วันพุธที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

Review: Pierre Guillaume - PG 4.1 Le Musc & La Peau

Pierre Guillaume - PG 4.1 Le Musc & La Peau

Minimal ในความเป็นน้ำหอมในหลายๆ ครั้ง คำนี้มีเสน่ห์อย่างน่าประหลาดในความน้อยไม่ได้เยอะสิ่ง ออกไปทางเรียบง่ายเสียด้วยซ้ำ แต่ในความน้อยๆ นั้น ดันมีเสน่ห์ที่ให้ความเป็นธรรมชาติแบบตรงไปตรงมา และให้ความเรียบหรูในทีอยู่ตลอด แบบที่ไม่ต้องประโคมไม่ต้องเล่นใหญ่ แต่จับใจและจับจมูกได้อยู่หมัด เรียกว่าได้ความมากในอารมณ์ที่จับต้องได้แบบไม่ต้องพยายาม ซึ่งหลายๆ แบรนด์เองก็ทำได้ดีมากและกลายเป็น Signature ของแบรนด์นั้นๆ ไปเลยก็มี

และจับผลัดจับผลูมาได้เจอกับแบรนด์ Pierre Guillaume โดยเฉพาะในโซน Numbers Collection หรือ Parfumerie Generale เดิม ที่มักจะได้เจอความเป็นโทนที่หลากหลายและแตกต่างกันไปตามแต่ละรุ่น ก็ไปพบเข้าให้กับหนึ่งในความมินิมัลที่ Perfumer ได้แสดงฝีมือออกมา เช่นนั้นความน่าสนใจบังเกิดก็ต้องลองให้รู้และดูหน่อยสิว่าความเป็น PG ที่มีความมินิมัลจะออกมาในรูปแบบไหน กับกลิ่นนี้ PG 4.1 Le Musc & La Peau

แค่ช่วงเปิดก็บอกอะไรได้มากมายแล้วว่านี่คือมินิมอลจริงจังมาก เนื้อกลิ่นไม่ได้มีความสลับซับซ้อนอะไร แต่ให้ความเป็นโทน Musky แกมไม้หอมอบอุ่นเป็นพื้นฐานของกลิ่นกันแบบชัดเจนตั้งแต่ต้นจนจบ เพียงแต่จะมีโทนออกทางกึ่งสบู่กึ่ง Citrus มาให้ความสดชื่นพอประมาณในช่วงต้น ซึ่งนั่นก็คือการผนวกกันของมะกรูดฝรั่ง (Bergamot) และ Aldehydes ที่จะให้ความเป็นสบู่ปร่าสดชื่นหน่อยๆ โดยมีปลายกลิ่นเป็นกลิ่นติดสมุนไพรนิดๆ ของโรสแมรี่ ซึ่งโดยทั่วไปถ้า Citrus มาเจอกับ Aldehydes มักจะจะมีโทนกลิ่นที่คมพุ่ง แต่เพราะว่าโดนโทน Musk ทั้งหลายเข้ามาตัดทอน แถมมีกลิ่นไม้หอมอ่อนๆ โปร่งๆ ที่น่าจะเป็น ISO E Super แกมกลิ่นอวลๆ กึ่งไม้หอมกึ่งแอมเบอร์ของ Ambroxan เข้ามาสมทบเข้าไปอีก เลยทำให้ได้ความสมดุลย์กำลังดี มีลูกผสมที่มีความเป็นกึ่งสบู่สดชื่นเบาๆ กึ่ง Musk กึ่งไม้หอมอบอุ่นสบายๆ กันตั้งแต่เริ่มต้นเลย

ในช่วงกลางเนื้อกลิ่นจะยังคงธีมเดิมในการเป็น Woody-Ambery-Musky อยู่เช่นเดิม แต่เพิ่มเติมคือโทนกลิ่นที่มีโทนดอกไม้อ่อนๆ เข้ามาที่ติดหวานหน่อยๆ แต่ไม่ใช่ดอกไม้ขาวที่มาเสริมความข้นนวลแต่อย่าใด เพราะเป็นกระดังงาที่ให้ความหวานเย้ากำลังดีและเช่อมโทนได้ดีกับโทนไม้หอมต่างหากที่เป็นตัวสร้างความละมุนเย้ากำลังดี แถมมีไม้จันทน์หอมเข้ามาให้ความครีมมี่นวลๆ ติดกลิ่นไม้สว่างๆ ที่เป็นลูกผสมของ ISO E Super ที่ให้โทนไม้ซีดาร์ขรึมๆ ผสมผสานอยู่ในนั้น เลยโทนกลิ่นแบบสีครีมแบบผิวกายทำให้เนื้อกลิ่นปูทางไปค่อนข้างชัดเจนถึงการเป็นโทนคลอผิวที่มีความนวลสะอาดแกมไม้หอมอวลๆ ที่มีความนุ่มนวลปนเรียบง่ายให้ออร่าในลักษณะโทนสว่างระหว่างสีครีมกับเอิร์ธโทนอ่อนๆ ได้อย่างพอดิบพอดี

ในช่วงท้ายยิ่งชัดเจนเข้าไปอีกเพราะจะมาแบบการเป็น Woody-Ambery-Musky ที่เต็มตัว โดยมีโทนออกทางกึ่งวานิลลาติดครีมมี่นุ่มๆ ค่อนไปทางอัลมอนด์หน่อยๆ ที่เป็นลักษณะของถั่วตองก้าเข้ามาร่วมด้วยกลิ่นเลยยิ่งมีความอวลอบอุ่นขึ้นมาอารมณ์แบบผิวกายที่นุ่มนวลที่มีกลิ่นอวลๆ ไม้หอมกึ่งวานิลลากึ่งนมกึ่งอัลมอนด์ติดหวานเรื่อยๆ มาเรียงๆ ซึ่งต้องบอกว่าเนื้อกลิ่นมีความเรียบง่ายสูงมาก แต่ก็มีความเย้ายวนอวลละมุนที่ชวนซุก มีความเซ็กซี่แอบแฝง ที่ชวนให้ดมและสัมผัสความอบอุ่นของผิวกายอยู่ตลอดเป็นการปิดท้ายกลิ่นกันไปยาวๆ 

เหมาะสำหรับ - Unisex ที่แตะได้หมดทั้งผู้ชายและผู้หญิง ซึ่งแม้ว่ากลิ่นจะมีโทนไม้หอมโดดเด่นจนเข้าทางผู้ชายอยู่มากกว่าหน่อย แต่ก็ถือว่าใช้งานได้หมดทุกเพศที่ต้องการความเรียบง่ายที่แฝงความเซ็กซี่ชวนซุกชวนกอดชวนสัมผัสได้ไม่ยาก อารมณ์คือผลพลอยได้ประมาณนั้น ซึ่งเข้ากับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันไม่ว่าจะเป็นทางการหรือทั่วๆ ไป แต่ให้ตัดการใส่เพื่อออกกำลังกายออกไปจะดีที่สุด เพราะเนื้อกลิ่นไม่ได้กระตุ้นในเรื่องความสดชื่นนัก ส่วนยามค่ำคืนเน้นใส่แบบทั่วไป หรือใส่นอน ยิ่งถ้านอนกับคนที่รัก แล้วใส่แบบเบาๆ บอกเลยอบอุ่นเพราะโดนกอดทั้งคืนได้ไม่ยาก 

ความทน - กลิ่นทนราวๆ 8 ชม. เป็นหลัก แต่ไปต่อได้อีกซึ่งก็ว่ากันไปตามสภาพผิวกายและจำนวนสเปรย์ร่วมด้วย โดยส่วนตัวเจอที่ 12 ชม. อยู่ประจำกับการใช้งานที่ 6 สเปรย์

การกระจาย - อันนี้ต้องบอกก่อนว่ากล่นไม่ได้มาสายปล่อยพลัง เช่นนั้นพื้นฐานจะมีความเป็นโทน Skin Scent ที่เริ่มจากกระจายปานกลางประมาณ 5 นาที แล้วจะผ่อนลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัวอ่อนๆ แบบเรื่อยๆ ยาวไปประมาณ 4 - 5 ชั่วโมง แล้วจะเป็น Skin Scent ที่ตีขึ้นตามการขยับเนื้อตัว เช่นนั้นอย่าได้คาดหวังความพีคในเรื่องนี้ แต่คาดหวังเรื่องการใส่แล้วหอมน่ากอดแทนน่าจะดีกว่า

สรุป - ถือว่าเป็นสุคนธกรที่สร้างสรรค์กลิ่นได้มีความหลากหลายมากๆ ได้ทั้งปล่อยพลัง ได้ทั้งความลุ่มลึก ได้ทั้งความชิลล์ และเป็นเอกในด้านโทนหวานหรือแนวขนมที่ทำออกมาได้มีชั้นเชิงเสมอ เช่นนั้น พิสูจน์ได้เลยว่าความมินิมอลของกลิ่นใน PG 4.1 Le Musc & La Peau นั้น Pierre Guillaume ก็ก็ทำออกมาได้อย่างดีงามเช่นกัน

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล สามารถเป็นได้ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียน เพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นได้ทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://pierreguillaumeparis.com/en/perfume/le-musc-la-peau/

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น