Imaginary Authors - Cape Heartache
ในน้ำหอมหลายๆ รุ่นของ Imaginary Authors ที่จะต้องมีเรื่องราวและเรื่องเล่าบางอย่างที่เป็นที่มาที่ไปของน้ำหอม มักจะมีการกล่าวถึงบุคคลสมมติคนหนึ่งขึ้นมา นั่นก็คือ Philip Sava ที่เป็นนักเขียนเรื่องราวแนวสำรวจและเดินทางไปยังที่ต่างๆ และเขียนเรื่องราวออกมาโน้มน้าวจนทำให้ผู้อ่านสามารถตีความไปได้เลยว่านี่น่าจะเป็นเรื่องจริง เลยทำให้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในความแตกต่างที่สร้างสรรค์ออกมาผ่านงานเขียน ซึ่งบุคคลสมมติคนนี้เรียกว่าโลดแล่นไปในน้ำหอมหลายรุ่นเลยทีเดียวของแบรนด์ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีหนึ่งในรุ่นที่ไม่ธรรมดาในการสร้างสรรค์กลิ่นอย่าง Cape Heartache รวมอยู่ด้วย ซึ่งเรื่องราวเป็นยังไง ไหนเล่าอาการมาหน่อยซิ
เรื่องราวคำโปรยโดยสรุปของรุ่นน้ำหอม - เป็นเรื่องราวในนวนิยายสำรวจที่ได้รับความนิยมอย่างมากของ Philip Sava ที่ Based on การเขียนมาจากการสำรวจทางฝั่งแปซิฟิคตะวันตกเฉียงเหนือของอเมริกาในปี 1881 สมัยที่ยังเป็นวัยสะออนอยู่ ซึ่งสถานที่จะเป็นบ้านริมชายฝั่งที่มีต้นไม้เก่าแก่มากมาย (เอาเป็นว่าบ้านติดทะเลและป่าเก่าแก่) กับความรักที่เกิดขึ้นกับสาวชาวอินเดียนแดง โดยมีธีมหลักของเนื้อเรื่องคือการทิ้งสิ่งสถานที่ที่จากมา แล้วมาเจอกับความผ่อนคลายสบายใตและความปลอบประโลมจากสถานที่ใหม่ๆ คนใหม่ๆ ให้กับชีวิต
และทุกอย่างในการเป็น Cape Heartache ก็ขมวดมารวมกันทั้งหมดในการสร้างสรรค์กลิ่นออกมาในรูปแบบนี้เลย
ความโดดเด่นจะมาแบบเต็มที่และคงอยู่อย่างยาวนานเลยของการเป็นกลิ่นโทนไม้สนไพน์ที่เป็นแกนหลักยาวไปจนถึงช่วงท้ายของน้ำหอม โดยจะเริ่มต้นที่กลิ่นอายไม้สนติดสดชื่นหน่อยๆ โดยจะมีความเป็นกลิ่นโทนไม้สนต่างๆ ที่มีทั้งความเขียวกึ่งยางไม้สนของสน Fir หรือต้นสน Christmas ที่มีความปร่าติด Spicy แกมเขียวหน่อยๆ วูบขึ้นมา และมีกลิ่นของไม้สนไพน์ที่ให้ความหวานหน่อยๆ ติดกลิ่นไม้สนที่มีความเขียว แต่ก็จะมีความตุ่นๆ เล็กๆ แฝงที่ให้ความเป็นธรรมชาติแบบกลิ่นไพน์จริงๆ ไม่ได้มาแบบผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อหรือทำความสะอาด เลยจะได้กลิ่นแนวป่าสนแบบสดชื่นแห้งๆ มากกว่าจะเย็นๆ ชื้นๆ เพียงแต่สิ่งที่เสริมขึ้นมาไวมากคือกลิ่นของสตรอเบอร์รี่ที่มาแบบแนวน้ำสตอร์เบอร์รี่มากกว่าจะเป็นกลิ่นผลสด ซึ่งตอนแรกคิดว่ามันจะไปด้วยกันรอดเหรอ แต่
เป็นการผสมผสานกับแบบสตรอเบอร์รี่ + สนไพน์ ที่ออกมาเก๋มากเกินคาด ซึ่งจะได้กลิ่นยางสนติดปร่าหวานหอมสตรอเบอร์รี่แบบชัดเจนมากจริงๆ ซึ่งเป็นกลิ่นที่ไม่คิดว่าจะเจอและทำเอาประทับใจได้มากเลย และนี่แหละคือการปูทางเข้าสู่ช่วงกลางที่จะเป็นกลิ่นสนไพน์ที่มีความเป็นยางสนแกมสตรอเบอร์รี่กันไปยาวๆ เพียงแต่เนื้อกลิ่นจะมีโทนออกทางวานิลลากึ่งใบไม้แห้งเข้ามาร่วมด้วยหน่อยๆ ทำให้กลิ่นมีลักษณะแบบสภาพแวดล้อมมากขึ้นด้วย เนื้อกลิ่นมีความคาบเกี่ยวระหว่างโทนหวานหอมสตรอเบอร์รี่ที่ไม่ได้สาว แต่มีความหวานแบบแตะน่ารักก็ได้ สดใสหน่อยๆ แบบที่แอบมีความแมนของสนไพน์ร่วมด้วย มันเลยดูเป็นกลิ่นที่แตะอารมณ์แบบวัยรุ่นที่มีความกุ๊กกิ๊กแฝงเนียนๆ ไล่เฉดจากแดงใสๆ สู่สีน้ำตาลหรือเอิร์ธโทนผสมผสานกัน ซึ่งเมื่อย้อนกลับไปดูว่าเรื่องราวเป็นอย่างไรในการสร้างสรรค์กลิ่นเลยถึงบางอ้อ เพราะเป็นเรื่องราวความรักในช่วงวัยรุ่นของนาย Philip Sava นักผจญภัยกับสาวชาวอินเดียนแดง สตรอเบอร์รี่เลยเป็นเสมือนตัวแทนความหวานสดใสท่ามกลางกลิ่นอายไม้สนและความอบอุ่นของกลิ่นกึ่งวานิลลากึ่งใบไม้แห้งของสภาพแวดล้อมนั่นเอง
เมื่อกลิ่นของสตรอเบอร์รี่เริ่มเบาลงไปเรื่อยๆ จนเหลือเพียงบางๆ เปิดทางให้กลิ่นไม้หอมแบบแห้งๆ เก่าๆ เริ่มขึ้นมาผสมผสานกับกลิ่นอายสนไพน์ และบรรยกาศอบอุ่นแบบติดกึ่งวานิลลากึ่งใบไม้แห้งมากขึ้น ก็จะเป็นการเข้าสู่ช่วงท้ายเต็มตัวที่เป็นโทนไม้หอมนำทางสุดสิ่งอย่าง แบบมีลูกเอื้อนกลิ่นออกยางสนหน่อยๆ ที่มีความเป็นโทนแห้งๆ มากขึ้น กลิ่นอายจะเป็นลักษณะแบบป่าแห้งๆ ที่ไม่ได้มีโทนเขียวแล้ว แต่จะมีความเป็นบรรยากาศที่มีกลิ่นไม้แห้งๆ ประปรายอวลๆ โดยที่มีกลิ่นสตรอเบอร์รี่บางๆ ผลุบๆ โผล่ๆ บ้างเล็กน้อยแต่ไม่นานนักก็จะจมลงไปกับกลิ่นไม้ จนได้อารมณ์แบบนั่งอยู่ในป่าโปร่งๆที่มีต้นไม้เก่าๆ แห้งๆ เคล้ากลิ่นไม้สนไพน์อวลๆ รายล้อมแบบชัดจัดเต็มกันแบบยาวนานเป็นการปิดท้าย
เหมาะสำหรับ - Unisex ที่ใช้งานได้ทุกเพศ เพราะเป็นกลิ่นที่ออกทางสภาพแวดล้อมและบรรยากาศเลยทำให้เพศไหนก็จับต้องได้ เพียงแต่พื้นฐานผู้ใช้ถ้าชอบกลิ่นไม้หอมหรือกลิ่นสนไพน์เป็นทุนเดิม จะปลื้มปริ่มเอาได้แบบสุดๆ เลย ซึ่งสามารถใช้งานได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันแบบจำนวนสเปรย์เหมาะสม เพราะกลิ่นมีพลังในระดับที่ไม่ธรรมดา และไม่ได้เข้ากับอากาศร้อนๆ มากนัก ซึ่งใส่กับยามทางการได้อยู่ และทั่วๆ ไปอันนี้สบายมาก แต่ถ้าใส่ไปออกกำลังกายบอกเลยอาจจะตึ้บและอึดอัดเอาได้ ส่วนยามค่ำคืนเน้นใส่ทั่วๆ ไปหรือเน้นชิลล์ๆ แบบจิบๆ ในบาร์กลางแจ้งแบบเน้นความแตกต่างไม่เหมือนใครดีกว่า เพราะกลิ่นมันมีความเป็นธรรมชาติของความเป็นไม้ มันอาจจะดูจริงจังมากกว่าที่จะเย้ายวน
ความทน - ยกให้เขาเลย เพราะเจอสูงสุดที่ 20 ชม. คือ อาบน้ำแล้ว 2 รอบกลิ่นก็ยังติดอยู่แบบจริงจังมาก เช่นนั้นยังไงก็เกิน 8 ชม. ได้แน่นอน
การกระจาย - กลิ่นกระจายดีเสมอต้นเสมอปลายยาวนานตั้งแต่ช่วงต้นยันปลายช่วงกลางเลย (นี่แหละถึงต้องใช้แบบจำนวนสเปรย์ให้เหมาะสม) แล้วจะเริ่มลดลงตามลำดับ จนเมื่อเข้าช่วงท้ายไปซักราวๆ 2 ชม. ก็จะคงที่กับการเป็นออร่ารอบๆ ตัวที่กลิ่นตีขึ้นให้คนใส่รับรู้อยู่ตลอดเวลากันให้สุดไปข้าง
สรุป - ไม่ธรรมดาเลย กลิ่นมีความเป็นสภาพแวดล้อมตามเรื่องเล่าและการปูทางสู่ภาพในหัวในการใช้งานได้ดีมาก แถมใส่ความน่ารักแบบวัยรุ่นลงแบบแนบเนียนด้วยสตรอเบอร์รี่ได้อย่างน่าสนใจจริงๆ ต้องบอกเลยว่านี่เป็นหนึ่งในกลิ่นที่มีความ Unique และที่สำคัญให้ความเป็นกลิ่นไม้และกลิ่นสนไพน์ที่เป็นธรรมชาติได้ดีมากจริงๆ
หมายเหตุ:
1.
บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล
สามารถเป็นได้ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่เขียน
เพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นได้ทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”
Photo
Credit -
https://www.amazon.com/Imaginary-Authors-Cape-Heartache-50mL/dp/B0773CLL81
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น