทอนไม่ให้กลิ่นดูดาร์กจนมากเกินไป อารมณ์หยินหยางกำลังดี

จนเมื่อกลิ่นดำเนินไปซักพักใหญ่ความอวลแกมอุ่นเริ่มชัดเจนมากขึ้น และมีโทนออกทางกึ่งไม้แห้งๆ กึ่งผิวกายติดเค็มเล็กๆ คล้ายโทน Ambergris หรืออำพันปลาวาฬเข้ามา แต่ถ้าให้คาดเดาน่าจะเป็น Ambroxan ที่ทำหน้าที่แทนเสียมากกว่า ซึ่งมาเสริมกับโทนไม้หอมให้ความอวลอุ่นกำลังดีไม่พอ ยังมีโทนไม้ออกทาง Smoky ติดออกทางกึ่งหนังแกมไม้นิดๆ ที่เสริมเข้ามาด้วยเลยทำให้กลิ่นธูปไม้หอมจากช่วงกลางเริ่มมีความ Smoky รุ่มรวยขรึมและน่าค้นหาแบบชัดเจนมากขึ้น แต่เพราระมีโทน Musk มาตัดทอนเลยทำให้กลิ่นมีความนวลสว่างกำลังดีเข้ามา และทำให้กลิ่นมีความนุ่มลงไม่ได้ตะยี้ตะบันอัดความเป็นธูปยางไม้+ไม้หอมแบบจัดหนักนัก เลยจะได้อารมณ์กลิ่นอายที่เป็นโทนธูปอวลๆ อบอุ่นแกมนุ่มๆ ที่คลอรอบกายไปเรื่อยๆ แบบที่มีลูกเอื้อนปลายกลิ่นอ่อนๆ สไตล์ Oud เบาๆ ที่มีเสน่ห์ปิดท้ายอย่างพอเหมาะและลงตัว

เหมาะสำหรับ - Unisex ที่พื้นเพชอบกลิ่นอายสายไม้หอมและธูปยางไม้ รวมถึงกลิ่นอายสไตล์ตะวันออกกลางแบบอ่อนๆ ได้ (กลิ่นแนว Oud ไม่ได้หนักมาก ผ่านช่วงต้นไปที่เหลือก็สบายมากแล้ว) ก็สามารถใช้งานตัวนี้ได้สบายๆ เลย เพราะเข้ากับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวัน ไม่ว่าจะทางการหรือทั่วๆ ไป แบบที่เน้นสร้างออร่าความขรึมขลังแต่ไม่ได้ถึงขั้นหลอนเหมือนมีกลิ่นธูปคลอแบบนั้น ให้อารมณ์น่าค้นหาเสียมากกว่า รวมถึงสามารถใส่ออกงานกลางคืนได้อยู่ แต่ถ้าจะใส่เพื่อกิจกรรมกลางแจ้งลุยๆ หรือออกกำลังกาย แนะนำให้ข้ามไปดีกว่า รวมถึงใส่ไปท่องราตรี ที่กลิ่นอาจจะทำให้คนงงๆ ได้อยู่ว่าไปทำพิธีกรรมอะไรมาก่อนหน้านี้หรือเปล่า แต่ถ้าแน่ จะลองก็ได้ เพราะกลิ่นมันมีโทนน่าค้นหาอยู่พอสมควร

ความทน - ลงตัวที่พื้นฐาน 8 ชม. เป็นสำคัญ และไปต่อได้อีกถึงราวๆ 12 ชม. เลยกับการใช้เพียง 4 สเปรย์ ซึ่งเรื่องนี้ Montale ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง

การกระจาย - อันนี้จะมาแปลกกว่าสิ่งที่เคยเจอจาก Montale พอสมควร เพราะไม่ได้มาสายปล่อยพลังสะท้านฟ้านัก ซึ่งแม้กลิ่นกระจายดีในตอนต้น แต่ก็จะผ่อนลงมาที่ปานกลางไปเรื่อยๆ แบบที่คงตัวและเสถียรกันยาวๆ พอสมควรถึงราวๆ 6 ชม. กลิ่นถึงจะเริ่มลดลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัวไปยาวๆ จนพ้นซัก 10 ชม. ก็จะเริ่มติดผิวแล้ว ซึ่งอันนี้เกิดคาด แต่เป็นเรื่องที่ดี เพราะมันไม่หนักไปนั่นเอง  

สรุป - ถ้าเอาความหวือหวา กลิ่นนี้ไม่ได้มาแบบเต็มที่หนักหน่วงจัดจ้านในลักษณะน้ำหอมโทน Incense ในแบรนด์เดียวกันอย่าง Full Incense แต่ให้ความเรื่อยๆ อวลๆ แบบที่สร้างบาเรียน่าค้นหาและมีระดับรอบตัวแบบที่กำลังดีเสียมากกว่า โดยบาลานซ์กลิ่นได้ดีชูโรงกลิ่นไม้หอมและยางไม้แกมธูปเสริมด้วยโทนอาระเบียนแบบประปรายที่สร้างเสน่ห์ ซึ่งถือว่าเป็นน้ำหอมสายธูปที่ใช้ไม่ยาก แต่ให้ความดีงามเสริมบุคลิกที่น่าค้นหาและขรึมขลังแกมสว่างนวลได้ดีเลยทีเดียว 

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.instagram.com/p/CIu_FWAnZwm/?utm_medium=copy_link

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น