วันอาทิตย์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2564

Review: Tada Parfumeur - Pillow Talk

Tada Parfumeur - Pillow Talk

ถ้าบอกถึงน้ำหอม Niche Perfume สัญชาติไทยยุคบุกเบิกที่ทำให้คนเล่นน้ำหอมทั้งในและต่างประเทศได้มารู้จักว่า “สุคนธกรไทย ไม่ธรรมดา” ที่นอกจาก PRYN PARFUM, Strangers Parfumerie, Parfum Prissana และ Cafe de Parfum ก็ต้องมีอีกแบรนด์ที่ลืมไปไม่ได้นั่นก็คือ Natural Teller ที่แม้ว่าปัจจุบันแบรนด์นี้จะไม่ได้วางจำหน่ายน้ำหอมแล้วและเหมือนจะหายไป แต่จริงๆ สุคนธกรก็ยังไม่ได้หายไปไหน เพราะว่า

สุคนธกรเขากลับมาอีกครั้งกับแบรนด์ใหม่อย่าง Tada Parfumeur ที่คราวนี้ได้สร้างสรรค์ออกมากับ 2 กลิ่นแรกในการเป็นแบรนด์ใหม่อย่าง Pillow Talk และ Oceanic Mojito ซึ่งเมื่อชื่นชอบในผลงานมาตั้งแต่การเป็น Natural Teller แล้ว ก็ต้องมาตามกันต่อว่าการวาง Concept กลิ่นในการเป็นแบรนด์ใหม่ล่าสุดนี้จะออกมาในรูปแบบไหน เช่นนั้นก็มาเจอกันหน่อยกับรุ่นแรกที่ได้ใช้จนเต็มอิ่ม ซึ่งนั่นก็คือ Pillow Talk

สิ่งแรกที่เห็นชื่อรุ่นคำว่า Pillow Talk ก็จะนึกไปเองอัตโนมัติถึงการสนทนาที่โรแมนติคแกมอีโรติคหลังกิจกรรมเข้าจังหวะบนเตียง ก็เลยคาดการณ์ไปว่าเนื้อกลิ่นต้อง มาสาย Sexy Happy Full แน่ๆ  แต่สิ่งที่ได้คือการพลิกมุมมองไปอีกอย่างเลยเพราะว่า

ช่วงเปิดความเป็น Fruity ใสๆ น่ารักแกมหวานหอมของลูกแพร์จะให้ความหวานแกมฉ่ำหน่อยๆ กำลังดีวูบขึ้นมา พร้อมกับลูกผสมสายหอมอมเปรี้ยวหอมหวานอย่างลิ้นจี่ที่พุ่งมาแบบแพ็คคู่ + แถมกลิ่นออกทาง Citrus แกมหวานอมเปรี้ยวที่คาดว่าน่าจะเป็นส้มพ่วงมาด้วย แล้วเพียงชั่วขณะความเป็นราสเบอร์รี่จะมาเสริมทำให้เนื้อกลิ่นมีความน่ารักออกทางโทนสีชมพูขึ้นอีกสเต็ป เพราะเป็นโทนหวานหอมเฉพาะที่ให้ความเป็นสีชมพูเข้ม แต่พอมาเจอกับสายใสๆ หอมหวานรื่นจมูกอย่างลิ้นจี่และลูกแพร์ เลยเจือจางความชมพูเข้มหวานลงมาเป็นชมพูอ่อนน่ารักแกมโรแมนติคเลย ซึ่งชัดเจนเปิดมาก็มาสาย Feminine ตรงตัว และสิ่งที่เริ่มเสริมเข้ามาให้ความเป็นผู้หญิงมากขึ้นอีก 1 สเต็ปนั่นก็คือ โทนออกทางกุหลาบแกมโบตั๋นที่จะเข้ามารับลูกเป็นปีเป็นขลุ่ย สร้างโทนกลิ่นโรแมนติคขึ้นมาอีก และเป็นตัวที่ปูทางไปสู่ช่วงกลางชัดเจน

ต้องบอกว่าโทนกลิ่นกุหลาบกึ่งโบตั๋นนี่แหละที่จะเป็นแกนหลักของกลิ่นที่จะอยู่ยาวไปจนถึงช่วงท้ายหลังจากนี้ เพียงแต่จะมีอิทธิพลมากหน่อยในช่วงกลาง เพราะเนื้อกลิ่นจะมีลูกผสมที่มีความเป็นโทนสีชมพูอ่อนแกมกุหลาบสดชื่นแบบโบตั๋น และก็จะมีความลึกโรแมนติคแบบกุหลาบแดงที่ไม่ได้เข้าโทนแห้งจนกลายเป็นคุณนายจ๋าๆ มาจากไหน ซึ่งพอมีโทนราสเบอร์รี่ & เดอะแกงค์ ที่เป็นโทนผลไม้หอมหวานมีความเป็นสีชมพูอ่อนน่ารักเข้ามาผสมผสานเลยกลายเป็นที่จะโรแมนติคก็ได้ จะหวานชื่นก็ดี จะลึกซึ้งก็สามารถ เพราะความซับซ้อนของกุหลาบนี่แหละ และพอจับต้องเนื้อกลิ่นดีๆ จะมีโทนกลิ่น Floral ติดแป้งบางๆ ของไอริสเข้ามาเสริมให้มีความเป็นโทนติดแป้งหน่อยๆ ร่วมด้วย รวมถึงการมีกลิ่นออกทางคล้ายไม้จันทน์หอม แกมกลิ่นสนไพน์ที่มีโทนปร่าอวลหน่อยๆ เข้ามาเป็นเสมือนพื้นกลิ่นที่ให้ความเป็นกึ่งยางไม้กึ่งไม้หอม เลยทำให้มีความอบอุ่นรื่นรมย์แกมอวลกำลังดีที่แฝงอยู่ในความโรแมนติคของเนื้อกลิ่นร่วมด้วย

การเปลี่ยนแปลงในการเข้าสู่ช่วงท้ายค่อนข้างมีความชัดเจนมากขึ้นจากโทนไม้หอมอวลๆ แกมอบอุ่น ที่เป็นฉากหลังในช่วงกลางจะเด่นขึ้นมาจนเริ่มจับต้องได้ว่าเป็นกลิ่นของ Amyris ที่จะมีตัวเสริมอย่างชอคโกแลตที่ให้ความอบอุ่นแกมหอมอวลติดขมแต่มีความหวานเจืออยู่ข้างใน เนื้อกลิ่นจะมีลูกผสมของความเป็นโทน Amber กึ่งไม้หน่อยๆ ที่คิดว่าน่าจะเป็นกลิ่นโทนแบบ Amberwood หรือ Ambroxan ที่มาทำให้กลิ่นมีมิติของโทนอบอุ่นแกมอวลเข้ามาร่วมด้วย แต่เพราะความเป็นลูกครึ่งกุหลาบแกมโบตั๋นยังตามมาในช่วงนี้ และมีตัวช่วยให้โทนแป้งอ่อนๆ ร่วมด้วย ก็เลยได้ความรู้สึกแบบความเป็นแป้งกุหลาบที่มีความลึกของกลิ่นกำลังดีฉาบหน้าอยู่บนความอวลแกมไม้หอมที่ได้ทั้งความอบอุ่น ความอวลกึ่ง Aromatic ที่กำลังพอเหมาะ เลยทำให้เสริมความรู้สึกต่อเนื่องจากช่วงกลางที่จะโรแมนติคก็ได้ จะหวานชื่นก็ดี จะลึกซึ้งก็สามารถ + เพิ่มความอบอุ่นอวลมีเสน่ห์ร่วมด้วย เป็นการปิดท้ายกันยาวๆ ไป 

เหมาะสำหรับ - ผู้หญิงทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไปก็สามารถใช้งานกลิ่นนี้ได้สบายมาก เพราะเสริมโทนออกทางน่ารักแกมโรแมนติค และมีความทันสมัยเสียด้วย ซึ่งเข้ากับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันและกลางคืนแบบทั่วๆ ไป ที่กวาดการใช้งานแบบทั่วไป ใส่ทำงาน Office ใส่ออกงานแบบไม่ได้ทางการจัดๆ หรือใส่แนวโรแมนติคก็สามารถ แต่จะมีที่ไม่เข้าทางเท่าไหร่นั่นก็คือ การใส่ออก Activities ลุยๆ และออกกำลังกาย ที่ข้ามไปจะดีกว่า ส่วนผู้ชาย ถ้าไม่มายด์เรื่องความ Feminine ที่เป็นแกนหลัก และรอได้ที่จะไปเจอ Unisex ที่ช่วงท้าย จัดได้ไม่มีปัญหา 

ความทน - เฉลี่ยค่ากลางอยู่ที่ 8 ชม. เป็นพื้นฐาน และไปต่อได้อีกอิงตามสภาพผิวผู้ใช้และจำนวนสเปรย์ ซึ่งส่วนตัวเจอไปที่ 12 ชม. เสมอ ในการใช้งานที่ 6 สเปรย์

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีและยาวไปจนถึงช่วงกลางเลย และเมื่อพ้นไปซัก 3 ชั่วโมง ถึงลดลงมาปานกลาง แล้วลงเป็นออร่ารอบๆ ตัวปิดท้าย จนถึงประมาณชั่วโมงที่ 7 - 8 ตามแต่ละสถาพผิวและอากาศ ก็จะเริ่มเป็น Skin Scent 

สรุป - ไม่ได้อีโรติคแน่นอน เน้นโรแมนติคเน้นๆ ให้ลองนึกภาพถึงกลิ่นอายผู้หญิงที่เป็นแฟนเราที่มีความเป็นกุหลาบแกมผลไม้ให้ออร่าสีชมพูอ่อนเข้ามา แบบนอนเล่นอยู่ เราควรเข้าไปหยอกเอินด้วยความรักและความสัมพันธ์อันงดงาม โดยที่ไม่ได้ลงเอยด้วย Sex ไหม ถ้าใช่ Pillow Talk ของ Tada Parfumeur ก็บอกออกมาแบบนี้แหละ

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.facebook.com/TadaParfumeur

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น