วันพฤหัสบดีที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2559

Review: Natural Teller – Period of Time

Natural Teller – Period of Time

เมื่อได้เปิดศักราชการบอกเล่าถึงน้ำหอม Niche แบรนด์ไทยเน้นสายอาร์ตอย่าง Natural Teller ในรุ่น Under the Rain ไปแล้ว ก็ได้เวลาของรุ่นต่อไปบ้างว่าศิลปะการเล่าเรื่องผ่านน้ำหอมของรุ่นนี้จะออกมาในรูปแบบไหน และจะสื่อสารผ่านกลิ่นออกมาด้วยลักษณะใด

มองจากภาพวาดบนกล่องถือเป็นการเล่าเรื่องกันก่อนที่จะเริ่มฉีดน้ำหอมได้เลยทีเดียว ซึ่งกลิ่นจะต้องมีลักษณะที่ทำให้เรารำลึกถึงช่วงเวลาที่ผ่านไปและการจากลาเป็นแน่แท้ พอเริ่มฉีดกลิ่นแรกที่มาทักทายกันก่อนเลยกลิ่นอายของ Iris ซึ่งจะตีคู่กับกับกลิ่นของหัว Orris ที่เป็นเหง้าใต้ดินของต้นไอริส กลิ่นที่ได้จะมีความทึบก็จริง แต่จะรู้สึกได้ถึงความติดฉ่ำจางๆ เพียงแต่กลิ่นจะไม่ได้ออกทางหัวเหง้าใต้ดินแบบอับชื้น เพราะในเนื้อกลิ่นจะมีวูบของความเป็นผลไม้อมหวานแห้งๆ ให้รู้สึกได้อยู่ กลิ่นในช่วงนี้จะมีความชัดเจนมาก และกลิ่นโทน Iris กับ Orris จะอยู่ยาวไปจนถึงช่วงท้ายเลยทีเดียว โดยเมื่อเข้าช่วงกลางกลิ่นจะเริ่มเป็นช่วงความเข้มกับความนิ่งที่จะเริ่มเข้ามาหากันทีละน้อยจนเป็นหนึ่งเดียว เพราะความเข้มในตอนแรกจะลดลงมากำลังดีให้อารมณ์ความเป็น Iris ที่มีความเป็นแป้งก็จริง แต่จะมีกลิ่นออกทางโทน Incense ที่เป็นธูปยางไม้เสริมเข้ามาทำให้กลิ่นเริ่มมีความนิ่งและสุขุมมากขึ้น เลยจะได้ความรู้สึกแบบกลิ่นที่โปร่งมากขึ้นเรื่อยๆ จนเข้าช่วงท้ายที่กลิ่นโทน Iris กับ Orris จะเบาบางลงไปเคล้ากับกลิ่นไม้หอมติดแห้งๆ อย่างซีดาร์ที่มาเสริมโทน Incense ที่ยังพอจับได้อยู่ และจะมีกลิ่นออกทางคล้ายผิวกายติดเค็มบางๆ เสริมเข มาด้วย เลยจะทำให้กลิ่นของช่วงนี้กลายเป็นโทน Airy Iris ที่จะเบาบางมาสาย Safe Scent ที่ขยับเนื้อตัวทีกลิ่นจะลอยมาให้รับรู้ที ภาพรวมของเนื้อกลิ่นทั้งหมดเลยจะสามารถต่อยอดจากภาพที่หน้ากล่องได้เลยว่ามันคือช่วงเวลาที่เราต้องผ่านมา โดยเฉพาะการจากลาและความสูญเสียที่จะฝังลงไปในความทรงจำเริ่มจากเข้มข้นลดหลั่นลงมาเรื่อยๆ แต่มันไม่ได้หายไป เห็นอะไรสะกิดขึ้นมาความทรงจำนั้นก็จะผุดขึ้นมาอีก เพียงแต่จะไม่ได้เข้มข้น เพราะ “เวลาได้ช่วยเยียวยาจิตใจ” ของเราไปแล้ว

เหมาะสำหรับ ทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไปได้เลย เพราะมาสาย Unisex และยังเป็นโซนปลอดภัยที่เข้าถึงได้ง่าย สุภาพ และไม่รบกวนใคร โดยสามารถใส่ได้ในแทบทุกสถานการณ์ยามกลางวันไม่ว่าจะงานทางการหรือทั่วๆ ไป กลิ่นไม่ได้มาสายแบบเศร้าสร้อยเกินไปจนดูหดหู่ เพราะมันมีความโปร่งพอที่ให้ความเรียบนิ่งไปด้วยในตัว เพียงแต่อาจจะไม่ค่อยเข้ากับการใส่เพื่อออกกำลังกายนัก ถ้าจะใส่รอช่วงท้ายๆ จะดีกว่า ส่วนยามค่ำคืนเรียกว่าใส่เพื่อออกแนวนิ่งเรียบทั่วๆ ไปจะดีที่สุด กลิ่นไม่ได้มาทางเซ็กซี่เลยและใส่ไปท่องราตรีก็โดนคนอื่นกลบหมด

ความทน อยู่ที่ราวๆ 6 – 8 ชม. โดยประมาณ

การกระจาย มาสาย Safe และ Skin Scent เช่นนั้น กลิ่นจะกระจายปานกลางในตอนต้น แล้วจะลดลงมากระจายแบบออร่ารอบๆ ตัวในช่วงกลาง แล้วจึงเป็นกลิ่นแนวอากาศบางเบามีความเป็น Skin Scent ที่จะตีขึ้นยามร่างกายขยับตัวนั่นเอง

ทิ้งท้าย เรียกว่ากลิ่นนี้เป็นกลิ่นที่มาสายเรียบติดขรึมสุภาพแบบ Airy ที่มาสาย Soft แต่มีความซับซ้อนในเนื้อกลิ่นให้รู้สึกแบบนิ่งงันได้ดีมาก เข้าทางกลิ่นสร้างอารมณ์ได้ดีเลยทีเดียว ที่สำคัญกลิ่นนี้ถือเป็นกลิ่นที่เมื่อดมได้ดมแล้ว ตัดสินใจซื้อมาทันทีเพราะความซึมลึกแบบน้อยแต่ได้มากของเรื่องราวผ่านกลิ่นที่เห็นเป็นภาพในหัวเป็นฉากๆ เลยล่ะครับ

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ถ้าผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ รบกวนติดต่อเพื่อขอเป็นลายลักษณ์อักษรและผมต้องอนุญาตก่อน ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้แบบไม่ได้ขอกันก่อนดีๆ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ขอแจ้งว่า -เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ-


Photo by เข็มขัดสั้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น