วันพฤหัสบดีที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2565

Review: Hilde Soliani - Fraaagola Saalaaata

Hilde Soliani - Fraaagola Saalaaata

ในแวดวงน้ำหอมสาย Niche Perfume ที่ค่อนไปทาง Indie Perfume จะมี Perfumer ชาวอิตาลีอยู่ 1 คน ที่หลายๆ คนให้สมญานามกับเธอว่า Queen of Gourmand กันเลย เพราะว่ากลิ่นต่างๆ ที่ได้สร้างสรรค์ออกมามีพื้นฐานจากกลิ่นแนวอาหาร เครื่องดื่ม และขนมหวานต่างๆ ที่เรียกว่าเกินคาดและมีชั้นเชิงอย่างมากจริงๆ ในการนำเสนอ ซึ่งถึงกลับมีน้ำหอมกลิ่นหอยนางรมอบเนยได้เนี่ย ไม่ธรรมดาแน่นอน และเธอคนนี้้ก็คือ Hilde Soliani

ซึ่งในแต่ละกลิ่นที่สร้างสรรค์ออกมาต่างก็มีคาแรคเตอร์ที่ชัดเจนมากในการสร้างความแตกต่างโดยอิงเอาความเป็นธรรมชาติของกลิ่นแนว Gourmand นั้นๆ มาเป็นจุดแข็ง และจะมีการปรับนิดปรับหน่อยให้กลายเป็นน้ำหอมที่ใช้งานได้และมีความเก๋เฉพาะตัว ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งในความน่าตื่นตาตื่นจมูกในการดมกลิ่นอย่างมาก และเมื่อสบโอกาสได้เจอกับแบรนด์นี้ในช่วงที่อยากได้น้ำหอมกลิ่นสตรอว์เบอร์รี่ที่ผู้ชายสามารถใช้งานได้อยู่พอดี ความสมพงษ์กันจึงมาลงที่แบรนด์นี้จนได้กับกลิ่น Fraaagola Saalaaata ที่จะสื่อสารถึงความเป็นสตรอว์เบอร์รี่แบบชัดๆ จัดให้เต็มๆ เช่นนั้น มาพิสูจน์ความหอมกันหน่อย ว่าจะออกมาในรูปแบบไหน

เปิดต้นกลิ่นมาในช่วงต้นราวๆ 3 นาทีแรก นี่คือการนำเสนอกลิ่นสตรอว์เบอร์รี่สดที่ค่อนข้างชัดเจนมากวูบขึ้นมาทักทายก่อนที่จะมีมิติกลิ่นมาสนับสนุนอย่างโทนราสเบอร์รี่นิดๆ มีความเป็นเบอร์รี่สีแดงหน่อยๆ ที่มีความหวามอมเปรี้ยว แกมกลิ่นติดเขียวนิดๆ ที่เป็นธรรมชาติ ก่อนที่จะมีกลิ่นเกลือเสริมขึ้นมาให้ความเค็มแฝงเนียนๆ อารมณ์สตรอว์เบอร์รี่สดหวานฉ่ำที่จะเป็นการจิ้มเกลือก็ได้ หรือจะเป็นกลิ่นไอเกลือเค็มๆ ก็สามารถ ซึ่งถือว่าเป็นการเอาเกลือมาตัดทอนความหวานอมเปรี้ยวหอมได้เหมาะสมในช่วง 5 นาทีแรกได้ดีและกลิ่นน่ารักสดใสเชียว

เมื่อเข้าสู่รอยต่อก่อนเข้าช่วงกลางสิ่งที่ชัดเจนขึ้นมาคือความหวานแกมไซรัปจะชัดขึ้นตามลำดับและปรับโทนเข้าสู่ช่วงกลางในการเป็นกลิ่นแนว Candy หรือลูกอมรสสตรอว์เบอร์รี่ที่ชัดเจนมากขึ้น เพียงแต่มิติกลิ่นจะไม่ได้เป็นลูกอมจ๋าๆ อย่างเดียว ยังให้อารมณ์ฉบบน้ำสตรอว์เบอร์รี่สดที่มีความเข้มข้นสูง ค่อนไปทางไซรัปสตรอว์เบอร์รี่มาแบบชัดเจนเลย โดยที่ยังมีกลิ่นออกทางเกลือมาตัดทอนอยู่ไม่ให้หวานเยิ้มเกินไป และที่สำคัญคือเนื้อกลิ่นมีความหนาขึ้นมาอีกหนึ่งสเต็ปเพราะจับต้องได้ถึงกลิ่นออกทางดอกไวโอเล็ตที่ให้ความหวานโปร่งๆ แกมแป้งและกลิ่นออกทางเครื่องเทศโทนหวานโปร่งคล้ายชะเอม ซึ่งกลิ่นจะแบ่งภาคและส่งเสริมกันอย่างชัดเจนมากในการเป็นกลิ่นสไตล์ Candy แกมเครื่องดื่มสตรอว์เบอร์รี่แบบที่คนชอบกลิ่นหวานใสแกมโปร่งที่มีมิติจะอินได้ไม่ยากเลย

การเข้าสู่ช่วงท้ายความเป็นสตรอว์เบอร์รี่ยังคงอยู่แต่จะเป็นกลิ่นแนวลูกอมแกมไซรัปชัดเจนแล้ว (อารมณ์แบบลูกอมสตรอว์เบอร์รี่ละลายด้วยความร้อนแล้วกลิ่นฟุ้งออกมาแนวๆ นั้น) แต่พื้นกลิ่นจะมีความเป็นกลิ่นออกทางวานิลลาแบบเบาๆ แกม Musk ที่มีความเค็มของเกลือมาผสมผสานเลยทำให้กลิ่นยังมีมิติที่เป็นโทนหวานใสไซรัปแบบไม่ได้แหลมคมเกินไปแต่เมื่อดมใกล้ๆ ก็มีความหวานนวลครีมมี่แบบไม่หนัก มำให้กลิ่นครบถ้วนมากๆ ในการเป็นโทน Sweet Gourmand แบบสมดุลย์ แม้จะมีความจัดจ้านในความเป็นสตรอว์เบอร์รี่แต่ก็ไม่ได้หวานหนักจนไปสายวานิลลาขนมหวานเกินไป ถือว่าเป็นการปิดท้ายได้หวานหอมน่ารักก็ได้ สดใสก็ดี และเป็นกลิ่นแนวเก๋ๆ ที่หลุดกรอบ Designer Gourmand ทั้งหลายก็ใช่ อีกทีตรงนี้ว่า “ฝีมือสุคนธกรคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ”   

เหมาะสำหรับ - Unisex แต่ค่อนไปทางผู้หญิงถึง 80% ได้เลยเพราะว่าเนื้อกลิ่นให้ความหวานและมีโทนสตรอว์เบอร์รี่ที่จะเข้ากับผู้หญิงมากกว่า แต่ถ้าผู้ชายจะใช้ก็ไม่ติด เพราะมันก็ไม่ได้สื่อถึงความเป็นผู้หญิงจ๋าจนต้องแต่งหญิงใส่กลิ่นนี้ซักหน่อย และได้หมดตั้งแต่วัย ม.ปลาย เป็นต้นไป ซึ่งเข้ากับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันแบบจำนวนสเปรย์เหมาะสมเพราะว่ากลิ่นหวาน ไม่ว่าจะทั่วๆ ไปหรือใส่ทำงาน Office รวมถึงชิลล์ๆ ต่างๆ แต่สิ่งที่ควรตัดไปได้เลยก็คือ ยามทางการกับออกกำลังกาย เพราะไม่ได้ในเรื่องความสุขุมส่งเสริม รวมถึงหวานเกินไปกับการออกกำลังก่ยที่อาจจะทำให้อึดอัดเอาได้ ส่วนยามค่ำคืนได้ใส่ท่องราตรีหรือว่าชิลล์ๆ น่ารัก รวมถึงไพล่ไปทางโรแมนติคก็ได้เลย ให้ความเยาว์วัย น่ารัก และหวานหอมลงตัว

ความทน - อันนี้ยกให้เลยที่ 12 ชม. เป็นพื้นฐาน และสามารถไปต่อได้อีกเพราะส่วนตัวหลายๆ ครั้งก็เจอที่ 15 ชม. เลย ซึ่งถ้าตีเป็นค่าเฉลี่ยตามแต่ละสภาพผิว ก็ 8 ชม. ได้สบายมาก

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมากเรียกว่าเปิดมาก็สตรอว์เบอร์รี่อยู่รอบตัวเราสุดๆ แถมความหวานก็ครอบคลุมเราตัวเราทั้งหมดอีกด้วย แล้วเพียงราวๆ 10 นาทีก็จะทยอยๆ ลดลงมาที่กระจายดีไปซักราวๆ 1 ชม. ก่อนจะคงตัวที่ปานกลางไปจนถึงชั่วโมงที่ 6 ก่อนที่จะเป็นออร่ารอบๆ ตัวกันยาวๆ ไป จนจะเป็น Skin Scent จริงๆ ก็ผ่านไป 12 ชม. แล้วราวๆ นั้น

สรุป - กลิ่นนี้คือการเล่ากลิ่นสตรอว์เบอร์รี่ในหลากหลายมิติโดยยืนพื้นที่กลิ่นแนว Candy กึ่งไซรัปหรือน้ำสตรอวร์เบอร์รี่เข้มข้น โดยให้หอมหวานที่ภาพรวมกลิ่นมีความใส แต่ก็มีความนวลๆ รองพื้นให้กลิ่นไม่ได้โล่งโจ้งเกินไป ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งกลิ่นที่ฉีดปุ๊บ ภาพเบอร์รี่สีแดงนำทัพด้วยสตรอว์เบอร์รี่ก็มาปั๊บเลย ถือเป็นอีกกลิ่นที่ให้ความเพลินเพลินและสนุกในการดมกลิ่นมาก และที่สำคัญกวาดคำชมจากคนที่ชอบกลิ่นสตรอว์เบอร์รี่ติดหวานมาได้แบบไม่ยากจริงๆ

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล สามารถเป็นได้ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่เขียน เพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นได้ทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://hildesoliani.com/profumo-e-gusto-in-liberta/fraaagola-saalaaata/

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น