วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

Review: Pierre Guillaume - Monsieur

Pierre Guillaume - Monsieur

จากจุดเริ่มต้นของการแยก Collection ต่างๆ รวมถึงแยกแบรนด์อย่างชัดเจน โดยอยู่ภายใต้การดูแลของ Perfumer สุดหล่ออย่าง Pierre Guillaume หลักๆ คือ Pierre Guillaume, Parfumerie Generale และ Phaedon ซึ่งต่อมาได้เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้นว่าควรควบรวมให้มีความชัดเจนมากขึ้นแต่เป็น Collection ที่สามารถบริหารจัดการได้ง่ายมากขึ้น ซึ่งในปัจจุบันจึงเหลือเพียง 2 แบรนด์หลักๆ ที่ต่างก็มีดีในตัวสูงแบบที่เรียกว่าไม่ธรรมดาทั้งคู่อย่าง Pierre Guillaume (ที่เอา Parfumerie Generale เข้ามารวมอยู่ด้วยและเปลี่ยนเป็นหนึ่งใน Collection - Number กับอีกแบรนด์สาย Exclusive มากขึ้นอีกหนึ่งสเต็ปอย่าง Phaedon

เกริ่นการรวม การแยกกันมาพอสมควรมาว่ากันในเรื่องของน้ำหอมที่จะเล่ากลิ่นอย่างรุ่น Monsieur ซึ่งเดิมทีก่อนมีการเปลี่ยนแปลง ถือเป็นหนึ่งใน Collection - Huitième Art ของแบรนด์หลักอย่าง Pierre Guillaume มาก่อน ซึ่งขวดจะมีความเฉพาะมากๆ อย่างกับโล่ห์ที่ใช้ในการรบเลย และหลังจากที่มีการปรับกระบวนท่ากันใหม่ของแบรนด์ก็มีการยกเลิก Collection เดิมออกไป ปรับ Collection ใหม่ทั้งหมด และเปลี่ยนรูปแบบขวดมาเป็นแบบเดียวกันทั้งแบรนด์แยกกันที่สีด้านในของขวด สีน้ำหอม และหมายเลขรุ่น (อันนี้คือฝั่ง Parfumerie Generale เดิม) ซึ่ง Monsieur เองก็เลยมารวมอยู่ในการเป็น Black Collection ของ Pierre Guillaume ในที่สุด ที่สำคัญรุ่นนี้อยู่ในกลุ่มที่ไม่ธรรมดาและได้รับการยอมรับอย่างสูงในเนื้อกลิ่นที่มีเสน่ห์และมีระดับมากๆ อีกด้วย เช่นนั้น ได้เวลาลองแล้วสิ ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร

จุดเริ่มต้นของกลิ่นเริ่มที่โทนกึ่ง Earthy กึ่งชื้นๆ ปร่าๆ ของพิมเสนที่มีลักษณะคล้ายโทนสารหอมอย่าง Clearwood ที่เป็นลูกผสมในความเป็นพิมเสนใสๆ กึ่งไม้ซีดาร์โปร่งๆ แต่เนื้อกลิ่นไม่ได้ทื่อขนาดนั้น เพราะว่ามีความ Earthy แบบพิมเสนติดเขียวที่ไม่ได้มาสายดาร์กหรือสาบ รวมถึงมีกลิ่นหญ้าแฝกที่ไม่ได้ให้โทน Smoky แต่มาแบบแนว Rooty รากชื้นๆ ที่มีลูกเอื้อนของความเป็นโทนกลิ่นแบบละอองหรือไอน้ำแบบที่มีกลิ่นแร่ธาตุหน่อยๆ เข้ามาร่วมด้วย แต่ทั้งหมดจะเป็นตัว On Top อยู่บนพื้นฐานความเป็นกลิ่นไม้หอมโปร่งๆ ขรึมๆ อย่างไม้ซีดาร์เอาไว้ ทำให้กลิ่นจะมาเป็นสาย Fresh Woody ที่เกลาออกมาอย่างกลมกล่อมและเป็นธรรมชาติแบบที่ให้ความรู้สึกว่าเป็นกลิ่นอายสภาพแวดล้อมที่มีความเป็นไม้สดชื่นแกมชื้นๆ ของบรรยากาศที่มีละอองน้ำหรือไอน้ำเย็นๆ อยู่ใกล้ๆ ประมาณนั้น

การเปลี่ยนแปลงของเนื้อกลิ่นจะเริ่มจับต้องได้เมื่อโทนชื้นๆ ต่างๆ ลดลงและแห้งลงมาในระดับหนึ่ง และเพิ่มเติมด้วยโทนจืดแกมครีมมี่หวานมีเสน่ห์ของไม้จันทน์หอมที่เข้ามาพร้อมกับกลิ่นออกทางยางไม้ติดเขียวๆ ที่มีความขมๆ ติดหวานแต่ไม่ได้ทึบ ค่อนไปทางกลิ่นแนวๆ Evergreen แต่ก็ไม่ได้ถึงกับเป็นโทนคล้ายไม้สนมากขนาดนั้น อารมณ์แบบกลิ่นคล้ายยางไม้สนแต่มีความเป็นเขียวใบไม้อะไรทำนองนั้น ทำให้การนำเสนอความเป็นไม้หอมมีความชัดเจนมากขึ้นตามลำดับ โดยมีทั้งกลิ่นไม้ซีดาร์จากช่วงต้นที่ให้ความปร่าขรึม มีความนุ่มนวลอวลครีมมี่ของไม้จันทน์หอมที่ให้มิติกลิ่นไม้หอมนวลๆ มีระดับแบบพอดีๆ และมีกลิ่นหญ้าแฝกที่ให้ความเป็นกึ่งไม้แห้งกึ่งราก Rooty ที่มีความชื้นๆ ดินกึ่งไม้แห้งๆ ประปราย ซึ่งทำให้เลเยอร์ความเป็นกลิ่นไม้หอมจะเริ่มจากเขียวกึ่งใบไม้ สู่กลิ่นเปลือกไม้ เนื้อไม้ปร่าแกมนวล  ยางไม้ปร่าที่มีความแน่นของเนื้อกลิ่นในระดับที่พอดี โดยมีพิมเสนรายล้อมให้ความเป็นสภาพแวดล้อมที่มีทั้งต้นไม้และพืชล้มลุกต่างๆ แบบไม่ได้ไปสายดิบดาร์ก ซึ่งถือเป็นช่วงที่นำเสนอความเป็นไม้หอมได้ครอบคลุมมาก

ช่วงท้ายก็จะยังนำเสนอสิ่งที่เป็นช่วงกลางทั้งหมด เพียงแต่จะมีกลิ่นที่ลึกมากขึ้น และมีความหยินหยางกำลังดีเพราะมีโทนสว่างของไม้จันทน์หอมและไม้ซีดาร์ที่ตามมาในช่วงนี้ รวมถึงมีกลิ่นปาปิรัสที่ให้ความเป็นไม้แห้งๆ โปร่งๆ เสริมเข้ามาในฝั่งของไม้หอมโทนสว่าง โดยที่ยังมีอารมณ์กึ่งปร่ายางไม้ค่อนไปทางไม้สนหน่อยๆ อยู่เช่นเดิมเป็นตัวกลางที่เชื่อมโทนกับโทนดาร์กน่าค้นหาเนียนๆ ที่มาจากไม้หอมกึ่งโทนธูป Incense ที่มีความ Smoky นวลเนียน เคล้าหญ้าแฝกที่มีความเป็นไม้แห้งๆ มากขึ้นกับ Oak Moss ที่ให้ความเป็นโทนเขียวเข้มๆ ค่อนไปทางกลิ่นน้ำหมึกอ่อนๆ แบบสไตล์ Earthy ที่มีความ Classic ก็ได้และร่วมสมัยก็ดี ทำให้ช่วงท้ายคือกลิ่นสุภาพบุรุษที่มาในแบบสไตล์ Modern ที่มีความสมดุลย์ในการเป็นโทนไม้หอมแบบตรงกลางพอดี ทุกอย่างจะให้ความเป็นโทนสุภาพบุรุษที่สมาร์ทก็ได้ สบายๆ แบบ Casual ก็เอาอยู่ โดยที่ทุกอย่างสอดรับกันอย่างดีตั้งแต่ต้นยันจบเลย

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยทำงานเป็นต้นไป เนื้อกลิ่นมีความเป็น Daily Scent ที่สร้างออร่าความเป็นกลิ่นอายสุภาพบุรุษที่แตกต่างโดยมีลูกเอื้อนความ Classic แบบ Tribute ให้หน่อยๆ แต่ที่เหลือคืออวลไม้หอมที่ทันสมัยได้เลย จึงเข้ากับแทบทุกสถานการณ์ยามกลางวันไม่ว่าจะทางการหรือทั่วๆ ไป ที่เน้นสร้างกลิ่นอายผู้ชายที่มีออร่าความสุขุมแลได้ทั้งความหยินหยางระหว่างโทนสว่างและดาร์กน่าค้นหาในเวลาเดียวกันแบบไม่หนักหน่วง แต่ถ้าจะใส่เพื่อกิจกรรมกลางแจ้งหรือออกกำลังกายก็ได้อยู่ แต่อาจจะไม่ได้เสริมบุคคลิกในยามแบบนั้นเท่าไหร่ ส่วนยามค่ำคืนเน้นใส่ออกงานสร้างออร่าความสมาร์ทให้ตัวเองจะลงตัวที่สุด

ความทน - อยู่ที่ 8 ชม. เป็นพื้นฐาน และไปต่อได้อีกอิงตามจำนวนสเปรย์และสภาพผิวด้วยส่วนหนึ่ง โดยส่วนตัวเจอไปที่ 12 ชม. เป็นเรื่องปกติในการใช้งาน

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น แล้วจะค่อยๆ ลดลงมาปานกลางกันยาวๆ ไปจนถึงชั่วโมงที่ 5 แล้วจะผ่อนลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัวกันไปเรื่อยๆ ก่อนจะลงเป็นติดผิวไปจุดสุดท้ายของการอยู่บนผิวตั้งแต่ชั่วโมงที่ 8 เป็นต้นไป   

สรุป - Monsieur มากับ Concept ที่ชัดเจนมากกับการนำเสนอกลิ่นอายสายไม้หอมแบบเต็มๆ 8 ชนิดที่เอามาผสมผสานกัน ซึ่งมาทุกช่วงทุกสโตรกกลิ่นแบบต้องมีไม้หอมที่ผสมผสานกันอย่างมีเสน่ห์มาก โดยจะมีความสดชื่นไล่เรียงสู่ความเป็นไม้หอมที่สร้างความเคร่งขรึมแต่ปลอดโปร่งไม่หนักไม่แน่นเกินไปจนได้ความเป็นสุภาพบุรุษที่มีเสน่ห์แบบที่เฉพาะตัว อันนี้แหละที่ต้องยอมเข้าจริงๆ ว่าไม่ธรรมดาและดีงามมากๆ ด้วย

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล สามารถเป็นได้ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่เขียน เพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นได้ทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://pierreguillaumeparis.com/en/perfume/monsieur/

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น