วันพุธที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2559

Review: Montale – Red Vetyver

Montale – Red Vetyver

เข้าสู่ตัวที่ 2 ของ Montale’s Week ที่จะจัด 7 วัน 7 กลิ่นของแบรนด์นี้ ซึ่งมาถึงตัวที่ 2 จะต้องนำเสนอกันหน่อยแบบที่อาจจะทำให้คนที่รัก Terre d’Hermes รู้สึกได้ถึงการที่มีอีกตัวที่คล้ายมาก แต่ดันกระจายดีเว่อร์กว่าซะงั้นขึ้นมาทันที นั่นคือรุ่น Red Vetyver นั่นเองงงงงง

ต้องบอกว่ากลิ่นมันคล้ายมาก แต่มีความต่างอยู่ให้รู้สึกได้ นั่นคือการที่กลิ่นอายของความเป็น Woody และ Smoky มันเด่นกว่าแถมแน่นกว่าอย่างเห็นได้ชัด เพราะเปิดต้นทางมากลิ่นก็มาแบบเกรฟฟรุตที่เป็นซิตรัสและมีกลิ่นเปลือกส้มผสมผสานอยู่ประปรายก็จริง แต่กลิ่นอายของโทนพริกไทยและไม้หอมมันเด่นเด้งขึ้นมากลบซะเยอะ เลยทำให้กลิ่นต้นเป็น Woody เด่นซิตรัสรองลงมา แล้วกลิ่นอายของ Citrus จะเริ่มเบาลงในช่วงกลางแบบที่ยังคงความสดชื่นอยู่ ให้โทนไม้หอมอย่างซีดาร์มาเด่นตีคู่กับพริกไทยและกลิ่นโทนเม็ดผักชีที่จะมาแบบซ่าๆ เป็นตัวหลักในการปล่อยของซึ่งแน่นอนว่ามาแน่นกันเลยทีเดียว แบบสามารถสูดเอาได้เต็มปอดแบบไม่ต้องก้มดม ซึ่งกลิ่นของหญ้าแฝกจะมีแทรกเข้ามาเรื่อยๆ จนมาถึงช่วงปิดท้ายที่จะลากยาวด้วยกลิ่นอายของหญ้าแฝกที่เด่นจัดขึ้นมา กลั้วกับอิทธิพลของไม้ซีดาร์กับเครื่องเทศที่ยังมีอยู่ประปราย เลยทำให้จะได้ความเป็นหญ้าแฝกแห้งๆ เต็มเม็ดเต็มหน่วยทีความรู้สึกนิ่งๆ ติดความเป็น Smoky ให้รู้สึกได้ โดยกลิ่นของพิมเสนจะเป็นตัวลอยอ้อยอิ่งแบบทีระดับตีขึ้นควบคู่ ภาพรวมจึงเป็นกลิ่นใกล้เตียTerre d’Hermes มากไม่ว่าจะทั้งแบบ EDT และ Parfum แต่สิ่งที่แบรนด์นี้มาเต็มกว่านั่นคือความแน่นและการกระจายที่เอาอยู่สุดๆ แบบไม่ต้องควานหาเลย

เหมาะสำหรับ ผู้ชายวัยทำงานขึ้นไป และอย่างน้อยต้องเป็นคนรับความแน่นของน้ำหอมได้ในระดับหนึ่ง เพราะตัวนี้มีความแน่นเป็นทุนเดิม กลิ่นเลยจะไม่ได้ออกทางเบาบางหอมแบบสบายๆ เข้าถึงง่ายแบบ Terre d’Hermes มากนัก เรียกว่าถ้าจัดสเปรย์เหมาะสมจะเข้ากับทุกสถานการณ์ยามกลางวัน ไม่ว่าจะทางการหรือไม่ทางการเลย ให้ลุคภูมิฐานมากเสียด้วย ออกกำลังกายรอช่วงท้ายๆ จะดีที่สุด ส่วนยามค่ำคืน ถ้าต้องการกลิ่นสดชื่นแน่นๆ สู้กับคนอื่นที่หวานเย้ายวนหาคู่กันเข้าไปเวลาท่องราตรี ตัวนี้เอาอยู่ไม่น้อยเลยล่ะ 

ความทน เรียกว่างามตามประสา Montale กับ 8 ชม. ขึ้นไป ส่วนตัวเจอที่ 15 ชม. แบบว่าหนำใจกันเลยแหละ 

การกระจาย กลิ่นกระจายดีมากและคงการกระจายแบบงามๆ เต็มๆ แบบนี้ตั้งแต่ต้นยันช่วงกลางเลย มีในช่วงท้ายๆ ที่จะลดหลั่นลงมาเป็นดี ปานกลาง และออร่ารอบๆ ตัวตามเวลาที่ผ่านไป 

ทิ้งท้าย เอาจริงๆ ผมเองไม่ได้ปลื้ม Terre d’Hermes ที่ให้ความเป็นกิมจ๊อเดินได้กับผมมากนัก เพราะเคมีไม่ได้ แต่พอมาตัวนี้ลดความเป็นกิมจ๊อไปได้เยอะ แถมกลิ่นมันแน่นกว่า เรียกว่าไม่เสียดายเงินที่ได้มาเลยทีเดียว 

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ถ้าผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ รบกวนติดต่อเพื่อขอเป็นลายลักษณ์อักษรและผมต้องอนุญาตก่อน ไม่เช่นนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้แบบไม่ได้ขอกันก่อนดีๆ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ

Credit ภาพ - http://www.luckyscent.com/images/products/35443.jpg?width=400&404=product.png

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น