วันพุธที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2559

Review: Santa Maria Novella – Alba di Seoul

Santa Maria Novella – Alba di Seoul

ห่างหายจากแบรนด์นี้ไปนานมากหลังจากได้มีโอกาสได้ลองตัว Nostalgia ที่เป็นกลิ่นอายแบบสนามแข่งรถไป ก็ได้มีโอกาสกลับมาได้ลองน้ำหอมน่าสนใจจากแบรนด์ Niche จากอิตาลีอย่าง  Santa Maria Novella อีกครั้งกับกลิ่นอายทีได้แรงบันดาลใจมาจากกรุงโซลของเกาหลีใต้กับชื่อว่า Alba di Seoul “รุ่งอรุณของกรุงโซล” ซึ่งจะออกมาในลักษณะไหนกับการเป็นแบรนด์อิตาลีที่ไปแตะความเป็นเกาหลีต้องพิสูจน์

เปิดตัวได้ชัดเจนมากกับการเป็นกลิ่นอายที่มีความเขียวที่โปร่งก็จริง แต่ในเนื้อกลิ่นมีความชัดเจนมากกับการเป็นกลิ่นอายที่หวานข้นเครื่องเทศข้นรองพื้นชัดเจนและคงตัวแบบลากยาวไปจนถึงช่วงท้ายเสียด้วย เรียกว่าเป็นส่วนผสมของกลิ่นเขียวอมหวานติดเข้ม ที่สำคัญจับได้ถึงกลิ่นอายผลไม้แนวๆ หวานผสมเข้ามา บางทีไพล่ไปรู้สึกถึงกลิ่นแบบเมนทอลเสียด้วย แต่ยังพอมีความโปร่งให้รู้สึกได้ไปตลอดแบบที่เนื้อกลิ่นออกแนวเย็นๆ หลังจากนั้นกลิ่นจะเริ่มมีความเป็นกลิ่นเรซิ่นยางไม้แบบจะแทรกขึ้นมาและเข้าสู่ช่วงกลางแบบรวดเร็วมากกับกลิ่นเขียวในช่วงต้นจะมาผสมผสานกับไม้หอมที่เสริมเข้ามาด้วยเนื้อกลิ่นจะมีความเป็นไม้ซีดาร์ผสมกับความเป็นเรซิ่นยางไม้ที่มาจากสนไพน์กลิ่นเริ่มมีความอบอุ่นให้รู้สึกได้มากขึ้น กลิ่นโทนเครื่องเทศยังรองพื้นอยู่เนื้อกลิ่นเริ่มออกทางไม้หอมที่มีความหวานนวลข้น แต่สิ่งที่ยังรู้สึกได้คือ กลิ่นยังมีความรู้สึกเย็นๆ สะอาดๆ อยู่ จนเมื่อเข้าสู่ช่วงท้ายกลิ่นไม้หอม เรซิ่นยางไม้ และกลิ่นแนวเครื่องเทศโทนหวานจะผสมผสานกันทำให้กลายเป็นกลิ่นโทนสบู่หอมข้นติดหวาน เนื้อกลิ่นมีความอบอุ่นเบาๆ กลิ่นจะได้อารมณ์แบบหอมหวานติดสะอาดอยู่ กลิ่นไม้ติดเรซิ่นยังคงชัดเจน ได้อารมณ์แบบเดินผ่านต้นไม้และได้กลิ่นหอมหวานสะอาดกลั้วกลิ่นสบู่ท่ามกลางอากาศเย็นๆ นั่นเอง

เหมาะสำหรับ - Unisex เลยเข้ากับทั้งหญิงและชาย แต่อาจจะไพล่มาทางผู้ชายมากกว่าประมาณ 60% เพราะกลิ่นโทนยางไม้กลั้วไม้หอมมันแอบติดแมนนิดนึง โดยสามารถใช้ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันไม่ว่าจะทางการหรือทั่วๆ ไป กลิ่นนี้แม้ว่าจะนุ่มข้นเคล้าความโปร่ง แต่ก็ไม่ได้เข้าทางกับการออกกำลังกายนัก เพราะไม่ได้มาสายสดชื่นจ๋ามาขนาดนั้น ส่วนยามค่ำคืนก็สามารถใช้งานได้แบบทั่วๆ ไปเพราะกลิ่นจะออกหวานติดข้นสบู่แต่มีความสะอาดกำลังดี กลิ่นไม่ได้มาสายยั่วแต่ประการใด เช่นนั้นถ้าคิดจะใส่ไปปล่อยของเกรงว่าอาจจะไม่ได้ช่วยอะไรมากนักก็เท่านั้นเอง

ความทน
- อันนี้เรียกว่าต้องยกนิ้วให้ เพราะน้ำหอมรุ่นนี้เป็น  Eau de Cologne แต่มีความทนพอๆ กับ EDP เลยทีเดียว เพราะพื้นฐานจะอยู่ที่ 8 ชม. เป็นต้นไปเลย โดยส่วนตัวใส่กับวันอากาศร้อนๆ เหงื่อซึมทั้งวัน กลิ่นลากยาวถึง 12 ชม. เลยทีเดียว เรียกว่ามีความดีงามจริงๆ ก็ตรงนี้

การกระจาย
- กลิ่นกระจายดีในตอนต้นแล้วลากยาวไปเรื่อยๆ จนถึงต้นช่วงท้ายเลย ก่อนจะกลายเป็นออร่ารอบๆ ตัวหวานข้นสบู่สะอาดไปเรื่อยๆ พอพ้นราวๆ 10 ชม. ไปแล้วจะกลายเป็น Skin Scent ติดผิวชัดเจน ถ้าลองเอาน้ำแตะๆ ตรงจุดฉีด กลิ่นจะปรากฎออกมาอีกด้วยซ้ำ

ทิ้งท้าย - ตอนที่ดมผ่านๆ กับตัวนี้มันจะได้อารมณ์ป่าสนไพน์หอมหวานท่ามกลางอากาศเย็นๆ มาก เพราะเราจะยังจับได้แค่เฉพาะช่วงต้นๆ เอง พอมาเจอช่วงอื่นๆ เรียกว่าเงิบ ต้องเปลี่ยนความคิดกันเลยทีเดียว เพราะเอาจริงๆ กลิ่นมีความข้นแบบสบู่ติดไม้หอมกลั้วเรซิ่นมากกว่าความเป็นป่าสนเสียอีก ออกแนวเหมือนเดินผ่านสวนหรือต้นไม้เสียมากกว่ากับกลิ่นอายสบู่หอมหวานนั่นเอง

หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review
นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ถ้าผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ รบกวนติดต่อเพื่อขอเป็นลายลักษณ์อักษรและผมต้องอนุญาตก่อน ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้แบบไม่ได้ขอกันก่อนดีๆ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น