วันจันทร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2565

Review: Caron - Pour Un Homme de Caron L'Eau

Caron - Pour Un Homme de Caron L'Eau

จากความสำเร็จมาอย่างยาวนานของ Pour Un Homme de Caron ตั้งแต่ปี 1934 กับกลิ่นสุขุมนุ่มลึกกับการผสมผสานระหว่างลาเวนเดอร์และวานิลลา ที่แตกต่างจากกลิ่นอายสาย Classic ต่างๆ จนกลายเป็นหนึ่งในกลิ่นอายที่เหนือกาลเวลาที่จะไปต่อเรื่อยๆ ซึ่งแน่นอนว่าอยู่คงกะพันชาตรีมาอย่างยาวนานจริงๆ จนเมื่อปี 2005 ถึงได้มีการต่อยอดออกรุ่นลูกหลานมาในที่สุด ซึ่งก็ถือว่าเป็นไปตามสไตล์ของการต่อยอดทางการสร้างกลิ่นหอมให้ครอบคลุมมากขึ้นกับกลุ่มเป้าหมายต่างๆ ให้กับแบรนด์

ซึ่งในรุ่นลูกหลานนั้น Caron เองก็เปิดตัวมาเรื่อยๆ แบบห่างๆ ไม่ได้ต่อเนื่องมากนัก ซึ่งถ้าไม่นับรวมรุ่นต้นตระกูลแล้วก็มีรุ่นแตกหน่ออกมาเพียง 5 รุ่นเท่านั้น โดยจะออกมาถี่หน่อยในช่วงปลายยุค 2010s ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีอยู่หนึ่งกลิ่นที่เริ่มเจาะตลาดที่มาสายสดชื่นมากกว่าจะสุขุมนุ่มลึก โดยที่ยังคงลายเซ็นลาเวนเดอร์และวานิลลาของตัวต้นตระกูลไว้ ซึ่งมีความน่าสนใจมากกับการนำเอามาเล่ากลิ่น เช่นนั้นไม่เกริ่นอะไรมาก มาเจอกันเลยแล้วกันกับรุ่นนี้ Pour Un Homme de Caron L'Eau

ลาเวนเดอร์ที่มีความเป็นธรรมชาติมากๆ จะมาแบบชัดเจนและเต็มเม็ดเต็มหน่วยมาก เรียกว่าขนความเป็นลาเวนเดอร์ที่แท้ทรูมาเสิร์ฟถึงจมูกเลย เพียงแต่ในเนื้อกลิ่นที่ให้ความเขียวกึ่งนวลที่มีความเป็นสมุนไพรกึ่งเมทัลลิคนิดๆ จะมีโทน Citrus ที่ติดเปรี้ยวขมของมะกรูดฝรั่งเสริมอยู่ เลยทำให้กลิ่นมีความสดชื่นเป็นเสมือนบรรยากาศเข้ามาร่วมด้วย ซึ่งถือว่ากลิ่นเปิดตรงไปตรงมาและมินิมัลในการส่งต่อความเป็นลาเวนเดอร์ให้ผู้ใช้งานชัดเจน

เมื่อเนื้อกลิ่นเริ่มปรับเปลี่ยนโดยมีกลิ่นออกทางกึ่งมินต์กึ่งเขียวแบบน้ำในแจกันกุหลาบที่เป็นลักษณะจองเจอราเนียมเข้ามาเสริมทีละนิดๆ และมีความชื้นๆ หน่อยๆ เข้ามาให้รู้สึกด้วย ก็ชัดเจนว่าเป็นการเข้าสู่ช่วงกลางเต็มตัว ซึ่งเนื้อกลิ่นจะกลายเป็นลาเวนเดอร์ติดเขียวปร่าอ่อนๆ ที่มีโทนเขียวกึ่งกุหลาบชื้นๆ เป็นฉากหน้า แต่เมื่อดมเข้าไปใกล้ผิวจะจับต้องได้เลยว่ามีวานิลลาอ่อนๆ รองพื้นอยู่ซึ่งกลิ่นจะไม่ได้โดดเด่นออกมาแต่ให้ความละมุนอ่อนๆ ที่กึ่งโทนแป้งที่ไม่หวานกึ่งอบอุ่นเบาๆ แบบฉากหลังจริงๆ ซึ่งทำให้มิติในการดมมีเลเยอร์ให้จับต้องได้มากกว่าที่จะชูโรงลาเวนเดอร์สมุนไพรเพียงอย่างเดียว และที่สำคัญวานิลลานี่แหละตัวเสริมชั้นดีให้กับช่วงถัดไปเต็มๆ 

ช่วงท้ายความเป็นกลิ่นอายแบบต้นตระกูลจะเริ่มกลับมานั่นคือโทนกลิ่นอายไม้หอมแกม Musk ที่มีกลิ่นออกทางติดอวลเค็มอ่อนๆ แบบผิวกายที่มีความเบาๆ ซึ่งลาเวนเดอร์จะจางไป เหลือวานิลลาที่พอมาเสริมกับโทนไม้หอมที่เด่นด้วยความเป็นหญ้าแฝกที่มาแบบไม้แห้งๆ แกมดินๆ กลายเป็นสร้างกลิ่นอายแบบหนังสือเก่า ที่เป็นกลิ่นแบบห้องสมุดออกมา ซึ่งรุ่นหลักช่วงท้ายก็เป็นแบบนี้ เพียงแต่ว่าเนื้อกลิ่นจะไม่ได้เข้มข้นนัก มีความเรื่อยๆ เบาๆ มินิมัลมากกว่า แต่ก็ยังเข้าทางการเป็นกลิ่นอายแบบสุขุมภูมิฐานได้อยู่ แค่ไม่ได้ดูแบบทางการเท่ารุ่นต้นตระกูล ซึ่งก็ถือว่าเข้าทางการเป็นกลิ่นอายสไตล์ L’Eau ที่สดชื่นขึ้นและมีความทันสมัยมากขึ้นด้วยเช่นกัน

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไปก็สามารถใช้งานตัวนี้ได้ ยิ่งถ้าพื้นเพเป็นคนชอบกลิ่นลาเวนเดอร์ที่มีความเป็นธรรมชาติมากๆ อยู่เป็นทุนเดิม สามารถโดนตกได้เลยตั้งแต่แรกฉีด ซึ่งเลิ่นเข้ากับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันไม่ว่าจะทางการหรือทั่วๆ ไป ลามไปยังกิจกรรมกลางแจ้งหรือว่าออกกำลังกายก็พอได้อยู่ เพียงแต่กลิ่นช่วงท้ายจะสุขุมนิดนึง ส่วนยามค่ำคืนเน้นใส่ทั่วๆ ไป สบายๆ หรือใส่ก่อนนอนให้หลับสบาย อันนี้จะลงตัวสุด

ความทน - กลิ่นทนราวๆ 6 - 8 ชม. อิงตามจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีด ซึ่งส่วนตัวเจอที่ราวๆ 8 ชม. เป็นเรื่องปกติในการใช้งานที่ 6 สเปรย์

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น เรียกว่า Lavender is all around กันเลยทีเดียว ก่อนที่จะลดลงมาปานกลางซักราว 2 ชม. แล้วที่เหลือคือออร่ารอบๆ ตัว พอแตะที่ 6 ชม. ก็เริ่มเป็น Skin Scent แล้ว

สรุป - ลายเซ็นในการเป็นกลิ่นลาเวนเดอร์อันนี้มาชัดเจนไม่หนีไปไหนแถมกลิ่นมีความธรรมชาติมากเกินคาด แต่สิ่งที่ลดทอนลงไปจนเหลือเพียงเบาบางกลายเป็นวานิลลา เลยเป็นการปรับโทนให้มีความเป็น L’Eau ด้วยการเอาความเป็น Citrus กึ่ง Herbal มาเป็นตัวเอกแทน ก่อนจะกลับสู่การเป็นกลิ่นอายแบบหนังสือเก่าอ่อนๆ ที่ลดทอนความเข้มข้นลงมาจากต้นฉบับ ซึ่งถือว่าสร้างความเป็นกลิ่นอายที่มีความสดชื่นมากขึ้นทำให้เข้าถึงได้ง่าย โดยที่ไม่ทิ้งความเป็น Pour Un Homme de Caron แต่อย่างใด อีกหนึ่งกลิ่นที่ต่อยอดออกมาได้ดีมากจริงๆ

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล สามารถเป็นได้ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่เขียน เพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นได้ทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.myngled.com/parfums-dexception-la-maison-de-parfumerie-caron/

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น