วันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2565

Review: Shiro Fragrance - Savon


 Shiro Fragrance - Savon

จุดเริ่มต้นในปี 1989 ที่ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น กับการเป็นร้านขายของที่ระลึก ปลูกสมุนไพรต่างๆ และการทำของขวัญเฉพาะ โดยมาจากวัตถุดิบและส่วนผสมต่างๆ ที่มาจากธรรมชาติของท้องถิ่นด้วยความรู้ที่เจนจัดของเจ้าของแบรนด์ จนได้ก่อสร้างสร้างตัวมาเป็นธุรกิจ Supplier ด้านการผลิตวัตถุดิบและส่วนผสมทางด้านความงามให้แบรนด์ต่างๆ มากมาย จนมาถึงปี 2009 จึงได้เปิดตัวแบรนด์ของตัวเองออกมาในการสร้างสรรค์สกินแคร์ บอดี้แคร์ แฮร์แคร์ เมคอัพ และเครื่องหอมต่างๆ ที่รวมถึงน้ำหอม ซึ่งทั้งหมดอยู่ภายใต้การเป็นแบรนด์ Shiro ในการส่งต่อผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้ทั่วโลก เพราะขยายไปจำหน่ายที่ UK และ US แล้วด้วยในทุกวันนี้ 

ในเรื่องของน้ำหอมกับการเป็น Shiro Fragrance เองก็ถือว่าได้สร้าง Collection ออกมาเป็น 2 ส่วน คือ Shiro Perfume (สาย Exclusive) กับ Shiro Classic (สายน้ำหอมแนว Mass Market) ซึ่งทั้ง 2 Collections นี้ต่างเอาความเป็นสไตล์การสร้างสรรค์กลิ่นแบบญี่ปุ่นมาสื่อสารด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ซึ่งทำให้น้ำหอมแต่ละโซนได้รับความนิยมไม่น้อยเลยทีเดียว เช่นนั้น เมื่อได้มีโอกาสได้เจอกับแบรนด์นี้ ก็ไม่ยอมที่จะพลาด Signature Scent ที่แบรนด์ปูไว้กับกลิ่นที่ถือว่าได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ของสาย Shiro Classic นั่นคือ Savon ซึ่งจะมีการถ่ายทอดเนื้อกลิ่นออกมาอย่างไร ว่ากันได้ตามนี้เลย

กลิ่นเปิดชวนนึกถึงวิตามินซีเม็ดสีเหลืองขนาด 100 mg. มากเลยทีเดียวเพราะเนื้อกลิ่นจะมีโทน Citrus เปรี้ยวหอมทที่ให้กลิ่นออกทางสว่างๆ ในลักษณะของกลิ่นแบบเลมอน ที่จะมีกลิ่นที่คาบเกี่ยวระหว่างความเปรี้ยวแกมหวานหอมของลิ้นจี่มาผสมผสานกับกลิ่นออกทางเปรี้ยวหอมหวานของพลัมที่เสริมเข้ามาแบบกำลังดี แต่ที่เนื้อกลิ่นมีความครีมมี่หน่อยๆ เพราะแกนหลักของกลิ่นอย่าง Musk และแอมเบอร์ (ที่ตัดโทนอุ่นๆ ออกไปก่อน) ที่จะมีอิทธิพลสูงมากตั้งแต่ต้นไปยันจบ เลยทำให้ช่วงต้นเป็นกลิ่นลักษณะที่ให้ความหอมสดชื่นสว่างๆ แบบเปรี้ยวอมหวานที่เข้าถึงได้ง่ายมาก และที่สำคัญเนื้อกลิ่นไม่ได้อัดความเป็นโทนเปรี้ยวจนรู้สึกแบบยัดเยียดเกินไป ให้ความกำลังดีมีความสุภาพตั้งแต่เริ่มต้นแบบที่ไม่กวนใครและไม่ทำให้ใครยี้ ซึ่งเข้าทางชัดเจนในการเป็นกลิ่นอายแบบสไตล์ญี่ปุ่นที่เน้นความเกรงใจผู้อื่นเป็นสำคัญ

เมื่อเนื้อกลิ่นเริ่มมีความเปลี่ยนแปลงในการเป็นโทนออกทางครีมมี่สะอาดๆ มากขึ้นและมีโทนกลิ่นกึ่งสบู่ดอกไม้เข้ามาเป็นตัวเสริม โดยที่ไม่ได้ลดทอนความเป็นโทน Citrus ติดครีมมี่ในช่วงต้นแต่อย่างใด ก็เป็นการเข้าสู่ช่วงกลางของน้ำหอมที่ชัดเจนเลยว่าเป็นกลิ่นออกทางสบู่ที่มีมิติความหอมนวลๆ แกมเปรี้ยวอมหวานแบบครีมมี่ที่จะมีมากขึ้นมาอีก 1 ขั้นแต่ก็ไม่ได้หนาแน่นแต่อย่างใด ให้ความอวลๆ แกมสุภาพที่มีความเปรี้ยวหอมแกมหวานแนววิตามินซีแบบกำลังดี แต่ความชัดเจนของลิ้นจี่จะจางลงไปให้พลัมเป็นตัวเด่นเสริมด้วยเลมอนแทน ซึ่งพลัมจะมีกลิ่นของมะลิมาสร้างความนวลๆ แกมกลิ่นสบู่ติดกุหลาบอ่อนๆ เสริม ทำให้ได้กลิ่นนวลสว่างแกมหวานอมเปรี้ยวหอมที่ไม่โฉ่งฉ่างที่ตัดทอนความเย้ายวนออกไปเสียบเกือบทั้งหมด ซึ่งก็บอกได้เต็มปากตั้งแต่ตอนนี้เลยว่าเป็นโทน Daily Scent ที่เข้าถึงได้ง่ายและมีความเป็นสไตล์สุภาพที่จะมีผลไม้ กลิ่น Citrus และสบู่ดอกไม้นวลๆ ให้ดูสะอาดและสดชื่นแกมอวลได้แบบระเรื่อๆ พอเหมาะ 

เมื่อเข้าสู่ช่วงท้ายความเป็น Musk กับแอมเบอร์จะเป็นตัวหลักในการเดินกลิ่นซึ่งตอนนี้จะได้กลิ่นออกทางไม้หอมอ่อนๆ แฝงอยู่ให้มีมิติความหอมนวลแกมสว่าง โดยที่โทนสบู่กึ่งสดชื่นและอวลอ่อนๆ จากช่วงกลางจะลงเป็นเหนึ่งในองค์ประกอบของกลิ่นโทนนุ่มสะอาดจนกลายเป็นปลายกลิ่นไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งถือเป็นความเรียบง่ายที่ยังไงก็รอด ให้ออร่าแบบสะอาดๆ มีความสดชื่นแกมหวานอมเปรี้ยวอ่อนๆ บางๆ ไปเรื่อยๆ เป็นการปิดท้ายแบบที่คุมโทนความสุภาพ ไม่รบกวนใครและให้ความเรียบง่ายและมินิมอลที่ยังไงก็รอดสูงมาก

เหมาะสำหรับ - Unisex เพราะกลิ่นมีความกลางสุดๆ ในการใช้งานที่ไม่ว่าเพศไหนก็เข้าถึงได้ไม่ยาก และสามารถใช้ได้ตั้งแต่เด็กๆ (แบบฉีดเสื้อที่สวม) เป็นต้นไปได้เลย จึงเข้ากับทุกสถานการณ์ยามกลางวันแบบกวาดหมดครอบจักรวาลสุดๆ Daily Scent ชัดเจน ส่วนยามค่ำคืนเน้นการใส่แบบสะอาดๆ สบายๆ จะดีที่สุด เพราะเนื้อกลิ่นไม่ได้มาสายเย้ายวนแต่อย่างใด

ความทน - แม้จะเป็น EDP แต่เพราะพื้นฐานกลิ่นไม่ได้หนักหน่วง ความทนเลยอยู่ที่ราวๆ 6 ชม. เป็นสำคัญ มีบวกลบแน่นอนที่ราว 2 ชม. ตามแต่ละสภาพผิวและจำนวนสเปรย์ที่ใช้งาน

การกระจาย - มาสาย Safe Scent แบบเต็มตัว เพราะเริ่มที่กลิ่นกระจายปานกลางในช่วงต้น แล้วจะลดลงมาเรื่อยๆ จนปิดท้ายที่ติดผิวเอาเมื่อตอนผ่านไปแล้วราวๆ 4 - 5 ชม. แต่กลิ่นก็ยังตีขึ้นยามร่างกายมีความร้อนจากการขยับเนื้อตัวอยู่บ้าง ซึ่งก็ตรงไปตรงมาเลยว่ากลิ่นนี้ไม่ได้เน้นการปล่อยพลัง แต่เน้นให้เรามีโทนกลิ่นที่สดชื่นนวลๆ แกมสะอาดแบบที่ไม่รบกวนผู้คนมากเกินไปนั่นเอง

สรุป - เนื้อกลิ่นไม่ได้จับต้องที่การปล่อยพลัง แต่เอาความเป็นพื้นฐานแบบคนญี่ปุ่นที่มีความเกรงใจผู้อื่นมาเป็นหลักในการสร้างสรรค์กลิ่น โดยเอากลิ่นหอมอ่อนๆ ที่มีความสดชื่น ความนวล ความสะอาด และความสว่าง มาถ่ายทอดเป็นกลิ่นที่ใช้งานง่ายตอบโจทย์คนที่ไม่ได้ชอบกลิ่นแรงๆ แน่นๆ หรือฉุนจัด และที่สำคัญให้ลักษณะกลิ่นแบบ Daily Scent ที่ครอบจักรวาลการใช้งานได้ทั้งครอบครัว ไม่แปลกใจที่จะเป็น Signature Scent ของแบรนด์ และเนื้อกลิ่นเองก็ให้โทนกลิ่นตามชื่อแบรนด์ได้ครบถ้วนมากด้วยเช่นกันกับคำว่า Shiro = สีขาว 

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล สามารถเป็นได้ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่เขียน เพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นได้ทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://shiro-shiro.us/collections/shiro-classics/products/savon-eau-de-parfum

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น