Review: DKNY - DK Men
DKNY - DK Men
หนึ่งในรูปทรงขวดเท่ห์ขาดบาดจิตและน้ำหอมที่เรียกว่าเป็นหนึ่งใน Masterpiece ของแบรนด์ DKNY เพราะกลิ่นอายมีสไตล์และเท่ห์ที่สำคัญรุ่นนี้ Donna Karan ทำขึ้นมาเป็นน้ำหอมชายรุ่นแรกของแบรนด์ที่สื่อถึงพลัง
การแข่งรถ และ Tribute ให้สามีของเธอเอง
เช่นนั้นความยอดเยี่ยมของน้ำหอมรุ่นนี้จะเป็นยังไงบ้าง ได้เวลามาพิสูจน์
DK Men ได้ปล่อยออกมาในปี
1994 และได้หยุดผลิตไปช่วงนึงและกลับมาในรูปลักษณ์ใหม่กับขวดทรงตั้งเป็นแท่งในชื่อรุ่นใหม่ที่แน่นอนปรับสูตรกับ
Fuel for Men ในปี 2008 ดังนั้น Review
นี้จะเล่าในความเป็น DK Men เต็มๆ
โดยไม่รวมเอาอัตลักษณ์ที่มาแบบเก่าเคล้าใหม่ของ Fuel for Men มาแต่อย่างใด ซึ่งเนื้อกลิ่นก็เริ่มต้นตามนี้เลย
Top Notes เปิดมาก็เท่ห์กันเลยทีเดียวกับกลิ่นโทนผลไม้อย่างสับปะรดที่จะมีโทน
Citrus บางๆ พอให้รู้สึกเบาๆ แต่จะมีกลิ่นอายควันไอผสมหนังขึ้นมา
ที่เข้มจนทำให้รู้สึกเป็นโทนสีดำติดกลิ่นอายแบบอู่รถกับเบาะหนังของรถชัดเจน
ซึ่งกลิ่นโทนผลไม้จะคลอเคลียไปกับความเป็นกลิ่นอายเท่ห์แมนจัดๆ
ได้ลงตัวมาก ซึ่งกลิ่นจะมีความนวลขึ้นให้สัมผัสได้จนนำเข้าสู่ Middle
Notes ที่กลิ่นของผลไม้กับโทนหนังจะยังอยู่
แต่ความนวลจะมาลดทอนความเข้มในตอนแรกลงให้มีกลิ่นติดโทนแป้งหอมซึ่งมาจากกลิ่นของอัลมอนด์กับโทนดอกไม้เบาๆ
กลายเป็นกลิ่นที่นุ่มมากขึ้นโดยไม่ได้ทิ้งความแมนเท่ห์ของกลิ่นลงไปแต่อย่างใด
ให้อารมณ์แบบแป้งและสบู่กลั้วกลิ่นหนังที่หอมเมีเสน่ห์มาก
ซึ่งในช่วงนี้กลิ่นจะมีความอบอุ่นเสริมเข้ามาด้วยเช่นกันจนส่งต่อให้กับช่วง
Base Notes ที่กลิ่นหนังจะมาผสมผสานกับกับกลิ่น Musk
ที่เข้ามาเทคโอเวอร์ กลิ่นจะมีความเป็นติดสาปปลุกเร้าแมนเท่ห์แต่เซ็กซี่แบบโทน
Animalic กำลังดี โดยที่จะมีความเป็นไม้หอมอบอุ่นเสริมเข้ามา
พร้อมกับมีกลิ่นโทนแป้งอัลมอนด์ผสมผสานวานิลลากลั้วกลิ่นติดนุ่มสะอาดของลาเวนเดอร์ที่ทำให้กลิ่นไม่ได้ออกทางย้อนยุคแต่ประการใด
กลิ่นมีพลังแบบออร่ารอบๆ ที่ให้ความเท่ห์ เซ็กซี่ และอบอุ่นดึงดูดคาบเกี่ยวกันไปในตัว
แถมมีความไล่เรียงโทนกลิ่นที่มีมิติสื่อสารถึงความเป็นผู้ชายได้ชัดเจน
เหมาะสำหรับ -
ผู้ชายทุกเพศวัยทำงานขึ้นไป อาจจะผ่านน้ำหอมโทนหนังหรือแนวๆ
ควันไอมาบ้างจะฟินกับกลิ่นนี้ได้ไม่ยาก ซึ่งสามารถใส่ได้ในหลายๆ
สถานการณ์ยามกลางวันไม่ว่าจะเป็นทางการ เพราะกลิ่นไม่ได้ออกทางเซ็กซี่จัดๆ
แต่มีความอบอุ่นภูมิฐานแบบแมนๆ เสริม รวมถึงสถานการณ์ทั่วๆ
ไปที่ใส่เสริมความเท่ห์ได้ เพียงแต่ว่าอาจจะไม่ได้เข้ากับการออกกำลังกายมากนัก
นอกจากนี้สามารถใส่ยามกลางคืนได้เลย ไม่ว่าจะใส่ไปจิบเบียร์ ท่องราตรี
หรืออยู่กับแฟน เพราะกลิ่นให้ความเซ็กซี่อบอุ่นสมความเป็นชายจึงจะสร้างเสน่ห์ได้ลงตัวมากจริงๆ
ความทน -
อยู่ที่ประมาณ 8 ชม.
เป็นสำคัญซึ่งกลิ่นอาจจะทนมากกว่านั้นอิงตามจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีด
โดยส่วนตัวเจอไปที่ 12 ชม. สบายๆ กับจำนวนสเปรย์ 6 สเปรย์
การกระจาย -
กลิ่นกระจายดีในตอนต้น ก่อนจะลดลงมากระจายปานกลาง และปิดท้ายด้วยออร่ารอบๆ
ตัวชวนให้เข้ามาใกล้ๆ
ทิ้งท้าย -
แน่นอนว่ากลิ่นมีความเหนือกาลเวลาชัดเจน เพราะมีความเท่ห์แบบติด Modern ได้ลงตัวมาก สมกับการเป็น Masterpiece
ของแบรนด์นี้ ที่สำคัญรุ่นที่เป็นขวดทรงเกียร์รถแข่งแบบนี้หาไม่ได้ง่ายๆ
แล้วเพราะเลิกผลิตไปแล้ว และเข้าข่ายการเป็น Vintage แล้วล่ะครับ
ใครมีครอบครองถือว่าคุณได้เพชรเม็ดงามทางด้านกลิ่นในมือกันเลยทีเดียว
หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง
ถ้าผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ รบกวนติดต่อเพื่อขอเป็นลายลักษณ์อักษรและผมต้องอนุญาตก่อน
ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้แบบไม่ได้ขอกันก่อนดีๆ
ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ
Credit ภาพ
– http://ep.yimg.com/ay/yhst-87074699935963/dk-men-cologne-by-donna-karan-3-piece-set-1-7-oz-eau-de-toilette-spray-1-0-oz-aftershave-athletic-shorts-for-men-9.jpg
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น