Molinard - Patchouli Eau de Parfum
สิ่งหนึ่งที่ประทับใจในการได้สัมผัสน้ำหอมแบรนด์ Molinard ในแต่ละครั้งคือ การสอดแทรกกลิ่นอาย Traditional สไตล์ฝรั่งเศสที่จะมีโทนสมุนไพรเนียนๆ ให้จับต้องได้ในแทบทุกรุ่น และมีความ Timeless เหนือกาลเวลาในการใช้งานที่ไม่ร่วมสมัยอยู่ตลอดสมกับที่เป็นแบรนด์เก่าแก่ของฝรั่งเศส และพอมองย้อนไปในการได้ใช้งานเต็มๆ ส่วนตัว มักจะเจอรุ่นที่มีพิมเสนเป็นองค์ประกอบหนึ่ง (ทั้งแบบองค์ประกอบหลักและองค์ประกอบรอง) เสมอ
เช่นนั้น ครั้งนี้ก็จะมาเจอพิมเสนของแบรนด์นี้เช่นเดิม ซึ่งจากที่เคยผ่านการเล่ากลิ่นไปตั้งแต่ราวๆ 3 ปีที่แล้วกับการชูโรงกลิ่นพิมเสนใน Collection: Les Orientaux ที่ความเข้มข้นเป็น EDT จนปัจจุบันนี้เลิกผลิตและอัพเกรดมาเป็น Collection: Les Elements ที่นำเสนอความเข้มข้นเป็น EDP หมดแล้ว แน่นอนต้องเอามาลองสิ จะได้รู้ว่าแตกต่างหรือคงความดีงามของเดิมเอาไว้ และเมื่อตกผลึกได้ที่ก็เล่ากลิ่นออกมาได้แบบบนี้เลย
Molinard EDP เปิดตัวกับการเป็น Top Notes ที่ดึงความเป็นพิมเสนขึ้นมาเด่นตั้งแต่แรกสุด และจะเป็น Center Note ที่อยู้ยั้งยืนยงและยาวไปจนถึงช่วงท้ายของน้ำหอมเลย โดยที่จะมีกลิ่นอายเป็นพิมเสนที่ติดปร่าและมีความดิบแบบกำลังดีและมีความเป็นสาย Herbal ชัดเจน แกล้มกับความสดชื่นติดเขียวอารมณ์แบบกลิ่นก้านกุหลาบหรือน้ำในแจกันกุหลาบหน่อยที่เป็นลักษณะเด่นของเจอราเนียมแบบที่มาติดชื้นๆ กำลังดี และมีความติดเขียวสดชื่นลูกผสมระหว่างกลิ่นโทนดอกส้มที่มีปลายกลิ่นออกทางดอกไม้ขาวนิดๆ และมีกลิ่นออกทาง Citrus ที่จับต้องได้ถึงกลิ่นแนวๆ คล้ายเปลือกส้มที่ให้ห้ความขมติดเปรี้ยวอมหวานสดชื่นเจือรื่นรมย์อะโรม่าอ่อนๆ เป็นตัวสร้างบรรยากาศให้เนื้อกลิ่น เลยทำให้ช่วงต้นจะได้อารมณ์แบบเดินไปสวนพิมเสนแบบอากาศโปร่งๆ ที่มีความดาร์กของพิมเสนตามธรรมชาติให้จับต้องได้ประปราย
เมื่อโทนกลิ่นสดชื่นต่างๆ เริ่มจางลง ก็ได้เวลาของ Middle Notes ที่พิมเสนจะเป็นตัวหลักในการเดินกลิ่นที่โดดเด่นมาก และมีพัฒนาการจากช่วงต้นมาสู่โทนกลิ่นอายแบบติดสมุนไพรแห้งที่มีอารมณ์กลิ่นคล้ายดาร์กโกโก้ติดปลายกลิ่นเฉพาะตัว ซึ่งบางวูบความคุ้นเคยตามประสบการณ์อาจจะได้อารมณ์ยาจีนสมุนไพรแห้งๆ หวานปร่าให้รู้สึกได้ด้วยแบบรุ่น EDT ที่โทนนี้จะโดดเด่นได้แนว Oriental มาก แต่ภาพรวมของ EDP กับลดทอนตรงนี้ลงแต่เสริมความ Earthy ติดดินๆ แห้งๆ มีความดาร์กเย้าดึงดูดเฉพาะ กลิ่นเลยจะมีความอวลสมุนไพรแห้งๆ ของพิมเสนที่มีความลุ่มลึกและน่าค้นหาแบบเป็นอีกมุมที่พิมเสนสื่อสารกลิ่นลักษณะนี้ได้ดีมาก และมีโทนกลิ่นออกทางไม้หอมเจือเจอราเนียมที่ตามมาจากช่วงต้นแบบให้บรรยากาศกึ่งกุหลาบติดเขียวบางๆ สนับสนุนให้มีมิติสดชื่นอ่อนๆ อยู่ ซึ่งต้องบอกเลยว่าใครที่ชอบกลิ่นเสนแห้งที่ลุ่มลึกมีหลากอารมณ์ในความน่าค้นหาเฉพาะตัว ช่วงนี้จะตอบโจทย์ได้ชัดเจนมากจริงๆ จนเมื่อเริ่มจับต้องได้ว่ามีกลิ่นโทนออกทาอบอุ่นหน่อยๆ ติดวานิลลาเบาๆ เสริมขึ้นมาอารมณ์กึ่งๆ แอมเบอร์หน่อยๆ ที่ทำให้กลิ่นมีความอบอุ่น โทนกลิ่นก็ปรับตัวเข้าสู่ Base Notes ที่พิมเสนจะลดทอนตัวเองลงมาสร้างความลุ่มลึกติดปร่าระเรื่อเช่นเดิม แต่เพิมเติมความกรุยกรายและดาร์กน่าค้นหามากขึ้น ซึ่งนอกจากจะมีกลิ่นกึ่งวานิลลากึ่งแอมเบอร์หน่อยๆ ที่มาแบบตัวสนับสนุนรองแล้ว ตัวที่เด่นออกมาชัดเจนพอสมควรเลยคือไม้จันทน์หอมที่จะไม่ได้มาแบบนวลๆ ครีมๆ นัก แต่มาแบบติดไม้หอมเย้ากลั้วด้วยความดาร์กกรุยกรายของ Oak Moss โดยพื้นกลิ่นจะมีโทน Musk เสริมให้กลิ่นมีความนวลอวลกำลังดีร่วมด้วย ซึ่งเติมเต็มให้กลิ่นนี้มีความเป็นโทน Chypre หรูหราแกมเย้ายวนนิ่งๆ มีพลังได้ชัดเจนมาก และอารมณ์กลิ่นจะได้ลักษณะแบบพิมเสนน่าค้นหาติดโทน Vintage ที่มีความร่วมสมัยกำลังดีไม่ได้ชี้ไปในโทน Retro แต่อย่างใด
เปรียบเทียบ - รุ่น EDT จะมีความสว่างและมีอารมณ์ Oriental ค่อนไปทางโทนสมุนไพรที่มีเสน่ห์ แต่ EDP จะมีความดาร์กลุ่มลึกและมีความเป็น Earthy ติดดินแห้งๆ มากกว่า ในพื้นฐาน Notes กลิ่นที่เหมือนกันแต่ต่างกันที่ความเข้มข้น
เหมาะสำหรับ - Unisex ที่แอบค่อนไปทางผู้หญิงมากกว่านิดนึง แต่ไม่ได้เป็นโทนสาวๆ จัดจ้านจนเป็นนัยยะสำคัญอะไรที่ผู้ชายจะใช้ไม่ได้ กลิ่นมีภูมิ มีความขลังขรึมมีเสน่ห์สไตล์ Exotic กำลังดี ซึ่งทำให้สามารถใช้ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันไม่ว่าจะเป็นทางการหรือทั่วๆ ไปแบบเน้นวางตัวดี แต่ให้ตัดเรื่องการใส่เพื่อกิจกรรมลุยๆ กลางแจ้งหรือว่าออกกำลังกายไปได้เลย เพราะไม่เข้าทางแต่อย่างใด ส่วนยามค่ำคืนเหมาะมากกับการใส่ออกงานสร้างอารมณ์สุภาพบุรุษหรือสุภาพสตรีที่มีความน่าค้นหาและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในความนิ่ง แต่ถ้าใส่ไปท่องราตรีมันอาจจะดูแปลกไปนิดนึง เพราะไม่ได้เย้ายวนโต้งๆ ขนาดนั้น ยกเว้นมั่นใจก็จัดไป
ความทน - กลิ่นทนดีงามเกินคาดกับพื้นฐาน 8 - 10 ชม. เป็นเรื่องปกติที่เจอ และลามไปยังข้ามขึ้นอาบน้ำแล้ว 2 ครั้งกลิ่นก็ยังติดผิวอยู่ก็บ่อยครั้ง เรียกว่าดีงามในเรื่องนี้เลยทีเดียว
การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น และให้ความเสถียรกันราวๆ 1 ชม. ได้ ก่อนที่จะลดลงมาปานกลางกันไปเรื่อย แล้วผ่อนตัวลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัว ก่อนจะติดผิวเมื่อผ่านไปซัก 8 ชม. แล้ว
สรุป - ดีคนละแบบกับตัว EDT ที่จะเน้นเป็นพิมเสนติดสมุนไพรกึ่งยาจีนที่ให้ความเป็นสีน้ำตาลติดโทนสว่าง แต่ EDP จะให้ความลุ่มลึกกรุยกรายน่าค้นหาที่มีพลังรุมๆ อวลรอบตัวอย่างมีชั้นเชิง โดยคุมโทนได้ดีกับการเป็นพิมเสนที่ส่งต่อเสน่ห์เฉพาะตัวออกมาได้เป็นธรรมชาติและดีงามอย่างสมดุลย์ ถือเป็นอีกหนึ่งความงามทางกลิ่นของแบรนด์นี้เลยล่ะ
หมายเหตุ:
1.
บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล
ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”
Photo
Credit - https://www.parfumeriemarierose.be/fr/patchouli-75932081.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น