วันอังคารที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

Review: Lorenzo Villoresi - Dilmun

Lorenzo Villoresi - Dilmun

ในการสร้างสรรค์กลิ่นของ Lorenzo Villoresi จะมีอยู่กลิ่นหนึ่งที่ดึงเอาสถานที่ ในตำนานเรื่องเล่าของชาวเมโสโปเตเมียที่ถือเป็นสรวงสวรรค์และดินแดนแห่งความสุข ไม่ว่าจะผู้คนหรือสรรพสัตว์ต่างอยู่ร่วมกันท่ามกลางธรรมชาติ โดยไม่ทำร้ายซึ่งกันและกัน แล้วนำถ่ายทอดกลิ่นออกโดยมีแก่นหลักที่เป็นโทนสว่าง มีความรื่นรมย์ และมีเนื้อกลิ่นที่ให้ความผ่อนคลาย และเอาความสุขที่คาดว่าน่าจะมีอยู่ในสถานที่แห่งนั้นมาสู่การเป็นน้ำหอมที่มีความเฉพาะตัวและมีเสน่ห์ และนั่นก็คือ Dilmun

ซึ่งเมื่อได้พินิจพิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ก่อนการใช้งาน สิ่งหนึ่งที่จับต้องได้เลย คือ แก่นของกลิ่นคือ “ดอกส้ม” ที่จะมีการผสมผสานทั้งดอกส้มที่สกัดด้วยไอน้ำ (Neroli) ให้กลิ่นโทน Green Citrus และดอกส้มที่สกัดด้วยตัวทำละลาย (Orange Blossom) ให้กลิ่นลูกผสมระหว่างดอกไม้ขาวกึ่ง Citrus ซึ่งก็บอกกลายๆ ได้เลยว่า เนื้อกลิ่นต้องมีพื้นฐานสว่างแน่นอน และผลจากการใช้งานก็ออกมาเป็นในลักษณะนี้

ช่วงเปิดคือสวรรค์ของคนที่ฟินกับดอกส้มแกมโทน เขียว และ Citrus อย่างชัดเจนมาก พื้นฐานกลิ่นคือดอกส้มที่ผสมผสานกันระหว่าง Neroli และ Orange Blossom ชัดเจน เพราะจะได้ทั้งความเขียวแกมเปรี้ยว ตามด้วยเปรี้ยวหอมนวลสะอาด โดยจะมีโทนกลิ่นสาย Green แบบใบไม้เขียวๆ และโทน Citrus ล้อมรอมสร้างความสว่างไสวและ Sparkling ซ่าๆ แกมขมอมเปรี้ยวในเนื้อกลิ่นชัดเจน แต่สิ่งที่สร้างความซับซ้อนในความสดชื่นในเนื้อกลิ่นต้องยกให้โทนกุหลาบและมะลิที่เป็น Hint ซ่อนอยู่ เนื้อกลิ่นเลยจะไล่เรียงจากเขียว > เปรี้ยว > ปร่าซ่า > นวล ทั้งทั้งหมดอยู่บนพื้นฐานกลิ่นที่มีโทนสว่างขาวเป็นสำคัญ อ้อ ที่สำคัญเนื้อกลิ่นมีลักษณะแบบโทน Cologne เสียด้วย

เนื้อกลิ่นในช่วงกลาง ยังคงยกพลมาจากช่วงต้นทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นโทนสดชื่นเขียวปร่าแกมเปรี้ยวหอม Citrus และความนวลแกมดอกไม้ขาวที่ชัดมากขึ้น แน่นอนว่าความเป็นดอกส้มทั้ง 2 แบบยังคงผสมผสานกันเป็นอย่างดี และชัดเจนมากที่สุดมากกว่าช่วงต้นเสียด้วย โดยในความเขียวเปรี้ยวปร่าแกมนวลสะอาดนั้นจะมีตัวช่วยที่น่าสนใจคือ Petitgrain หรือกิ่งก้านส้มที่มาให้ความเขียวแกมเปรี้ยวให้ชัดเจนมากขึ้น และฝั่งดอกมะลิที่เสริมให้กลิ่นดอกไม้ขาวแกมเปรี้ยวอมหวานสะอาดมีชั้นเชิงที่ตีคู่ไปกับโทนสดชื่นได้อย่างสมดุลย์ แต่เมื่อจับกลิ่นลงไปแบบดมใกล้ผิว จะจับต้องได้อีกโทนนั่นคือโทนยางไม้และวานิลลาที่เข้ามาทำให้เนื้อกลิ่นมีโทนอบอุ่นแฝง และทำให้เนื้อกลิ่นที่ขาวสว่างสดชื่น เริ่มมีสีครีมนวลเข้ามาเสริมแบบค่อยเป็นค่อยไปได้พอเหมาะ และเป็นหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่จะนำไปสู่ช่วงท้ายของน้ำหอมด้วยเช่นกัน

การเปลี่ยนแปลงในช่วงท้าย คือ การลดลทบาทของโทน Citrus และ Green ลงเหลือเพียงบางเบาคลอๆ กลิ่น รวมถึงดอกส้มเองก็จะลดหน้าที่ลงมาเหลือเพียงความนวลเปรี้ยวอมหวานสะอาดในลักษณะของ Orange Blossom ที่สร้างออร่านวลสะอาดในเนื้อกลิ่น แต่แก่นหลักจริงๆ จะเปลี่ยนเป็นโทน Oriental Woody แทน เพราะจะมีวานิลลา ไม้จันทน์หอม และไม้ซีดาร์ เป็นแกนหลักที่ทำให้กลิ่นมีความเป็นโทนติดอบอุ่น ที่มีลูกผสมระหว่างความเป็นนวลแบบ Lite ของวานิลลาที่สอดรับกับกลิ่นไม้นวลๆ ของจันทน์หอมที่มีซีดาร์มาผสานทำให้ได้อารมณ์แบบกลิ่นกระดาษหน่อยๆ เข้ามาพร้อมกลิ่นอบอุ่นสบายๆ กำลังดีคลอๆ สร้างความรู้สึกผ่อนคลายและสว่างนวลได้ลงตัว

เหมาะสำหรับ - Unisex แต่จะไพล่ไปทางผู้หญิงมากกว่า เพราะว่าโทนดอกไม้ขาวเป็นแก่นหลัก เพียงแต่เอาเข้าจริงยังไงผู้ชายก็ใส่ได้ ยิ่งถ้าใส่กับเสื้อผ้าสีขาวสะอาด ยิ่งเข้ากันอย่างสุดๆ ซึ่งกลิ่นเข้าได้กับทุกสถานการณ์ยามกลางวัน ไม่ว่าจะทางการหรือทั่วๆ ไป ส่วนยามค่ำคืนเน้นใส่แบบทั่วไป หรือเน้นออกงานสุภาพจะดีกว่า เพราะเนื้อกลิ่นไม่ได้มาสายเร้าใจอยู่เป็นทุนเดิม

ความทน - อันนี้อาจจะไม่ได้ว้าวซ่ามาจากไหนเท่าไหร่ เพราะอยู่ที่ค่าเฉลี่ยที่ราวๆ 6 ชม. เป็นสำคัญ แน่นอนว่ามีบวกลบราวๆ 2 ชม. ซึ่งก็ว่ากันที่จำนวนสเปรย์และสภาพผิวผู้ใช้ด้วยส่วนหนึ่ง

การกระจาย - กระจายดีในเบื้องต้นให้ความสดชื่นสว่างและรื่นรมย์มากจริง แล้วจะผ่อนลงมาปานกลางราวๆ 2 - 3 ชม. แล้วถึงลดลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัว ก่อนปิดท้ายที่ Skin Scent เมื่อผ่านไปราวๆ 5 - 6 ชม. ถึงค่อยๆ จางไปตามลำดับ

สรุป - Dilmun ในมุมมองของสุคนธกรน่าจะเป็นดินแดนที่สดชื่น สว่างไสว และรื่นรมย์เป็นแน่แท้ เพราะเนื้อกลิ่นมีพื้นฐานที่สร้างความรู้สึกทั้ง 3 อย่างที่กล่าวได้ครบถ้วนมากๆ ที่สำคัญเนื้อกลิ่นไม่ได้ไพล่ไปทาง Traditional Cologne ที่มีดอกส้ม Neroli เป็นพื้นฐาน นัก แต่เอาแก่นหลักของ Orange Blossom เป็นผู้เล่นหลักที่ให้ความรู้สึกแตกต่างได้ดี โดยยังมี Concept แบบสไตล์ร่วมสมัยได้ครบถ้วน ถือเป็นอีกหนึ่งกลิ่นที่ตกคนชอบดอกส้มได้ไม่ยากจริงๆ

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล สามารถเป็นได้ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่เขียน เพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นได้ทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.lorenzovilloresi.it/eu_en/dilmun-eau-de-toilette

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น